
ปลายปี 2025 นี้ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้คัดเลือก 5 กองทุนเด่นสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี พร้อมสร้างโอกาสเติบโตระยะยาวไปกับธีมการลงทุนที่คัดเลือกมาให้แล้วในเทศกาลออมภาษีทั้งกองทุน RMF และ Thai ESG ดังนี้
คว้าโอกาสเติบโตในตราสารหนี้โลก
แนะนำกองทุน ES-GINCOMERMF กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Income เพื่อการเลี้ยงชีพ (ระดับความเสี่ยง 5) เน้นลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก สร้างโอกาสรับผลตอบแทนในจังหวะที่ Bond Yield ยังอยู่ในระดับสูง ได้ปัจจัยหนุนจากการลดดอกเบี้ย อีกทั้งกองทุนมีนโยบายที่สามารถปรับ Duration ได้ยืดหยุ่นและทันสถานการณ์ตลาด
กระจายความเสี่ยง ลดโอกาสความผันผวน
แนะนำกองทุน ES-GAINCOMERMF กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Multi Asset Income เพื่อการเลี้ยงชีพ (ระดับความเสี่ยง 5) เน้นลงทุนในกองทุนหลัก AMUNDI FUNDS INCOME OPPORTUNITIES โดยกองทุนหลักมีนโยบายกระจายลงทุนในสินทรัพยที่หลากหลายทั่วโลก พร้อมโอกาสสร้างกระแสเงินสดท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และตราสารอื่น ๆ อาทิ หุ้นกู้อนุพันธ์, ตราสารหนี้ภัยพิบัติ, REIT ฯลฯ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ต ช่วยลดความผันผวนได้ดี
พุ่งแรงไปกับเทคโนโลยี AI
แนะนำกองทุน ES-TECHRMF กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Prime Technology เพื่อการเลี้ยงชีพ (ระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในกองทุนหลัก Eastspring Investment – Global Technology Fund ซึ่งกองทุนหลักจะมุ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น กลุ่ม AI และ Data Center ซึ่งยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า พร้อมทั้งยังได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของ Fed
โอกาสเติบโตตามหุ้นอเมริกา ดัชนี S&P 500
แนะนำกองทุน ES-US500RMF กองทุนเปิดอีสท์สปริง US500 เพื่อการเลี้ยงชีพ (ระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในกองทุนหลัก iShares Core S&P 500 ETF ซึ่งกองทุนหลักลงทุนแบบ Passive Management ในดัชนี S&P 500 ซึ่งรวมบริษัทขนาดใหญ่ในอเมริกา มีจุดเด่นที่ภาพรวมกำไรยังเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่ม Big Tech AI
ลงทุนอย่างยั่งยืน
แนะนำกองทุน ES-ESG3070-THAIESG-A กองทุนเปิดอีสท์สปริง ESG Mixed 30/70 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนสะสมมูลค่า) (ระดับความเสี่ยง 5) เป็นกองทุน Thai ESG ที่มีนโยบายสร้างการเติบโตอย่างสมดุล ผสมผสานระหว่างหุ้นไทยยั่งยืนไม่เกิน 30% และตราสารหนี้ไทยยั่งยืนไม่น้อยกว่า 70% โดยจะได้รับประโยชน์จากโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ และการที่หุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโตจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล อีกทั้งยังมี Valuation ไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต
สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund
สำหรับใครที่มีข้อสงสัย ยังไม่จุใจกับเรื่องการวางแผนภาษี มาหาคำตอบได้ที่งาน TAX Source Solution 2025 มัดรวมทุกทางออกลดหย่อนภาษี
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคาร B ชั้น 7 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรี! ที่นั่งมีจำนวนจำกัด
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม RMF และ Thai ESG กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน | การลงทุนในกองทุนรวม Thai ESG มีเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษีเฉพาะตามที่กรมสรรพากรกำหนด | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | บางกองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort”
