ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กำลังเผชิญโจทย์ที่ซับซ้อนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณสวนทางกัน เมื่อดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญมากที่สุด ปรับขึ้นแตะ 2.9% ในเดือนกรกฎาคม ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 5 เดือน และยังเกินกว่าเป้าหมาย 2% ที่ Fed วางไว้ สาเหตุหลักมาจากราคาภาคบริการที่ยังเร่งตัวขึ้น

ในอีกด้านหนึ่ง การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นถึง 0.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ขณะเดียวกันรายได้ส่วนบุคคลก็ขยับขึ้น 0.4% ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าความต้องการในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีพลัง แม้แรงกดดันจากเงินเฟ้อยังไม่หมดไป

สำหรับนักลงทุน ภาพดังกล่าวยิ่งทำให้ทิศทางการลงทุนในระยะสั้นซับซ้อนขึ้น ตลาดยังคงคาดว่า Fed จะเลือกปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน โดยให้น้ำหนักกับความเสี่ยงในตลาดแรงงานที่เริ่มแผ่ว มากกว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ความแข็งแรงของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน อาจเปิดช่องให้ Fed มีทางเลือกมากขึ้น 

ขณะเดียวกันประเด็นการขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องติดตาม เพราะอาจผลักดันราคาสินค้าให้แพงขึ้น และเพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อในรอบถัดไป

ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ นักลงทุนควรจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะรายงานตลาดแรงงานที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า เนื่องจากจะเป็นสัญญาณชี้นำสำคัญต่อทิศทางนโยบายการเงินของ Fed และเป็นตัวช่วยสำคัญในการปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

Source: CNBC