หุ้นจีน หุ้นฮ่องกง

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2025 ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงฟื้นตัวแข็งแกร่งจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (HSCEI) ปรับตัวขึ้น +2.10% มาปิดที่ 9,355.97 จุด ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite Index ขยับกลับมายืนเหนือระดับจิตวิทยา 4,000 จุด ที่ 4,004.25 จุด (+0.97%) และ CSI300 Index ปรับขึ้น +1.43% ได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเชิงนโยบายและกระแสการพึ่งพาชิปผลิตในประเทศ (Domestic Semiconductor Policy)

ตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานของ Reuters ที่ระบุว่า รัฐบาลจีนออกแนวทางใหม่กำหนดให้ศูนย์ข้อมูล (Data Centre) ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐต้องใช้เฉพาะชิป AI ที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการเชิงรุกที่สุดของจีนในการผลักดัน “Tech Self-Sufficiency” และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ หุ้นกลุ่ม Semiconductor พุ่งแรง นำโดย SMIC (+3.9%) และ Cambricon Technologies (+9.8%) ส่งผลให้ดัชนี CSI Semiconductor Industry Index ปรับขึ้นกว่า +4% ขณะที่ Hang Seng Tech Index และ CSI AI Sector Index เพิ่มขึ้นกว่า +2% จากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน

บรรยากาศเชิงบวกยังได้รับแรงสนับสนุนจากความคืบหน้าด้านการเมืองระหว่างประเทศ หลังการพบปะระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ สี จิ้นผิง นำไปสู่ข้อตกลงด้าน rare earths ที่ลดความตึงเครียดทางการค้า และส่งสัญญาณความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งช่วยหนุน sentiment ของตลาดเทคโนโลยีจีน ขณะเดียวกัน Credit Impulse ของจีนเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง บ่งชี้การเร่งตัวของสภาพคล่องภาคเอกชน และตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบหลายปี

ด้าน Valuation ของตลาด H-share แม้ยังอยู่ในระดับตึงตัวเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว แต่กลุ่ม “Terrific 10 China” ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทดิจิทัลคุณภาพสูง เช่น Tencent, Alibaba, Meituan และ BYD ยังคงมีความน่าสนใจ โดยมี Forward P/E เพียง 18.9 เท่า และคาดการณ์ EPS Growth เฉลี่ยปี 2025–2028 ราว 20% ต่อปี สะท้อนศักยภาพการเติบโตที่เหนือกว่าตลาดโดยรวม ขณะที่นโยบาย “Anti-involution” ของรัฐบาลเริ่มเห็นผลเชิงโครงสร้างในภาคเทคโนโลยี การศึกษา และสื่อออนไลน์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของบริษัทขนาดใหญ่ในระยะยาว

Finnomena Funds ประเมินว่า แนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงยังอยู่ในทิศทางเชิงบวก โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายเทคโนโลยีในประเทศและการคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้า มุมมองโดยรวม “Slightly Positive” ต่อหุ้น H-shares และ “Neutral” ต่อ A-shares

พร้อมแนะนำ ทยอยสะสมกองทุน MEGA10CHINA-A เพื่อรับโอกาสจากการเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยีคุณภาพสูงใน “Terrific 10 China” และนโยบายสนับสนุนภาค AI และ Semiconductor ของรัฐบาลจีน

นอกจากนี้สำหรับนักลงทุนที่ติดตาม FundTalk Call ได้มีการแนะนำ เข้าซื้อกองทุน KFCHINA-T10PLUS ที่เน้นลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีน 11 อันดับแรกใน Hang Seng Tech Index ที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่อง คาดแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังผลการเจรจากับสหรัฐฯ ออกมาในทางที่ดี

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Tax Cal