ตลาดหุ้นโลกในเดือนกันยายนส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) อย่างต่อเนื่อง แรงหนุนหลักมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกของปี พร้อมส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางตัวเลขภาคแรงงานที่อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อประคองเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการเจรจาการค้าที่มีสัญญาณเชิงบวกระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและอินเดีย อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่เผชิญกับแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมามาก ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ จากความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ในระหว่างเดือน ประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์กลับมาสร้างความกังวลอีกครั้ง เมื่อ NATO ออกมาเตือนรัสเซียอย่างแข็งกร้าวหลังมีเหตุการณ์รุกล้ำน่านฟ้าหลายประเทศในยุโรปตะวันออก ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจากความกังวลว่ายุโรปอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของเราเชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นโดยรวมยังคงจำกัด และนักลงทุนสามารถผสมสินทรัพย์กลุ่ม Defensive เช่น ตราสารหนี้โลกและหุ้นในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วยลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นได้
การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในเดือนกันยายน แม้จะมีมติลดดอกเบี้ยตามคาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเห็นที่แตกต่างกันของกรรมการ โดยเกือบครึ่งหนึ่งมองว่าอาจมีการลดดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวหรืออาจไม่ลดเลยในปีนี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจด้านการบริโภคและการลงทุนยังคงแข็งแกร่ง สิ่งนี้ทำให้ตลาดเริ่มลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยในครั้งถัดไป ในมุมมองของเรา เฟดกำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างการประคองตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง และการควบคุมเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย โดยจะรอประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมาอย่างใกล้ชิด
ภาพรวมการลงทุนประจำเดือนตุลาคม 2025 คาดว่าตลาดยังคงจับตาทิศทางนโยบายการเงินของเฟดเป็นหลัก โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศในเดือนนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้นำตลาด ขณะที่ตลาดยังคงต้องติดตามนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาปิดดีลการค้ากับจีนและอินเดีย หรือการเก็บภาษีสินค้ารายอุตสาหกรรม เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตแบบบาร์เบล โดยผสมระหว่างสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นโลกและหุ้นสหรัฐฯ กับสินทรัพย์กลุ่ม Defensive อย่างตราสารหนี้โลกและหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และหาโอกาสสะสมหุ้นในประเทศที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย และยุโรปที่ตลาดเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น
ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง วันที่ 2 ต.ค. 2025
สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Eastspring Dynamic Opportunities (ES-DO) สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >> แอปฯ Finnomena ผ่านคอมพิวเตอร์ >> เว็บไซต์ Finnomena สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Eastspring Dynamic Opportunities (ES-DO) คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน
| โปรดทราบ สำหรับลูกค้าฟินโนมีนาที่ลงทุนใน Finnomena Port และได้รับบทความนี้ แต่ยังไม่ได้รับอีเมลและ/หรือ Notificationในการแจ้งสัดส่วนเงินในการเข้าลงทุน อาจเกิดจาก
1) ท่านอยู่ระหว่างการทำรายการซื้อขายกองทุน ซึ่งทางฟินโนมีนาจะแจ้งเตือนอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการทำรายการซื้อขายเสร็จสิ้น 2) ท่านมีจำนวนเงินลงทุนต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่แนะนำ หมายเหตุ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะรอรับการแจ้งเตือน ท่านสามารถดูรายละเอียดของพอร์ตการลงทุนที่แนะนำผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของฟินโนมีนาพร้อมปรับพอร์ตเข้าลงทุนได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @FINNOMENAPORT |
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนการลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299
ผู้เขียน
