All Weather Strategy มกราคม 2022: ทำผลงานเหนือพอร์ต 60/40 ดั้งเดิม

คอนเซปต์หลักพอร์ต All Weather Strategy

  • Global – ลงทุนทั่วโลก ไม่จำกัดเพียงแค่ในประเทศไทย
  • Long-term – สร้างผลตอบแทนระยะยาวจากหุ้น และลดการสูญเสียในช่วงที่ตลาดหุ้นพักฐาน
  • Diversified – กระจายการลงทุนทั่วโลกผ่าน 4 สินทรัพย์

ภาพรวม All Weather Strategy

  • รีวิว: หุ้นยุโรปทำผลงานได้ดีที่สุด
  • ผลการดำเนินงาน: ทำผลงานได้เหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 ที่ 1.4%
  • มุมมอง: ธนาคารกลางฝั่งตะวันตกยังคงมีนโยบายการเงินเชิงรุก โภคภัณฑ์มีปัจจัยหนุนจากวิกฤตพลังงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลก
  • สรุป FVMR รายภูมิภาค
  • ความเสี่ยง: เงินเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว เกิดการล็อกดาวน์ครั้งใหม่และสหรัฐฯ ล้มละลาย

รีวิว: หุ้นสหรัฐฯ ผลักดันหุ้นโลกจนทำจุดสูงสุดใหม่ 

 

รูปที่ 1: รูปเปรียบเทียบผลตอบแทนสินทรัพย์

ข้อมูล ณ วันที่ 31.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

สัดส่วนน้ำหนักสินทรัพย์นับตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2021

  • เราไม่มีการปรับสัดส่วนในครั้งนี้

รีวิว: หุ้นสหรัฐฯ เป็นผู้นำในระยะยาวอย่างแท้จริง

สัดส่วนน้ำหนักหุ้นตามภูมิภาคนับตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2021

  • เราไม่มีการปรับสัดส่วนในครั้งนี้

รีวิว: เน้นหนักในตลาดหุ้นตะวันตกพัฒนาแล้ว

  • เมื่อเดือนมิถุนายน 2021 เราปรับสัดส่วน 25% จากตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นมายังหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรปพัฒนาแล้ว
  • เราไม่ทำการปรับสัดส่วนในเดือนกันยายนและเดือนธันวาคม

รีวิว: เราได้อานิสงค์จาก Santa Claus Rally!

  • เราได้อานิสงค์จาก Santa Claus rally ถึงแม้จะมีข่าวเกี่ยวกับความกังวลเรื่องโอมิครอน ทำให้สินทรัพย์ทั้งหมดทำผลตอบแทนเป็นบวกในเดือนธันวาคม 2021
  • ตลาดหุ้นยุโรปพัฒนาแล้วแข็งแกร่งที่สุดตามมาด้วยหุ้นสหรัฐฯ
  • การจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันหยุดและการอนุมัติวงเงินจำนวนมากของรัฐในสเปนและอิตาลีในปี 2022 ส่งผลให้หุ้นยุโรปทำผลงานอย่างแข็งแกร่ง

รีวิว: หุ้นตลาดเกิดใหม่ทำผลงานได้ไม่ดี

  • ความกังวลเกี่ยวกับการล็อกดาวน์จากโอมิครอนส่งผลให้หุ้นตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นทำผลงานตามหลังตลาดพัฒนาแล้ว
  • ความคาดหวังต่อเนื่องเกี่ยวกับการกระจายความเท่าเทียมส่งผลให้ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 อย่างจีนมีการเติบโตชะลอลง
  • จีนมีสัดส่วนเป็นหลักในตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น

รีวิว: คงสัดส่วนตราสารหนี้ในระดับต่ำที่ 5%

  • เรามีสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ที่ 5% เนื่องจากมีความน่าสนใจน้อยกว่าหุ้น
  • กลยุทธ์ คือ ถือครองเพียงพันธบัตรรัฐบาลไทยเพียงเท่านั้น มากกว่าการถือพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชนทั่วโลก
  • สินทรัพย์อื่น ๆ ปรับตัวขึ้นในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ดังนั้น การมีสัดส่วนตราสารหนี้ในระดับต่ำเป็นผลดีต่อผลการดำเนินงานของกลยุทธ์

รีวิว: การฟื้นตัวของกลุ่มพลังงานขับเคลื่อนโภคภัณฑ์

 

รูปที่ 2: เปรียบเทียบผลตอบแทนสินค้ากลุ่มโภคภัณฑ์

ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

  • ราคาน้ำมันฟื้นตัวในเดือนธันวาคมหลังมีการคาดการณ์ว่าอุปทานจะหดตัว
  • ตลาดตอบสนองเชิงบวกต่อข่าวโอมิครอนไม่รุนแรง
  • ราคาน้ำมัน (WTI) ปิดตัวที่ 75 เหรียญ/บาร์เรล ในเดือนธันวาคม

