ไม่ต้องไปไกลก็ทำเงินได้ ลงทุนหุ้นโตเร็วในเอเชียกับ CIMB-PRINCIPAL APDIRMF

การเติบโตที่รวดเร็วของโลกกำลังจะโยกมาอยู่ในทวีปเอเชีย พูดถึงเอเซียคนส่วนใหญ่มักพุ่งสายตาไปที่ประเทศจีน ทั้งๆที่บริษัทในประเทศอื่นๆก็กำลังโตอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน การทำผลตอบแทนสูงๆจึงมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Samsung ที่เติบโตจากการเป็นโรงงานผู้ผลิตหน้าจอรายใหญ่ของโลก หน้าจอ AMOLED ที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือต่างๆเกือบทั้งโลกผลิตมาจากโรงงานของ Samsung ในประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนั้น Samsung ยังเป็นผู้ผลิตรายหน้าจอ OLED ให้กับแบรนด์มือถือชื่อดังอย่าง Apple ด้วย

ผลตอบแทนของกองทุน

เพราะการเติบโตของทวีปเอเชียสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก การลงทุนในทวีปนี้จึงให้ผลตอบแทนที่น่าประทับใจ โดยถ้านับถึงปัจจุบันวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 กองทุนสามารถทำผลตอบแทน 1 ปีได้ที่ 25.45% และ YTD ที่ 31.88% (อ้างอิงข้อมูลจาก Morning Star Thailand)

กระจายการลงทุนกระจายความเสี่ยง

CIMB-PRINCIPAL APDIRMF มีการกระจายการลงทุนในประเทศเอเชียที่กำลังเติบโตเพื่อลดความเสี่ยง โดยหลักแล้วกองทุนมีการลงทุนในจีนที่ 17.81%, ฮ่องกง 16.83%, ออสเตรเลีย 12.24%, เกาหลีใต้ 12.04%, อินเดีย 10.91%} และใต้หวัน 8.61% แต่โดยรวมแล้วถึงแม้จะกระจายไปหลายๆประเทศแต่ก็ยังอยู่ในประเทศที่กำลังเติบโตอยู่ดี ความเสี่ยงลดลงโดยกระทบผลตอบแทนไม่มาก

เลือกหุ้นผู้นำที่ทั้งเติบโตและแข็งแกร่ง

หุ้นที่  CIMB-PRINCIPAL APDIRMF เป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยหุ้น 10 อันดับแรกของกองทุนก็มี

