buffett-code-daiso

“การไล่ล่าหากำไรไม่ต่างกับการไล่ลูกค้าให้หนีไป” คือคำพูดของ Hirotake Yano ผู้ก่อตั้ง Daiso เขาเชื่อว่าการขายของถูกแม้จะให้กำไรที่ไม่สูงนักแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความประทับใจจากลูกค้า นอกจากนั้นเขายังเชื่ออีกด้วยว่าไม่ว่าจะต้องทำธุรกิจด้วยความยากเย็นแค่ไหน หากเป็นองค์กรชั้นยอดแล้วจะสามารถฟันฝ่าผ่านความยากลำบากไปได้
องค์กรที่ว่านั้นก็คือ “Daiso” นั่นเอง

ปัจจุบัน Daiso มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 4,260 สาขา
ยอดขายปี 2016 เฉพาะในญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 110,000 ลบ.
ดำเนินงานใน 25 ประเทศ
ประเทศที่มีสาขาเยอะสุดคือ ญี่ปุ่น 2,800 เกาหลีใต้ 975 สาขาและไทยเป็นอันดับสามที่ 64 สาขา
มีสินค้ามากกว่า 100,000 รายการ
40% ของสินค้าทั้งหมดทำในประเทศจีน
มีศูนย์กระจายสินค้าต่างประเทศ 3 แห่งคือที่ เซี่ยงไฮ้, ตงก่วน ประเทศจีนและประเทศไทย
ส่วนในญี่ปุ่นมีอีก 7 แห่ง

แม้ Daiso จะเป็นร้านขายของถูก แต่ร้านขายของถูกอื่นๆไม่ได้เป็นเหมือน Daiso
อย่างแรกที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือขนาดของธุรกิจและความสำเร็จในระดับโลก
แล้วอะไรที่แยก Daiso ออกจากร้านขายของถูกทั่วๆไป
ก็ต้องบอกว่าเป็นเพราะ Daiso ไม่ได้มีดีแค่ของถูกเพียงอย่างเดียว
หากเราดูที่ Core value ของ Daiso เราอาจจะแปลกใจว่าไม่มีแม้แต่เงาของคำว่า “ราคาถูก” ด้วยซํ้าไป
แต่กลับมีคำที่ตรงกันข้ามอย่าง คุณภาพ, ความหลากหลาย และเอกลักษณ์เฉพาะ

คุณภาพของ Daiso ไม่ใช่คุณภาพของการซื้อสินค้าแต่เพียงอย่างเดียวแต่เป็นคุณภาพของการช๊อปปิ้งโดยรวม
Daiso พยายามทำให้ลูกค้ารู้สึก “WoW” ทุกครั้งที่เห็นสินค้าในร้านของ Daiso
ลูกค้าจะ Surprise อย่างมากว่ามีสินค้าแบบนี้ขาย ด้วยราคาแค่นี้เอง !
เหตุที่ทำให้ Daiso ขายสินค้าในราคาถูกได้ไม่ได้มาจากทำของถูกที่คุณภาพไม่ดี
แต่เกิดจาก Economy of scale หรือการประหยัดจากการผลิตสินค้า 1 ชนิดด้วยจำนวนหลัก “ล้าน” ชิ้นเลยทีเดียว
เสร็จแล้วก็จะส่งไปขายทั่วโลก

สินค้าที่มีความหลากหลายมากจากแนวคิดของ Daiso
ที่ต้องการเน้นสร้างความ “สนุก” ในการช๊อปปิ้ง
เริ่มด้วยการมีสินค้าที่หลากหลายมากๆ จัดเรียงตามลักษณะการใช้งาน
มีสินค้าที่คนต้องการใช้ในชีวิตประจำวัน
และมีสินค้าที่คนอาจจะ “คิด” ว่าต้องใช้ในอนาคตด้วย
Daiso ลงทุนในการทำบรรยากาศในร้านให้ดี
เน้นลูกค้าสามารถมองเห็นสินค้าได้ง่ายๆ
แต่แค่การจัดร้านไม่สามารถให้ความ “สนุก” กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่
Daiso ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบสินค้าด้วยตัวเองด้วย

Hirotake Yano ผู้ก่อตั้ง Daiso เคยกล่าวว่าเขาเองเป็นคนที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องกลยุทธธุรกิจเท่าไหร่นัก
เขาไม่รู้หรอกว่าต้องทำอะไรถึงจะประสบความสำเร็จ
แต่สิ่งหนึ่งที่เขาชอบทำอยู่ตลอดเวลาคือการทดลองทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ
เนื่องจาก 90% ของสินค้าทั้งหมดออกแบบโดย Daiso
ทางบริษัทจึงสามารถเลือกผลิตสินค้าใหม่ๆที่มักจะเป็นที่นิยมของลูกค้าได้เสมอๆ
มีสินค้าประมาณ 600 รายการที่ขายไม่ดีในแต่ละเดือน
Daiso จะทดแทนด้วยสินค้าที่ออกแบบมาใหม่ใหม่ทันที
นี่คือสิ่งที่ทำให้เรามักจะเจอของแปลกๆใน Daiso ที่ไม่มีขายที่อื่นบ่อยๆ
ซึ่งก็มักจะทำให้คนรู้สึกแปลกใจและรู้สึกว่า Daiso ชอบมีอะไรใหม่ๆเสมอ
อย่างเช่นคีมดึงเล็บพร้อมแว่นขยาย หรือรองเท้าแตะที่ถูพื้นไปด้วยในตัว
สินค้าแปลกๆพวกนี้ ทำให้การเข้ามาเดินซื้อของใน Daiso ไม่น่าเบื่อ
ถือเป็นนวัตกรรมส่วนสำคัญที่ทำให้ Daiso ประสบความสำเร็จ

ปัจจุบัน Daiso มีแม้กระทั่งครีมล้างหน้าขาย และก็สามารถซื้อออนไลน์ได้แล้วด้วย
แม้สินค้าบางอย่างจะไม่ค่อยทนด้วยราคาที่ถูก
แต่ตามธรรมชาติของคนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายอยู่แล้วกับของราคา 60 บาท
ถ้าเสียก็โยนทิ้งไปซื้อใหม่ แต่มันก็มีบางอย่างที่ซื้อมาแล้วใช้ดีและทนเวอร์มากๆ
ผมว่าคงทำให้ลูกค้ารู้สึกดีเหมือนได้กำไร พอได้มาเขียนบทความผมก็มานั่งคิดว่า
บางทีนี่อาจจะเป็นกลยุทธ(แบบไม่รู้ตัว)ของ Daiso ก็เป็นได้
ที่ทำให้ลูกค้าอย่างเราๆสนุกตื่นเต้นทุกครั้งที่ซื้อของที่ Daiso

ที่มาบทความ : http://buffettcode.com/daiso/