ตีแตก VI ยุคใหม่ต้องเปลี่ยนอะไร?

หุ้นไทยยุคนี้เปลี่ยนแปลงเร็ว ถ้าคุณตามไม่ทัน Definit SET Select ช่วยคุณได้ คัดสรรหุ้นไทยที่มีศักยภาพสูง พร้อมจังหวะเข้าออกสำคัญ สนใจคลิก

“หุ้นคือการเป็นเจ้าของธุรกิจ” เป็นวรรคทองที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าหรือ VI ทุกคนต้องเคยได้ยิน และหลายคนก็ซึมซับแนวคิดนี้ผ่านงานเขียนระดับตำนานของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร อย่างหนังสือ ตีแตก ที่ได้วางรากฐานของการลงทุนอย่างมีเหตุผล และมองการณ์ไกล ด้วยหลักการที่ฟังดูเรียบง่ายแต่ลุ่มลึก นั่นคือการ “เลือกหุ้นดี ราคาถูก และลงทุนระยะยาว”

เกือบ 30 ปีที่ผ่านมา แนวทาง VI ได้พิสูจน์ตัวเองผ่านการเติบโตของเศรษฐกิจไทย การเพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบัน และการหล่อหลอมนักลงทุนรายย่อยให้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจตัวจริงในตลาดทุน แต่เมื่อเราก้าวเข้าสู่โลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว พฤติกรรมผู้บริโภคไม่แน่นอน และหลายบริษัทที่เคย “มั่นคง” กลับถูก Disrupt อย่างไม่ทันตั้งตัว คำถามสำคัญจึงเกิดขึ้นว่า VI ยุคใหม่ ควรยังยึดหลักเดิม หรือควร “ตีต่าง” เพื่ออยู่รอดในโลกที่ไม่เหมือนเดิม?

แก่นแท้ของ “ตีแตก” แนวคิดที่สร้างนักลงทุน VI

“ตีแตก” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อหนังสือ แต่คือกรอบความคิดที่สร้างวินัยให้กับนักลงทุน แนวทางของ ดร.นิเวศน์ เน้นการเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง มองหาบริษัทที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน (Moat) มีธรรมาภิบาลดี ราคาหุ้นไม่จำเป็นต้องต่ำที่สุด แต่ต้อง “คุ้ม” กับศักยภาพในอนาคต และสำคัญที่สุดคือการถือยาวแบบ “หุ้นซุปเปอร์สต็อก” ที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนทบต้นอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องซื้อขายบ่อย

หลักการนี้เคยช่วยให้ใครหลายคนเจอ “หุ้น10 เด้ง” แต่นั่นคือบริบทของโลกในช่วงเวลาหนึ่ง โลกที่เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โลกที่นักลงทุนรายย่อยยังไม่ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมหาศาลแบบปัจจุบัน และโลกที่ P/E ต่ำมักแปลว่า “ราคาถูก”

โลกเปลี่ยน เกมเปลี่ยน VI ก็ต้องเปลี่ยน

วันนี้เราอยู่ในยุคที่หุ้นอย่าง Nvidia, Microsoft หรือ Tesla เทรดกันที่ P/E หลัก 40–60 เท่า แต่ยังมีคนแห่ซื้อไม่หยุด เพราะ “ความคาดหวัง” สำคัญกว่าราคาในวันนี้ 

ดอกเบี้ยขาลงทำให้ Valuation ขยับเพดาน พฤติกรรมนักลงทุนเปลี่ยนไวจากกระแส FOMO และ Meme Stock ขณะที่โมเดลธุรกิจใหม่ ๆ อย่างผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม หรือ AI Software as a Service ก็แทบไม่มีสินทรัพย์ถาวรให้วิเคราะห์เหมือนแต่ก่อน

ในยุคนี้หากนักลงทุนยังใช้เครื่องมือแบบเดิม เช่น การมองหาหุ้นที่มี P/E ต่ำ อาจทำให้มองข้าม “ของดี” ที่กำลังเติบโต เพราะไม่เข้าใจบริบทใหม่ของการประเมินมูลค่า

เมื่อ Robot ครองตลาด VI ยังมีที่ยืนไหม?

ในยุคที่ระบบเทรดอัตโนมัติทั้ง Robot Trading และ Algorithmic Trading ครองปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นทั่วโลก การวิเคราะห์เชิงคุณค่าแบบ VI ดูเหมือนจะ “ช้าไป” หรือ “ตกยุค” ในสายตานักลงทุนบางกลุ่มตลาดทุกวันนี้ตอบสนองต่อข่าว การเงิน และแม้แต่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย ภายในเสี้ยววินาที — โดยที่ไม่มีใครแม้แต่ได้อ่านงบการเงินก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคา

แต่ถึงอย่างนั้น…แนวคิดแบบ VI ก็ยังไม่สูญพันธุ์ กลับกัน มันยิ่งต้อง “ตีต่าง” กว่าเดิม เพราะในโลกที่ความเร็วคือ “เกมของ AI” ความเข้าใจในแก่นแท้ของธุรกิจคือ “เกมของมนุษย์”

ในขณะที่ Robotrade ทำหน้าที่ “เก็งกำไรระยะสั้น” ได้ดีเยี่ยม แต่การเข้าใจว่าบริษัทไหนมีโครงสร้างที่แข็งแรง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนอย่างไร โมเดลธุรกิจไหนจะยั่งยืนในอีก 5–10 ปี ยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณเชิงมนุษย์ ความเข้าใจในพฤติกรรม และมุมมองระยะยาวแบบที่ AI ยังเรียนรู้ได้ไม่ครบ