  1. Samsung 5.58% เป็นหุ้นที่มีมากที่สุดเป็นอันดับแรก คิดว่าตัวนี้คงไม่ต้องบอกแล้วว่าดียังไง Samsung เป็นทั้งผู้ผลิต คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งขายสินค้าของตนเองอย่างมือถือ Samsung Galaxy ซึ่งเป็นคู่ปรับสำคัญของ iPhone แต่ถึง iPhone จะขายดีแค่ไหน Samsung ก็ได้ผลประโยชน์ไปด้วยเพราะ Samsung เป็นคนผลิตหน้าจอให้ iPhone นี่เอง
  2. ICBC 4.89% เป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์มากที่สุดของจีน และเป็นธนาคารที่มี Market cap สูงที่สุดในโลกใกล้เคียงกับธนาคาร Well Fargo ของ Warren Buffett
  3. China Mobile 4.51% บริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก (อีกแล้ว) เป็นรายใหญ่ในประเทศจีนโดยมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 70% แถมยังเป็นบริษัทที่รัฐบาลจีนถือหุ้นใหญ่อยู่ด้วย มั่นคงหรือไม่? ก็ลองถามใจดูนะ
  4. Tencent 4.33% บริษัทนี้คนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก เพราะถ้าพูดถึงบริษัทในจีนที่คนรู้จักเยอะๆก็คงหนีไม่พ้น Alibaba แต่อยากจะขอบอกว่า Tencent เป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ Alibaba ของ Jack Ma เลย ขนาดของบริษัทก็ใกล้เคียงกันคือประมาณ 460,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 15,000,000,000,000 บาทไทย (ผมใส่ 0 ไม่เกินแน่นอนครับ อ่านว่า 15 ล้านล้านบาท) Tencent ทำธุรกิจเกมส์รายใหญ่ของจีน เป็นบริษัทเกมส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (อีกแล้วววววว) นอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของแอพส่งข้อความที่มีคนใช้ประมาณ 1,000 ล้านคนชื่อว่า WeChat ด้วย
  5. BHP Billiton 4.24% บริษัทเหมืองสัญชาติออสเตรเลียที่เคยใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2015 ปัจจุบันตกลงมาเป็นอันดับ 2 แต่ก็ยังถือว่าใหญ่และมีอำนาจมากอยู่ดี
  6. Midia Group 3.52% บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ แม้บริษัทนี้จะยังไม่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่หุ้นของบริษัทถ้านับแค่ปีนี้ก็ขึ้นมามากกว่า 100% อนาคตก็อาจจะใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้ใครจะรู้
  7. Hangzhou Hikv 3.35% บริษัทนี้ทำกล้องวงจรปิด มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นรัฐบาลจีน อย่างที่เรารู้ว่าประเทศจีนถึงแม้จะพัฒนามาอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังไม่ใช่ประเทศที่จะให้อิสระภาพกับประชาชนมากมายนัก สินค้าที่เรานึกไม่ถึงอย่างกล้องวงจรปิดเนี่ยบางทีกลับสำคัญกับความมั่นคงของชาติอย่างยิ่งยวด (อาจจะสำคัญมากกว่ายางพาราที่ต้องเอาไปขายถึงดาวอังคารด้วยซํ้าไป)
  8. AIA 2.90% อันนี้คนไทยทุกคนรู้จักกันดี บริษัทประกันรายใหญ่ของโลกสัญชาติฮ่องกง เข้าใจว่าในไทยก็เป็นเบอร์ 1 ปีนี้หุ้นของ AIA ก็ขึ้นมามากกว่า 50% ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
  9. Shinhan Financial Group 2.84% กลุ่มการเงินรายใหญ่ของประเทศเกาหลี เป็นเจ้าของธนาคาร Shinhan ซึ่งเป็นธนาคารแรกของเกาหลี
  10. Hon Hai Precision 2.81% ถ้าบอกชื่อนี้คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ้าบอกว่า “Foxconn” หลายๆคนต้องอ๋อ!!แน่นอน เพราะบริษัทนี้คือบริษัทรับจ้างประกอบและผลิตชิ้นส่วน iPhone ให้กับ Apple นั่นเอง และแน่นอนก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน

ขนาดที่ใหญ่คือหัวใจสำคัญความแข็งแกร่ง

การเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ที่สุดในโลกนั้นมีข้อดี ! บริษัทเหล่านี้พร้อมในทุกๆด้าน ทั้งกำลังทรัพย์และการคิดค้นเทคโนโลยี ลองนึกภาพว่าถ้ามีบริษัทหน้าใหม่บริษัทหนึ่งอยากทำหน้าจอแข่งกับ Samsung หรือผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แข่งกับ Foxconn จะต้องเหนื่อยแค่ไหน? ไม่ใช่แค่กล้าแต่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ บริษัทที่น่าจะต้องห่วงคงมีแค่ Apple ไปผลิตเองเท่านั้นแหละ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย (ทำได้ง่ายๆเคี่ยวๆแบบ Tim Cook คงทำเองไปนานแล้ว)

CIMB-PRINCIPAL APDIRMF แข็งแกร่งก็ดี การเติบโตก็ได้ ผลตอบแทน 25.45% ถือว่าดีเมื่อเทียบกับกองทุนหลายๆกอง และที่สำคัญมีการกระจายการลงทุนในบริษัททวีปเอเซียดีๆหลายๆบริษัทซึ่งเป็นจุดที่ผมชอบมากๆ ขอฝาก CIMB-PRINCIPAL APDIRMF ไว้เป็นตัวเลือกในใจสำหรับใครที่กำลังมองหา RMF อีกซักกองครับ