ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวได้ดีในเดือนกรกฎาคมหลังจากที่ ปธน. ทรั้มป์ของสหรัฐฯเดินหน้าบรรลุข้อตกลงการค้าเบื้องต้นกับหลายประเทศเศรษฐกิจใหญ่ทั่วโลก นำโดยกลุ่มหุ้นสหรัฐฯเองและตลาดในภูมิภาคเอเชียที่ได้รับ sentiment เชิงบวก นำโดยตลาดหุ้นเวียดนามและอินโดนีเซียที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงหลังจากสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปและญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรการค้าหลักของสหรัฐฯบรรลุข้อตกลงได้เช่นกันในช่วงปลายเดือน แต่ช้ากว่าที่คาดพร้อมกับข้อตกลงที่จะต้องซื้อสินค้าและลงทุนมูลค่ามหาศาลในสหรัฐฯ ทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นไม่มากนัก แต่ยังสามารถปิดเดือนในแดนบวกได้ ด้านตลาดหุ้นไทยที่แม้จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯได้ ปรับตัวขึ้นและทำผลตอบแทนเป็นอันดับต้นๆของโลก ส่วนหนึ่งเกิดจากการฟื้นตัวจากการถูกเทขายในเดือนก่อนหน้า ร่วมกับการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯและการแต่งตั้งผู้ว่าฯธนาคารกลางคนใหม่ทำให้นักลงทุนคาดหวังพัฒนาการในเชิงบวกจากนโยบายภาครัฐและการคลัง อย่างไรก็ดีมีเพียงตลาดหุ้นอินเดียที่ปรับตัวลงเนื่องจากการเจรจากับสหรัฐฯยังคงยืดเยื้อผิดกับที่นักลงทุนคาดหวัง

ภายในเดือนที่ผ่านมา รัฐสภาสหรัฐฯ สามารถผ่านกฎหมาย One Big Beautiful Bill (OBBB) ซึ่งจะเป็นการขยายอายุกฎหมายลดภาษีฉบับเดิมที่จะสิ้นสุดในปีนี้ออกไป โดยเพิ่มการลดภาษีและเพิ่มการลดการใช้จ่ายภาครัฐมูลค่ามหาศาล ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯในปี 2026 เป็นต้นไป ชดเชยกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายภาษีศุลกากรที่อาจกระทบเศรษฐกิจและเงินเฟ้ออีกระยะหนึ่ง เรามองว่า OBBB จะก่อให้เกิดประโยชน์กับภาคเอกชน บริษัทจดทะเบียน ผู้มีรายได้สูง โรงงานอุตสาหกรรม และธุรกิจพลังงานดั้งเดิม ขณะที่กลุ่มที่เสียประโยชน์คือผู้มีรายได้น้อย พลังงานทดแทน และรถไฟฟ้า

การประชุมนโยบายการเงินของธนคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ประจำเดือนกรกฎาคมเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์นั่นคือคณะกรรมการมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.5% อย่างไรก็ดีมีกรรมการสองท่านโหวตลดดอกเบี้ยผิดทางกับมติคงดอกเบี้ยของที่ประชุม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 1993 ที่มีกรรมการมากกว่า 1 ท่านโหวตแตกต่างกับมติของที่ประชุม นอกจากนั้นที่ประชุมยังปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯลงอีกด้วย ในมุมมองของเรายังเชื่อว่าคณะกรรมการยังมีความพร้อมจะลดดอกเบี้ยและมีความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจมากกว่าการกลับมาของเงินเฟ้อ เพียงแต่กรรมการอาจกำลังรอความชัดเจนจากการเจรจาการค้า ด้านฝั่งยุโรป ธนาคารกลาง ECB กลับมาคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือนหลังจากที่ ECB ลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีเรามองเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ ECB อาจมองเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนร่วมกับการบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ

ภาพรวมการลงทุนประจำเดือนสิงหาคม 2025 คาดว่าตลาดหุ้นโลกจะได้รับ sentiment เชิงบวกมากขึ้นหลังจากสหรัฐฯเดินหน้าบรรลุข้อตกลงการค้ากับประเทศเศรษฐกิจใหญ่ นอกจากนั้นในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งครบกำหนดขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ ทรั้มป์ยังประเทศอัตราภาษีสำหรับประเทศที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในอัตราที่ 15-20% เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งต่ำกว่าที่นักลงทุนกังวล อีกทั้งยังมีทั้งการยกเว้นสินค้าสำคัญหลายชนิด ย้ายการเริ่มต้นเก็บภาษีไปอีก 1 สัปดาห์ และยังยกเว้นสินค้าที่ออกจากท่าเรือประเทศต้นทางก่อนกำหนดเก็บภาษีอีกด้วย ทำให้เรามีมุมมองเชิงบวกกับหุ้น และแนะนำกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคเอเชียมากขึ้น อย่างไรก็ตามเรายังแนะนำจัดพอร์ตอย่างระมัดระวังและคงน้ำหนักในกลุ่มตราสารหนี้และโครงสร้างพื้นฐานไว้ในพอร์ตการลงทุน

ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง วันที่ 8 ส.ค. 2025

สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Eastspring Dynamic Opportunities (ES-DO) สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >> แอปฯ Finnomena ผ่านคอมพิวเตอร์ >>  เว็บไซต์ Finnomena สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Eastspring Dynamic Opportunities (ES-DO) คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนการลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299