ทรัมป์ สี จิ้นผิง

โลกกำลังจับตาการประชุมสุดยอดระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และสี จิ้นผิง ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า เหตุการณ์นี้อาจกำหนดทิศทางเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่แร่ Rare Earths ไปจนถึงค่าเงินหยวน

Xingchen Yu จาก UBS Global Wealth Management มองว่า หากผลออกมาบวก นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ดึงนักลงทุนกลับสู่สินทรัพย์เสี่ยง ตั้งแต่หุ้นเทคโนโลยีจีนถึงตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดียและบราซิล แต่ความไม่แน่นอนยังสูง โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยี พลังงาน และการป้องกันประเทศ ถูกใช้เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์

Rare Earth วัตถุดิบยุคใหม่

หนึ่งในประเด็นหลักคือแร่ Rare Earth วัตถุดิบสำคัญของชิป รถยนต์ไฟฟ้า และอาวุธสมัยใหม่ ทรัมป์ตั้งใจผลักดันดีลกับพันธมิตร เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ หลังจีนเริ่มควบคุมการส่งออกแร่ ซึ่งจีนถือครองกว่า 70% ของอุปทานโลก หุ้นเหมืองอย่าง JL Mag Rare-Earth (จีน) และ Lynas Rare Earths (ออสเตรเลีย) จึงพุ่งแรงตลอดปี

Jason Lui จาก BNP Paribas ระบุว่า การลดตึงเครียดจะเป็นผลดีต่อญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ที่พึ่งพาแร่กลุ่มนี้อย่างมาก

ไต้หวัน จุดไฟความเสี่ยงใหม่

ชะตากรรมของไต้หวันยังเป็นจุดเปราะบางในความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจ Gerald Gan จาก Reed Capital Partners เตือนว่า หากทรัมป์ “เล่นไพ่ไต้หวัน” ตลาดจะผันผวนทันที โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอาวุธในเอเชีย

ปีนี้ Hanwha Aerospace พุ่งกว่า 200% ส่วน Mitsubishi Heavy Industries เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว สะท้อนว่าตลาดกำลังราคาในความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์แล้ว

ASEAN และกับดัก Transshipment

สหรัฐฯ เตรียมพิจารณาภาษี 40% ต่อสินค้าที่ส่งต่อผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเลี่ยงภาษีจีน โดยเวียดนามเป็นประเทศที่ถูกจับตามากที่สุด แม้เสี่ยงแต่ตลาดหุ้นยังพุ่งกว่า 33% ตั้งแต่ต้นปี

“ถ้ามีความชัดเจนเรื่องภาษี transshipment มากขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเวียดนามจะยิ่งแข็งแกร่ง” Ruchir Desai จาก Asia Frontier Capital กล่าว

สงครามการค้าแบบเดิมกลับมา

ราคาถั่วเหลืองในชิคาโกพุ่งกว่า 5% หลังคาดว่าทรัมป์จะกดดันให้จีนกลับมาซื้อสินค้าเกษตร แต่จีนยังไม่ซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เลยในฤดูกาลนี้ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี

“สำหรับสหรัฐฯ ถั่วเหลืองคือสินค้าทางการเมือง ส่วนจีนใช้ดีลนี้ต่อรองประเด็นที่ใหญ่กว่า” Richard Buttenshaw จาก Marex กล่าว

สัญญาณจากค่าเงินหยวน

ผลการประชุมยังอาจกำหนดทิศทางค่าเงินเอเชีย หากบรรยากาศดีขึ้น หยวนอาจแข็งค่า พร้อมหนุนวอนเกาหลีและดอลลาร์ไต้หวันให้ฟื้นตัว

ด้าน Bank of America คาดว่า จีนอาจปล่อยให้หยวนแข็งถึงระดับ 6.8 หยวนต่อดอลลาร์ในไตรมาส 3 ปีหน้า สัญญาณบวกต่อตลาดทุนทั่วภูมิภาค


อ้างอิง: Bloomberg

Tax Cal