
สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าคุมเข้มการส่งออกเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ไปยังจีน
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มีคำสั่งยกเลิกสถานะพิเศษ “Validated End User” (VEU) ซึ่งเดิมเคยเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่สามารถนำเข้าอุปกรณ์การผลิตจากสหรัฐฯ ไปยังโรงงานในจีนได้สะดวกและรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมเป็นต้นไป
บริษัทที่ได้รับผลกระทบชัดเจนคือ TSMC ซึ่งโรงงานในเมืองหนานจิงเคยได้รับสิทธิ VEU ตั้งแต่ปี 2022 หลังจากนี้จะต้องยื่นขออนุญาตส่งออกเป็นรายกรณี
เช่นเดียวกับ SK Hynix และ Samsung Electronics ที่ต่างมีโรงงานในจีนและต้องเผชิญเงื่อนไขใหม่เช่นกัน แม้สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มอนุญาตให้โรงงานเดิมดำเนินการผลิตต่อ แต่จะไม่เปิดทางให้ขยายกำลังการผลิตหรืออัปเกรดเทคโนโลยีเพิ่มเติม
เจฟฟรีย์ เคสส์เลอร์ (Jeffrey Kessler) ปลัดกระทรวงพาณิชย์ฝ่ายอุตสาหกรรมและความมั่นคง อธิบายว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อ “ปิดช่องโหว่” ที่เปิดไว้ในสมัยรัฐบาลไบเดน โดยตั้งใจจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน ป้องกันการถ่ายทอดทักษะบุคลากร และลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานภายในจีนในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์
ผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตชิปแตกต่างกันออกไป โดย TSMC ระบุว่ากำลังหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อให้โรงงานหนานจิงสามารถดำเนินงานต่อได้ และคาดว่าผลกระทบทางการเงินมีเพียงเล็กน้อย เนื่องจากโรงงานนี้มีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 3% ของรายได้รวม
ขณะที่ข่าวดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อ SK Hynix และ Samsung จนราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทปรับตัวลดลงทันที ส่วนหุ้น TSMC แทบไม่เปลี่ยนแปลง
นโยบายใหม่นี้ยังสะท้อนถึงความซับซ้อนในเชิงการเมืองและเศรษฐกิจ เพราะสวนทางกับการที่รัฐบาลทรัมป์เพิ่งผ่อนคลายกฎควบคุมการส่งออกชิป AI บางรุ่นของ Nvidia และ AMD ไปยังจีน แต่กลับเข้มงวดมากขึ้นต่อ “อุปกรณ์การผลิตชิป” และ “ชิปหน่วยความจำ”
นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ต้องการดึงห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์กลับสู่ในประเทศ ซึ่งปีนี้ทั้ง TSMC, SK Hynix และ Samsung ต่างประกาศแผนลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในสหรัฐฯ
อ้างอิง: CNBC