จากการตัดสินใจล่าสุดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก 3 ประเทศ ได้แก่ จีน เม็กซิโก และแคนาดา ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกสั่นสะเทือน นักลงทุนต่างกังวลกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจและการค้าโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงทันทีจากความกังวลเรื่องต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น และสงครามการค้าที่มีโอกาสทวีความรุนแรงขึ้น 

นอกจากนี้ ทางด้านของหุ้นไทย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร “ตำนาน VI ไทย” ยังแนะนำให้ปรับกลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทยจาก ‘รุก’ ไปเป็น ‘รับ’ โดยเปลี่ยนจากการที่เน้นลงทุนในหุ้นเติบโต หุ้นวัฎจักร หรือหุ้นฟื้นตัวที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนมาก ๆ ในเวลาอันสั้น มาเป็นการลงทุนในหุ้นที่มีความปลอดภัยสูงเป็นพิเศษ หรือไม่ก็ไม่ลงทุนในหุ้นเลยเพื่อที่จะ “รักษาความมั่งคั่ง” โดย “ถือเงินสดให้มากที่สุด” 

คำถามก็คือในสถานการณ์อย่างนี้ นักลงทุนจะมีวิธีรับมืออย่างไร เมื่อตลาดหุ้นไม่เป็นใจสำหรับการลงทุน?

ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน รับมือยังไงดี?

สำหรับใครที่กังวลผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ หรือต้องการหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาดหุ้น Finnomena มีคำแนะนำโดยไล่ระดับตามความเข้มข้นของการรับมือ ดังนี้

1. ตราสารหนี้โลก

ตราสารหนี้โลกเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสมในการหลีกหนีจากความผันผวนของตลาด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ โดยมีโอกาสให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยที่สม่ำเสมอ และการคืนเงินต้นตามกำหนด 

ตราสารหนี้โลกจึงเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงกับความไม่แน่นอนของตลาด แต่ก็ยังต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม

โดย Finnomena Funds แนะนำกองทุน UGIS-N และ KF-CSINCOM ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วโลกผ่านกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund
ส่วนทางด้านตราสารหนี้เอเชีย แนะนำกองทุน K-APB-A(A) ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (รวมประเทศญี่ปุ่น) ผ่านกองทุนหลัก LO Funds – Asia Value Bond Fund, (USD), NA​ 

2. ตลาดเงิน (Money Market)

กองทุนรวมตลาดเงินมีลักษณะเด่นคือเน้นความปลอดภัยและสภาพคล่องสูง ด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นและเครื่องมือการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ ทำให้มีความผันผวนน้อยเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ นอกจากนี้ ผลตอบแทนมักจะมีความเสถียร และสามารถเข้าถึงเงินทุนได้ง่าย

กองทุนรวมตลาดเงินจึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรักษามูลค่าของเงินทุนในช่วงเวลาที่ตลาดมีความไม่แน่นอน และต้องการเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

โดย Finnomena Funds แนะนำกองทุน KKP MP, KKP PLUS และ KKP S-PLUS ด้วยเหตุผลดังนี้

1. KKP MP กองทุนลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 92 วัน (ปัจจุบันถุือครองอายุเฉลี่ย 32 วัน) ด้วยอายุที่สั้นจึงแนะนำถือครอง 1 สัปดาห์ – 1 เดือน เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่ว ๆ ไป

2. KKP PLUS ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคงทั้งในและต่างประเทศ ระดับ ฺฺฺBBB+ ขึ้นไป โดยมีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1.5 ปี (ปัจจุบันถุือครองอายุเฉลี่ย 60 วัน) เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์ และใกล้เคียงกับฝากประจำ จึงแนะนำถือครอง 2-3 สัปดาห์ ไปจนถึง 3 เดือน

3. KKP S-PLUS ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคงทั้งในและต่างประเทศ ระดับ ฺฺฺBBB+ ขึ้นไป โดยมีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1.5 ปี (ปัจจุบันถุือครองอายุเฉลี่ย 200 วัน) เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากประจำ จึงแนะนำถือครอง 3 เดือนขึ้นไป

3. หุ้นกู้

สำหรับผู้ที่มองหาการลงทุนความเสี่ยงต่ำ หุ้นกู้หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมีโอกาสให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่สม่ำเสมอ สามารถเลือกอายุการลงทุนได้ตามความต้องการ และมูลค่าเงินลงทุนยังไม่ผันผวนตามตลาดอีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจหุ้นกู้ สามารถลงทุนผ่าน บลป. Definit บริษัทในกลุ่ม Finnomena ที่มีให้ลงทุนทั้งหุ้นกู้ตลาดรอง (Secondary Market) และหุ้นกู้ตลาดแรก (Primary Market) 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/bond/

4. บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง FIN SAVE by KKP

ท้ายที่สุด สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความเสี่ยง และมองหาผลตอบแทนในอัตราที่แน่นอนในช่วงที่ตลาดยังคงผันผวน Finnomena แนะนำบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง FIN SAVE by KKP ที่ช่วยให้เงินทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการลงทุน 

นอกจากนี้ ยังเปิดบัญชีง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 100% อนุมัติไว ไม่มีขั้นต่ำ และรับดอกเบี้ยสูงสุด 1.6% บนแอป Finnomena

เปิดบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง FIN SAVE by KKP ได้ที่ https://partner.finnomena.com/kkp/landing

อ้างอิง: BBC, Settrade

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299