สรุปทุกสิ่งที่คุณต้องรู้ของหุ้น “PLANB”

PLANB ทำธุรกิจป้ายโฆษณาจอ Digital ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ตามตึกสูง, ทางด่วน และย่านธุรกิจต่างๆ ปัจจุบัน PLANB มีมูลค่าตลาดสูงถึง 22,000 ลบ. เป็นบริษัทที่มีรายได้รวมสูงเป็นอันดับสองของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีเบอร์หนึ่งคือ VGI

บริษัทเน้นทำธุรกิจ DOOH หรือ Digital Out of Home Media ปัจจุบันเป็นผู้เล่นที่มีความหนาแน่นของป้ายโฆษณาดิจิตอล (คือมีเยอะสุดนั่นแหละ) อันดับหนึ่งของกรุงเทพ

PLANB มีป้ายโฆษณาดิจิตอลจำนวน 275 ป้าย เป็นอันดับหนึ่งเช่นกันเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ ที่มีเพียง 45 ป้าย

PLANB มีรายได้จากป้ายโฆษณา Digital และโฆษณาออนไลน์สูงถึง 42.7% หรือเกือบๆ ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

นอกจากป้ายโฆษณา Digital แล้ว PLANB ยังมีรายได้จากป้ายโฆษณา Billboard ตามถนนสายหลักต่างๆ (สัดส่วน 27.2%) และรายได้จากสื่อโฆษณาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (สัดส่วน 15%)

PLANB มีธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นธุรกิจสื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้า, สื่อโฆษณาในสนามบิน และสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งที่บริษัทไปจัดการเรื่อง Sponsor ของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รวมไปถึงการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทที่ทำ BNK48 ด้วย

3 ปีที่ผ่านมารายได้ของ PLANB เติบโตอย่างต่อเนื่อง

2558 – 2,170 ลบ. กำไร 400 ลบ.

2559 – 2,448 ลบ. กำไร 351 ลบ.

2560 – 3,016 ลบ. กำไร 462 ลบ.

รายได้โตตลอดแต่กำไรโตบ้างไม่โตบ้าง ส่วนหนึ่งมาจากการที่ PLANB ลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่มีกำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างผันผวนขึ้นๆ ลงๆ จากการที่เหตุการณ์ภายนอกเข้ามากระทบทำให้ขายพื้นที่โฆษณาไม่ได้

อย่างไรก็ตามหากมองใน 5 ปีที่ผ่านมา ยังถือว่ากำไรเติบโตได้ดีจาก 167 ลบ.ในปี 2013 มาเป็น 462 ลบ.ในปี 2017 เติบโตเฉลี่ยปีละ 29%

สัดส่วนลูกค้ารายใหญ่ 10 รายแรกมีรายได้เป็นสัดส่วนถึง 68.7% ถ้าลูกค้ารายใดรายหนึ่งมีการยกเลิกการซื้อพื้นที่โฆษณาไปจะส่งผลกระทบกับรายได้และกำไรอย่างมีนัยยะได้ และจะส่งผลกระทบไปถึงราคาหุ้นด้วย

แม้อุตสาหกรรมโดยรวมจะกำลังถดถอยโดยในปี 2560 ขนาดของอุตสาหกรรมโดยรวมลดลงจากปี 2559 6%

กลุ่มที่ลดสูงสุดคือ:
นิตยสารลด 33.6%
หนังสือพิมพ์ลดลง 21.8%
เคเบิลทีวี 15.6%
วิทยุลดลง 15%
ทีวีอนาล๊อกลดลง 13.1%

จะเห็นว่าทั้งอุตสาหกรรมโฆษณากำลังเผชิญกับวิกฤต แต่ๆๆๆ ส่วนที่เป็นสื่อโฆษณากลางแจ้ง (Billboard) กลับไม่ลดลงแถมยังเติบโต 12.8% สื่อโฆษณาระบบขนส่งเช่น BTS MRT ก็มีการเติบโตที่ 10.1% สื่อโฆษณาภายในห้างก็โตสูงถึง 34.6% ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้เป็นส่วนที่เป็นธุรกิจหลักของ PLANB

การเติบโตของสื่อโฆษณากลางแจ้งมีการเติบโตที่ดีขึ้นและมีส่วนแบ่งการตลาดสูงขึ้นเรื่อยๆ ปี 2015 สื่อโฆษณากลางแจ้งมีส่วนแบ่งแค่ 8% แต่พอมาปี 2017 สื่อโฆษณากลางแจ้งมีส่วนแบ่งมากถึง 13% ผู้บริหาร PLANB บอกว่ามีโอกาสโตได้อีกถึง 18% (สัดส่วนเทียบเท่าฮ่องกงในปี 2016)

