ราคาทองคำโลกสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวันอังคารที่ผ่านมา (7 ต.ค.) หลังสัญญาทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) ทะยานแตะระดับ $4,014.60 ต่อออนซ์ ก่อนปิดตลาดที่ $4,004.40 ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล และเพิ่มขึ้นกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปี

แรงหนุนสำคัญมาจากการแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเมือง และการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงกว่า 10% ภายในปีเดียว

ยุค 1970s กลับมาอีกครั้ง

Ray Dalio มหาเศรษฐีนักลงทุนผู้ก่อตั้งกองทุนยักษ์ Bridgewater Associates กล่าวในงาน Greenwich Economic Forum ที่รัฐคอนเนตทิคัตว่า

“นี่มันเหมือนต้นยุค 1970s อีกครั้ง เมื่อเงินเฟ้อพุ่งสูง หนี้สาธารณะบาน และความเชื่อมั่นในเงินกระดาษเริ่มสั่นคลอน”

Dalio เตือนว่าสถานการณ์ปัจจุบันสะท้อน “ยุคเงินเฟ้อและการพิมพ์เงินไม่สิ้นสุด” ของรัฐบาลทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่กำลังเผชิญภาระหนี้เกิน 34 ล้านล้านดอลลาร์ และการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องของ Fed กำลังทำให้พันธบัตร “ไม่ใช่ที่เก็บความมั่งคั่งที่แท้จริง” อีกต่อไป

ทองคำ ทรัพย์สินที่ไม่ต้องพึ่งใคร

Dalio เสนอให้นักลงทุน “ถือทองคำในพอร์ตมากกว่าปกติ” โดยแนะนำสัดส่วนสูงถึง 15% ของพอร์ตการลงทุน

“ทองคำเป็นสินทรัพย์เดียวที่ทำผลงานได้ดีเมื่อส่วนอื่นของพอร์ตตกต่ำ และไม่ต้องพึ่งให้ใครมาจ่ายเงินคืนเรา”

คำแนะนำนี้ขัดกับสูตรพอร์ตคลาสสิก 60/40 (หุ้น 60% พันธบัตร 40%) ที่นักวางแผนการเงินส่วนใหญ่ใช้มาอย่างยาวนาน แต่ Dalio เชื่อว่ายุคใหม่ของ “การเสื่อมค่าของเงิน” (Monetary Debasement) กำลังทำให้สูตรเก่ากลายเป็นของล้าสมัย

ไม่เพียง Dalio เท่านั้น Jeffrey Gundlach ซีอีโอของ DoubleLine Capital ยังแนะนำให้นักลงทุนถือทองมากถึง 25% ของพอร์ต โดยมองว่าทองจะยังคงเป็น “ดาวเด่น” ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อและดอลลาร์ที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารกลาง–นักลงทุนรายย่อย แห่สะสมทอง

ข้อมูลล่าสุดจากตลาดชี้ว่า ธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะจีนและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ กำลังเร่งกระจายการถือครองจากพันธบัตรสหรัฐฯ มาสู่ทองคำ หลังมาตรการคว่ำบาตรของวอชิงตันต่อรัสเซียในปี 2022 ทำให้หลายประเทศเริ่มไม่มั่นใจในระบบการเงินที่ผูกกับดอลลาร์

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรายย่อยทั่วโลกก็เข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกที่สั่นคลอน

สัญญาณเตือนจากฝั่งสถาบัน

แม้กระแสทองคำจะดูร้อนแรง แต่ Bank of America (BofA) ออกคำเตือนว่า การพุ่งขึ้นเหนือ $4,000 ครั้งนี้อาจเป็น “จุดเสี่ยงของการพักฐาน” โดยระบุว่าทองกำลังเผชิญภาวะ “uptrend exhaustion” หรือแนวโน้มขาขึ้นเริ่มเหนื่อยล้า อาจเห็นการปรับฐานหรือพักตัวในไตรมาส 4 ปีนี้

ความกลัว เชื้อเพลิงของทองคำ

ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นกว่า 50% ในปีเดียว สะท้อน “ความกลัว” ที่ซ่อนอยู่ในระบบเศรษฐกิจโลก ความกลัวต่อหนี้ล้นโลก ดอกเบี้ยขาลง เงินเฟ้อที่ไม่ยอมตาย และสงครามภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุในหลายภูมิภาค

และนั่นทำให้คำพูดของ Ray Dalio ดูไม่ใช่แค่คำแนะนำ แต่น่าจะเป็น “สัญญาณเตือน” ว่าโลกอาจกำลังเดินเข้าสู่รอบใหม่ของวิกฤตศรัทธาในเงินกระดาษ

ที่มา: CNBC