Road to Moscow 2018 ลุ้นฟุตบอลโลกไปพร้อมกับตลาดการเงิน

ฟุตบอลโลก 2018 พร้อมที่จะเขี่ยลูกเริ่มเตะแล้ว แน่นอนมหกรรมนี้จะต้องมีความสนุกสนานในเชิงกีฬา เมื่อสะท้อนมาฝั่งการเงิน ฟุตบอลมีความคล้ายกับตลาดการเงินในหลายแง่มุม และผมเชื่อว่าการเปรียบเทียบฟุตบอลกับเรื่องการลงทุนจะทำให้เราเห็นด้านแปลกๆ ของตลาด และติดตามฟุตบอลโลกได้อย่างสนุกสนานและมีสาระมากขึ้น

บทความนี้เราจะมาตีความสถิติตลาดการเงินในช่วงฟุตบอลโลกและจินตนาการไปพร้อมกันว่าประเทศไหนมีดีพอจะเป็นแชมป์โลกเมื่อวัดจากภาพรวมตลาดการเงิน

สิ่งแรกที่น่าสนใจคือสถิติฟุตบอลโลกบอกเราว่าตลาดจะ “เปิดรับความเสี่ยง”

ผมลองเปรียบเทียบตลาดการเงินในช่วงที่มีการแข่งกันฟุตบอลโลก 10 ครั้งหลังสุดหรือกว่า 40 ปีก่อน ใช้ข้อมูลในช่วงเดือนมิ.ย. ถึง ก.ค. ของปีที่มีฟุตบอลโลกเทียบกับปีที่ไม่มีฟุตบอลโลก พบว่าโดยรวม “หุ้นและน้ำมัน” มักเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดราว 2-4% ในช่วงนี้ แต่พอเป็นปีที่มีการแข่งฟุตบอลโลก “น้ำมัน เงินบาท และบอนด์ไทย จะยิ่งเป็นสินทรัพย์ที่ดีขึ้นไปอีก” ในช่วงอดีตที่ผ่านมาปีบอลโลกจะให้ผลตอบแทน “ดีกว่า” ปีที่ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกถึง 3.7% 2.4% และ 1.0% ตามลำดับ ขณะที่เงินดอลลาร์และหุ้นสหรัฐฯ เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนแย่ลงในปีที่ฟุตบอลโลก

อาจมองได้ว่าตลาดที่เปิดรับความเสี่ยง (risk on) เป็นผลจากฤดูกาลและความเสี่ยงในตลาดที่ลดลง ฟุตบอลโลกมีดีที่เริ่มในช่วงเดือนมิ.ย.ซึ่งตลาดกำลังกลับตัวหลังผ่านการปรับฐานในช่วงต้นปีไปแล้ว และนอกจากนี้ เมื่อมีเหตุการณ์อื่นที่สนุกสนานมาดึงความสนใจไปจากตลาด ความผันผวนโดยรวมที่ไม่สูงก็อาจเป็นบวกกับสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

คำถามที่สองคือประเทศไหนกันแน่ที่น่าจะได้แชมป์โลกในมุมของตลาดเงินตลาดทุน

ผมลองคิดเล่นสนุก ๆ โดยนำเศรษฐกิจและตลาดทุนของประเทศที่มี Elo Rating สูงที่สุดที่ห้าทีมแรก ได้แก่ สเปน เยอรมนี อังกฤษ บราซิล และฝรั่งเศส มาวิเคราะห์เปรียบเทียบกันโดยใช้เกณฑ์ว่า “ทีมที่จะเป็นแชมป์คือทีมที่มีเศรษฐกิจและตลาดทุนดีที่สุดและพร้อมรับกับภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่กำลังผันผวนในอนาคต”

มีสามทีมที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งมาก

เยอรมนี สเปน และ ฝรั่งเศส มีการขยายตัวของเศรษฐกิจราว 2.0-3.0% และมีเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 1.0-2.5% ทั้งสามประเทศนี้เยอรมนีคือประเทศที่มีประเทศที่แข็งแกร่งที่สุด ขณะที่สเปนจะเป็นประเทศที่เติบโตสูงที่สุด

มีสองทีมที่ตลาดหุ้นยังเป็นบวกในปีนี้

นำโดยฝรั่งเศสที่ตลาดหุ้น CAC40 เป็นเพียงตลาดเดียวที่ยังคงเป็นบวกมากกว่า 3% เมื่อนับจากช่วงต้นปี อันดับสองอย่างอังกฤษ FTSE100 ไต่อยู่ใกล้เคียงกับช่วงต้นปี แต่ตลาดอื่นทั้ง IBOVESPA ของบราซิล DAX ของเยอรมนี หรือ IBEX35 ของสเปน ต่างก็ปรับตัวลดลงราว 2-4% ไปเป็นที่เรียบร้อย

แต่มีทีมเดียวที่ความเสี่ยงของตลาดลดลง

ซึ่งฝรั่งเศสคือทีมเดียวที่เหลือรอดเพราะความผันผวนของตลาดทุนยังไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่สเปนและอังกฤษเป็นสองทีมที่มีความเสี่ยงของตลาดทุนเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุด และบราซิลเป็นทีมที่ค่าเงินผันผวนมากที่สุด

และในปีนี้การจะเป็นแชมป์โลกด้วยภาพรวมเศรษฐกิจปัจจุบัน ต้องเป็นทีมที่ทนต่อดอกเบี้ยขาขึ้น ความผันผวนที่สูง และราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ซึ่ง “ฝรั่งเศส” ดูจะมีโอกาสมากที่สุดสำหรับแชมป์โลก

มาถึงตรงนี้เราก็พร้อมที่จะติดตามและลุ้นตลาดการเงินไปพร้อมกับทีมที่ชอบได้อย่างสนุกแล้ว ส่วนตัว ผมเองก็แอบหวังให้ตลาดเปิดรับความเสี่ยงเหมือนในอดีต แต่ก็ต้องระลึกไว้เสมอว่าฟุตบอลก็เหมือนตลาดการเงิน แม้ว่าเราจะเตรียมตัวมาอย่างดี ศึกษาคู่แข่งมาอย่างละเอียด แต่โชคชะตาก็ยังเป็นองค์ประกอบที่อาจส่งผลให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงไปจากที่เราคาดได้เสมอ

สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนจึงควรเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรับสิ่งที่ไม่คาดฝัน และท่องไว้เสมอว่า เศรษฐกิจไม่เหมือนฟุตบอลที่จบใน 90 นาที และตลาดการเงินมีช่วงต่อเวลาให้เราเสมอถ้าเราไม่ยอมแพ้

ผลตอบแทนของสินทรัพย์ต่างๆในช่วงฟุตบอลโลก

SaveSave

SaveSave