รีวิว: ทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนธันวาคม

  • เรามีสัดส่วนลงทุนในทองคำอย่างน้อย 5%
  • ทองคำตอบสนองต่อความคาดหวังเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษรวมไปถึงการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก่อนหน้า ส่งผลให้ราคามีความผันผวนสูง
  • ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคมถึงแม้จะมีความผันผวน จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์
  • ราคาทองคำปิดตัวที่ 1,829 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ ในเดือนพฤศจิกายน

1 เดือนที่ผ่านมา:  สัดส่วนหลักของพอร์ตอยู่ในสินทรัพย์ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด 3 อันดับแรก

 

รูปที่ 3: ภาพแสดงผลตอบแทนพอร์ต AWS เทียบสินทรัพย์อื่น ๆ

ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

  • AWS: ทำผลงานเหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 อยู่ 1.4%
  • หุ้นยุโรป: ทำผลงานได้ดีที่สุด
  • หุ้นสหรับฯ: ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2
  • โภคภัณฑ์: ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 3

ทำผลงานได้เหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 ดั้งเดิม

รูปที่ 4: ผลดำเนินงานพอร์ต AWS เทียบกับพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40

ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

  • นับตั้งแต่จัดตั้งกลยุทธ์ AWS มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 45-65% เป็นส่วนใหญ่และมีสัดส่วนในทองคำ 25%
  • กลยุทธ์ทำผลงานในช่วงปิดปีเหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 ดั้งเดิมอยู่ 1.0%

พอร์ต AWS ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง

รูปที่ 5: ผลดำเนินงานพอร์ต AWS และอื่น ๆ เทียบกับพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40

ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

  • พอร์ต AWS มีผลตอบแทนและผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ดีกว่าในทุกช่วงเวลา
  • พอร์ตืการลงุทนแบบ 60/40 มีจุดขาดทุนสูงสุดต่ำกว่าในปีที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพอร์ต AWS มีจุดขาดทุนสูงสุดเทียบผลตอบแทนที่ต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน

ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS มีความผันผวนต่ำกว่าพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 

รูปที่ 6: เปรียบเทียบความผันผวนพอร์ต AWS กับสินทรัพย์ต่าง ๆ

ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

  • สัดส่วนลงทุนในหุ้น 25-65% ช่วยลดความผันผวน
  • ทองคำช่วยลดความผันผวนโดยรวมของพอร์ตเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความสัมพันธ์กับหุ้น

ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS มีการสูญเสียน้อยกว่าในช่วง 8 ใน 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานย่ำแย่ที่สุด

รูปที่ 7: พอร์ต AWS มีการสูญเสียน้อยกว่าหุ้นโลกในช่วง 8 ใน 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด

ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

  • จุดเด่นสำคัญของพอร์ต AWS คือ การลดความสูญเสียเมื่อตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง
  • นับตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต AWS สูญเสียน้อยกว่าพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 คิดเป็น 80% ของจำนวนวันทั้งหมด 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด

ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS ทำผลงานเหนือพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 จาก 62% ของเดือนทั้งหมด

 

รูปที่ 8: เปรียบเทียบผลการดำเนินงาน AWS และพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 จาก 61% ของเดือนทั้งหมด

ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

  • ในช่วง 21 เดือนจาก 34 เดือน พอร์ต AWS สามารถเอาชนะพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40

มุมมอง: Fed สนับสนุนตลาดสหรัฐฯ เมื่อต้องการ

  • บริษัทสัญชาติอเมริกันทำผลงานได้ดีและมีอำนาจต่อรองทางด้านราคาทั่วโลก
  • ถึงแม้มาตรการ ‘Build Back Better’ ของ โจ ไบเดน ไม่ผ่านการอนุมัติ แต่เราคาดว่าในอนาคตสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
  • ดังนั้น เราคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและจะได้รับการสนับสนุนโดยมาตรการกระตุ้นจากทางรัฐ

มุมมอง: Fed จะประคองตลาดสหรัฐฯ

  • โจ ไบเดนและพรรคเดโมแครตต้องการนาย เจอโรม พาวเวลล์ ในการพยุงตลาด
  • ตลาดคาดว่ามีโอกาส 57% ที่ Fed จะทำการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ปี 2022
  • เทียบกับช่วงเดือนธันวาคมที่ตลาดให้ความเป็นไปได้ที่ 70% เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ปี 2022
  • ถึงแม้ว่า Fed จะลดการเข้าซื้อสินทรัพย์และปรับขึ้นดอกเบี้ย เราคาดว่าสิ่งต่าง ๆ นี้จะกลับกันหากมันส่งผลอย่างหนักต่อตลาด

มุมมอง: ECB สนับสนุนตลาดเช่นเดียวกัน

  • ยุโรปฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
  • ECB ประกาศลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ แต่การขึ้นดอกเบี้ยอาจยังไม่เกิดขึ้นในปี 2022
  • เราคิดว่าธนาคารกลางจะยังต้องสนับสนุนหุ้นต่อไปถึงแม้ว่า Fed และ ECB พูดถึงการลดการเข้าซื้อสินทรัพย์และขึ้นดอกเบี้ย
  • หากการปรับนโยบายส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อตลาด เราคาดว่าพวกเขาจะปรับนโยบายในทางตรงกันข้าม

