Rare Earth War

สงครามการค้ากลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ท่ามกลางเกมต่อรองเรื่องทรัพยากรอนาคตโลก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า “ตอนนี้สหรัฐฯ อยู่ในสงครามการค้ากับจีนเต็มรูปแบบ” พร้อมขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 100% หากยังเดินหน้าออกกฎควบคุมการส่งออกแร่หายาก (Rare Earths) ที่เป็นหัวใจของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก

“หากเราไม่มีภาษี เราก็จะไม่เหลืออะไรเลย” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อคืนวันพุธ “นี่คือสงคราม และเรากำลังอยู่ในนั้นแล้ว”

คำพูดของทรัมป์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก สกอต เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เสนอแนวทางพักศึกทางภาษีชั่วคราวกับจีน หากทางจีนยอมระงับการบังคับใช้มาตรการส่งออกแร่หายากฉบับใหม่ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็น “อาวุธเชิงยุทธศาสตร์” ที่จีนใช้ต่อรองกับตะวันตก

ทั้งนี้ จีนครองสัดส่วนการผลิตแร่หายากมากกว่า 90% ของโลก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งแต่ชิปคอมพิวเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน ไปจนถึงระบบอาวุธยุทโธปกรณ์

กฎใหม่ของปักกิ่งกำหนดให้บริษัทต่างชาติที่ต้องการส่งออกสินค้าที่มีแร่หายากจากจีน ต้องขออนุญาตจากรัฐบาลจีนก่อน และต้องระบุวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างละเอียด ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเท่ากับการคุมห่วงโซ่อุปทานของโลก

เบสเซนท์ระบุว่า หากจีนยังไม่ถอย “สหรัฐฯ และพันธมิตร” จะออกมาตรการตอบโต้ร่วมกัน โดยเตรียมหารือกับ ยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย และชาติเอเชียประชาธิปไตย ระหว่างการประชุม IMF และธนาคารโลกในวอชิงตัน

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงสงบศึกภาษีแบบ 90 วัน หลายรอบตั้งแต่ต้นปี โดยขณะนี้ข้อตกลงรอบล่าสุดจะหมดอายุในเดือนพฤศจิกายน แต่ด้วยท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์และการตอบโต้ของจีน นักลงทุนเริ่มกังวลว่า “ข้อตกลงสงบศึก” อาจไม่ต่ออายุอีก

เจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) กล่าวว่ากฎใหม่ของจีนไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง เพราะจะกระทบสินค้านับพันประเภท ตั้งแต่ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าไปจนถึงอุปกรณ์แพทย์ “มันใหญ่เกินกว่าจะทำได้ และผลกระทบมหาศาลเกินกว่าที่จีนจะรับเองได้” เกรียร์ระบุ


อ้างอิง: Bloomberg

Tax Cal