VI ยุคใหม่จึงอาจไม่ต้องสู้ความเร็วของ Robotrade แต่ต้อง “รู้ให้ลึกกว่า” และ “คิดให้ไกลกว่า”

จาก VI คลาสสิก สู่ VI ยืดหยุ่น

VI รุ่นใหม่จึงไม่ได้หมายถึงการ “ทิ้งแนวคิดเดิม” แต่คือการ “ยืดหยุ่น” และ “ขยายกรอบ” ให้เหมาะสมกับความซับซ้อนของโลกปัจจุบัน 

  • เปิดใจรับธุรกิจรูปแบบใหม่ ธุรกิจดิจิทัลและแพลตฟอร์มไม่ได้มีทรัพย์สินถาวรมาก แต่มี Network Effect ที่แข็งแกร่ง นักลงทุนต้องเรียนรู้วิธีวิเคราะห์ “สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้” ให้เป็น
  • สนใจคุณภาพมากกว่าราคา หุ้นที่ดีอาจไม่ถูก แต่แพงอย่างมีเหตุผล ถ้ามีโมเดลธุรกิจแข็งแรง ก็อาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า “หุ้นถูกแต่ไม่ดี”
  • ใช้เทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์ Big Data, AI และข้อมูลเชิงพฤติกรรมสามารถช่วยประเมินความเสี่ยงและโอกาสได้แม่นยำขึ้น ไม่ใช่แค่ดูงบย้อนหลัง
  • มีพอร์ตที่หลากหลายและพร้อมปรับตัว การถือหุ้นแบบโฟกัสยังใช้ได้ แต่ต้องมีการกระจายความเสี่ยงด้านอุตสาหกรรมและภูมิภาค เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในโลกยุคปัจจุบัน
  • จริยธรรมผู้บริหาร จริยธรรมของผู้บริหารไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความโปร่งใส การตัดสินใจเชิงคุณธรรม และวัฒนธรรมองค์กรโดยรวม ข่าวความไม่โปร่งใสในตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลังคือเครื่องเตือนใจว่า “ความสามารถในการบริหารอาจพาองค์กรไปได้ไกล แต่ถ้าขาดความโปร่งใส อาจพาไปผิดทาง”

“ตีต่าง” เพื่อ “ต่อยอด” ไม่ใช่ “ตีทิ้ง”

แนวทาง “ตีแตก” ของ ดร.นิเวศน์ ยังคงทรงพลัง เพราะเป็นหลักการที่ฝังอยู่ในโครงสร้างความคิดของนักลงทุนแบบมีเหตุผล แต่การยึดหลักโดยไม่ปรับตัวอาจกลายเป็น “สูตรสำเร็จที่ไม่สำเร็จอีกต่อไป” 

“ตีต่าง” จึงไม่ใช่การปฏิเสธอดีต แต่คือการตีความใหม่ให้เหมาะสมกับปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการมองหาโอกาสจากธุรกิจพื้นฐานแข็งแกร่งในตลาดเกิดใหม่ หรือพิจารณาศักยภาพของนวัตกรรมในตลาดพัฒนาแล้ว รวมถึงการเปิดรับโมเดลธุรกิจใหม่จากสตาร์ตอัพที่กำลังเติบโต นักลงทุนยุคใหม่อาจต้องขยายกรอบความคิดให้กว้างขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนเร็วและซับซ้อนกว่าเดิม

VI ยุคใหม่ ตีแตกให้ทะลุ ตีต่างให้ทันโลก

การเป็น Value Investor ไม่ได้แปลว่าต้องยึดติดกับ P/E ต่ำ งบดุลแข็ง หรืออุตสาหกรรมแบบเดิม ๆ เสมอไป แต่คือการมี “วิธีคิดแบบเจ้าของกิจการ” ที่กล้าลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ แม้จะไม่ใช่หุ้นยอดนิยมในสายตาคนส่วนใหญ่ก็ตาม

“ตีแตก” คือการวิเคราะห์ให้ทะลุ
“ตีต่าง” คือการเข้าใจโลกที่เปลี่ยน

และ VI รุ่นใหม่ ควรใช้ทั้ง 2 อย่างควบคู่กัน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนท่ามกลางโลกที่ไม่หยุดหมุน

แต่ในโลกที่หมุนเร็ว ไม่ใช่ทุกคนจะมีเวลา “ตีแตก” ด้วยตัวเอง

ถ้าการเลือกหุ้นคุณภาพ ดูงบ วิเคราะห์โมเดลธุรกิจ หรืออ่านเทรนด์โลก เป็นเรื่องที่ใช้เวลามากเกินไป

เรามีตัวช่วยที่ออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงโอกาสได้ง่ายขึ้น ผ่านการคัดสรรหุ้นด้วยกลยุทธ์ที่มีการทดสอบและวางแผนอย่างเป็นระบบ พร้อมบริหารพอร์ตแบบอัตโนมัติ

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนหุ้นไทย

เรามีบริการ Definit SET Select พลิกกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย ช่วยคัดเลือกหุ้นไทยเน้น ๆ ไม่เกิน 20 ตัว พิจารณา 3 ปัจจัย

Earnings หุ้นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น
Valuation หุ้นที่มูลค่าถูกกว่าอุตสาหกรรม
Technical หุ้นที่มีโมเมนตัมเชิงบวกของราคาในระยะสั้น

สนใจรับบริการ finno.me/dss-web-article


คำเตือน: การลงทุนอาจมีการกระจุกตัวสูงทั้งในรายหุ้นและรายอุตสาหกรรม | การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจสัญญารับฝาก DR ก่อนการลงทุน | การลงทุนผ่าน DR มีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศ และความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา DR เอง | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-109-9933 และทาง Email support@definitinvestment.com

ThaiESGX