มุมมอง: จีนยังคงเผชิญความไม่แน่นอน

  • นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการควบคุมและสถานการณ์อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
  • ความกังวลต่อเนื่องเป็นผลลบต่อจีน รวมถึงสัดส่วนน้ำหนักที่มากของจีนในดัชนีตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น อาจทำให้ดัชนีดังกล่าวมีผลงานที่แย่ลง

มุมมอง: ตราสารหนี้ยังไม่น่าสนใจ

  • ในระยะสั้น เราคิดว่าตราสารหนี้จะทำผลงานย่ำแย่กว่าหุ้น
  • สิ่งนี้สะท้อนผ่านสัดส่วน 5%

มุมมอง: โภคภัณฑ์ยังไปต่อได้

  • ราคาพลังงานอาจยังแข็งแกร่งต่อไปหลังความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานยังคงอยู่ต่อไปอย่างน้อยจนถึงช่วงต้นปี 2022
  • ภาวะห่วงโซ่อุปทานโลกที่หยุดชะงักจากการปิดเศรษฐกิจของรัฐอาจมีผลในระยะยาวที่ยาวกว่านี้
  • เงินเฟ้อและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจควรสนับสนุนกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหล็กอุตสาหกรรม

มุมมอง: ทองคำยังไม่มีปัจจัยหนุน

  • ในระยะยาว หากเรื่องราวด้านเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อเนื่อง ประเด็นดังกล่าวอาจนำไปสู่ความคาดหวังเรื่องผลตอบแทนที่แท้จริงติดลบ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนราคาทองคำ
  • Fed และ ECB พูดถึงการปรับลดการซื้อสินทรัพย์ในขณะที่ Fed กล่าวถึงการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022 ซึ่งอาจส่งผลเชิงลบต่อทองคำหากผลตอบแทนที่แท้จริงปรับตัวขึ้น
  • จังหวะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และยุโรปยังคงมีความไม่แน่นอน และยังไม่มีข่าวที่จะช่วยผลักดันราคาทองไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

สรุป FVMR แต่ละภูมิภาค

 

รูปที่ 9: สรุป FVMR หุ้นแต่ละกลุ่มประเทศ

ข้อมูล ณ วันที่ 31.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

  • พื้นฐาน (Fundamentals): หุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ROE (Return on Equity) สูงที่สุด
  • มูลค่า (Valuation): ตลาดเกิดใหม่มี PE (Price-to-Earnings) ต่ำสุด และญี่ปุ่นมี PB (Price-to-Book) ต่ำสุด
  • แนวโน้ม (Momentum): หุ้นสหรัฐฯ ขึ้นเยอะสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
  • ความเสี่ยง (Risk): ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และญี่ปุ่น มีอัตราหนี้สินต่อทุน (Gearing) ต่ำที่สุด

ความเสี่ยง: เงินเฟ้ออาจเป็นเรื่องชั่วคราว

  • พอร์ต AWS ถูกปรับให้ได้รับประโยชน์จากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2022
  • มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยชั่วคราว และอาจส่งผลต่อผลการดำเนินงานของเรา

ความเสี่ยง: ไวรัสสายพันธุ์ใหม่อาจนำไปสู่การล็อกดาวน์

  • หากรัฐบาลในประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูงทำการล็อกดาวน์อีกครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อตลาดดังกล่าว
  • หากประเทศส่วนใหญ่ในโลกปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ความต้องการโภคภัณฑ์อาจได้รับผลกระทบ

ความเสี่ยง: การล้มละลายของสหรัฐฯ

  • ในขณะที่สภาอเมริกันซื้อเวลาผ่านการขยายเพดานหนี้ แต่ประเด็นดังกล่าวอาจกลับมาอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในเดือนธันวาคม
  • หากสหรัฐฯ ล้มละลาย หุ้นสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และอาจรวมไปถึงหุ้นโลก

สรุป รีวิวพอร์ต All Weather Strategy ประจำเดือนมกราคม 2022

  • พอร์ต AWS ทำผลตอบแทนได้เหนือกว่าพอร์ตสัดส่วน 60/40 อยู่ 1.4% ในเดือนธันวาคม ปี 2021
  • การที่ Fed และ ECB ไม่ต้องการให้ตลาดปรับฐานรุนแรงอาจทำให้หุ้นปรับตัวสูงขึ้น
  • อุปสงค์ที่ฟื้นตัวและปัญหาห่วงโซ่อุปทานจะช่วยขับเคลื่อนโภคภัณฑ์
  • ความเสี่ยง: เงินเฟ้อเป็นเรื่องชั่วคราว การล็อกดาวน์ครั้งใหม่เกิดขึ้นและสหรัฐฯ เกิดการล้มละลาย

Andrew Stotz

สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน All Weather Strategy สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้

ผ่านมือถือ/Tablet >>แอปฯ FINNOMENA
ผ่านคอมพิวเตอร์ >>  เว็บไซต์ FINNOMENA

**All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจสร้างแผนการลงทุน สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/guruport-andrew-all-weather-create/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ


คำเตือน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน  | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”