โอกาสในการลงทุนหุ้น PLANB มีหลากหลายปัจจัยบวก เช่น การเพิ่มจำนวนช่องทางและป้ายโฆษณาประมาณ 10-15% ต่อปีซึ่งส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นตามด้วย, อัตราการใช้งานป้ายที่สูงขึ้นเนื่องจากเสถียรภาพทางการเมือง, การมีเลือกตั้งและเหตุการณ์พิเศษต่างๆที่น่าจะไม่มีแล้ว

ในอดีต PLANB มีอัตราการใช้งานป้ายที่ค่อนข้างต่ำ ประมาณ 59-69% จากเหตุการณ์โศกเศร้าในปี 2016-2017 (ซึ่งทำให้ PLANB ขาดรายได้ไป 1-2 เดือนในแต่ละปี)

แต่ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไปเหตุการณ์จะกลับสู่สถานการณ์ปกติน่าจะทำให้อัตราการใช้งานป้ายสามารถเพิ่มเป็น 73-78% ในปี 2018 และ 78-82% ได้ในปี 2019-2020

การที่อัตราการใช้งานป้ายดีขึ้น (ป้ายไม่โล่งมีคนเช่าตลอด) จะทำให้อัตราการทำกำไรของ PLANB สูงขึ้นได้อย่างมีนัยยะ ปี 2017 มีอัตรากำไรสุทธิที่ 15.3% ในครึ่งปีแรกของ 2018 อัตรากำไรสุทธิดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอยู่ที่ 17.3

เห็น PLANB เติบโตต่อเนื่องแบบนี้แต่บริษัทแทบไม่มีหนี้เงินกู้เลย หนี้ที่มีอยู่พันกว่าล้านเป็นหนี้ทางการค้าทั้งหมด ตรงนี้พอจะประเมินได้ว่า PLANB เองก็มีอำนาจต่อรองในการซื้อจอดิจิตอลกับผู้ขายพอสมควร

แล้วผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 ที่เพิ่งประกาศไปเป็นยังไงบ้าง?

ดูที่รายได้กันก่อน รายได้ของ PLANB เติบโตสูง 52.3% จาก 788 ลบ. มาเป็น 1201 ลบ. ถือเป็นรายได้รายไตรมาสที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง PLANB มาเลยทีเดียว ซึ่งถ้าดู EBITDA ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือเติบโตสูงถึง 45%

ปัจจัยที่ทำให้รายได้ของ PLANB เติบโตหลักๆ มาจากรายได้โฆษณาที่มากขึ้น และอุตสาหกรรม Out of Home Media ที่เติบโต รวมไปถึงไม่มีเหตุการณ์พิเศษที่มากระทบกับอุตสาหกรรม Out of Home อย่างปีที่ผ่านๆ มา และการควบรวมรายได้ของบริษัทบีเอ็นเค 48 ออฟฟิศ

แต่ๆๆๆ หากมาดูที่บรรทัดสุดท้ายซึ่งก็คือกำไรสุทธิ กลับเติบโตแค่ 18.6% เท่านั้น สาเหตุนึงมาจากที่ PLANB ควบรวมรายได้ทั้งหมดของบีเอ็นเค 48 แต่รับรู้กำไรตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นที่ 35%

ในอนาคต PLANB ยังคงขยายธุรกิจโฆษณาโดยมีการลงทุนในป้ายโฆษณาและทำ M&A กับบริษัทที่ทำธุรกิจโฆษณาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีการต่อยอดทำ Engagement marketing เช่น การทำ Sport marketing ให้กับทีมชาติไทย และ Music marketing กับ BNK48 รวมไปถึงการเป็น One-Stop Media solution เชื่อมโยงธุรกิจโฆษณาภายนอกบ้านเข้าสู่ Online media ผ่าน Smartphone อีกด้วย

Outlook ปี 2018 PLANB จะทำอะไรบ้าง?

1. เพิ่มป้ายโฆษณาและพื้นที่สื่อต่างๆ ประมาณ ​10-15% รวมไปถึงการขยายงานออกต่างประเทศ

2. เพิ่มอัตรา Utilization ให้สูงขึ้นเป็น 75% ด้วยการปรับราคา, ปรับโครงสร้างการให้ผลตอบแทนกับ Agency ใหม่

ในเชิงกำไรขาดทุน PLANB ตั้งเป้ารายได้โต 15-20% อัตรากำไรขั้นต้น มากกว่า 38% มีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 700-800 ลบ. งบลงทุนสำหรับการ Takeover ที่ 500 ลบ. และปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ

เป้ารายได้ส่วน Engagement Marketing 700 ลบ. ในปี 2018 เป็นการขายสินค้า 180 ลบ. เป็นการขายสปอนเซอร์ 520 ลบ. เติบโตปีละ 15-20%

ดูข้อมูลงบการเงินของ PLANB เพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/stock/planb


คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้เขียนบทความนี้มิได้รับค่าตอบแทนหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทที่กล่าวถึงในบทความนี้แต่อย่างใด | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้