ในทางลบ ประธาน Fed สาขา San Francisco เสนอแนะการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับประธาน Fed สาขา New York William Dudley และประธาน Fed สาขา Atlanta
แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงสับสนใน Essay ของประธาน Fed สาขา New York ที่ว่าสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ต้องมีดอกเบี้ยที่ต่ำสำหรับอนาคตที่เห็นได้ (Foreseeable future) และ Fed ควรเพิ่ม Inflation Targeting
สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนต่างประเทศซื้อหุ้นไทยประมาณ 100,000 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีโดยส่วนใหญ่เป็น passive fund ทั้งสิ้น (ผ่าน ETF) ในขณะที่ Active Fund ยังคง underperform และมี position ที่น้อย มองว่า ใน Stage ถัดไป การปรับตัวขึ้นของตลาดทุนไทยจะต้องมาจากการเพิ่ม Position ของ Active Fund หุ้น large cap ที่ยังคง laggard และมี high yields จะได้ผลบวกถ้า Active Fund เริ่ม overweight
มุมมองยังคงเหมือนเดิมที่เคยให้ไว้ คือ สภาพคล่องในไตรมาส 3 จะสูงสุด ในขณะที่ไตรมาส 4 มีเหตุการณ์ที่จะ Trigger ฟันด์โฟล์มีโอกาสไหลออก หลายเหตุการณ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การที่มี short position ที่มากเกินไปของตลาด VIX (ปริมาณ net short ของ VIX แตะระดับ US$1.3 พันล้าน ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2004) การที่นักลงทุนเริ่มมี long position ใน US$ น้อยเกินไปและโอกาสที่เกิด Bond shock มีสูง