ประเภทของโรงไฟฟ้าในประเทศไทย

  1. โรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากฟอสซิล (Conventional energy) ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และน้ำมันเตา ประกอบด้วยบริษัท GULF, GPSC, BGRIM, EGCO, RATCH, BANPU
  2. โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable energy) ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ ลม น้ำ ชีวมวล ขยะ ประกอบด้วยบริษัท TPIPP, CKP, GUNKUL, SUPER, EA 

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

เปรียบเทียบ Fundamental ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

1. อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (Current Ratio)

บ่งบอกถึงความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นของบริษัท มีสูตรดังนี้

📌 อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (Current Ratio) = สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Asset) / หนี้สินหมุนเวียน (Current Liabilities)

  • ถ้าค่า > 1 = สินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน หมายถึงบริษัทนั้นมีความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นที่ดี
  • ถ้าค่า < 1 = หนี้สินหมุนเวียนมากกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน หมายถึงบริษัทนั้นอาจมีปัญหาในการชำระหนี้ระยะสั้นได้

ค่าเฉลี่ย Current Ratio ของกลุ่มโรงไฟฟ้า 6 บริษัท ในปี 2023 เท่ากับ 1.40 จากภาพจะเห็นได้ว่ามีอยู่ 2 บริษัทที่มีค่าเฉลี่ยเกิน 1.40 ได้แก่ CKP และ BGRIM

2. หนี้สินต่อทุน (D/E Ratio)

แสดงสัดส่วนการกู้หนี้ยืมสินว่าเป็นกี่เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้น มีสูตรดังนี้

📌 หนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) = หนี้สินรวม (Total Debt) / ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity)

ยิ่ง D/E สูง จะแสดงถึงภาระหนี้ที่สูง สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทนั้น โดยค่าเฉลี่ย D/E ของกลุ่มโรงไฟฟ้า 6 บริษัท ในปี 2023 คือ 1.71 ดังนั้นจะมี 3 บริษัทที่มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่า 1.71 ได้แก่ TPIPP, CKP และ GPSC

3. อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)

บ่งบอกความสามารถในการทำกำไรของบริษัท เป็นอัตราส่วนที่แสดงว่าขาย 100 บาท จะมีกำไรสุทธิเท่าไร ยิ่ง Net Profit Margin สูง แสดงว่าบริษัทนั้นมีความสามารถในการทำกำไร มีสูตรดังนี้

📌 อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) = (กำไรสุทธิ / ยอดขายสุทธิ) *100

ค่าเฉลี่ย Net Profit Margin ของกลุ่มโรงไฟฟ้า 6 บริษัท ในปี 2023 เท่ากับ 14.29% หมายความว่าถ้าขาย 100 บาท จะมีกำไรสุทธิ 14.29 บาท ดังนั้นจะมี 3 บริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรเกินกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ได้แก่ TPIPP, CKP และ GULF

4. อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย (Interest Coverage Ratio)

บ่งบอกถึงความสามารถในการชำระดอกเบี้ยของบริษัท มีสูตรดังนี้

📌 อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย (Interest Coverage Ratio) = กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) / ดอกเบี้ยจ่าย (เท่า)

  • ถ้าค่า > 1 กิจการมีรายได้เพียงพอต่อดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย
  • ถ้าค่า < 1 กิจการไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ เจ้าหนี้สามารถบังคับหนี้ได้ตามกฎหมาย

สำหรับอัตราส่วนนี้ ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี โดยค่าเฉลี่ย Interest Coverage Ratio ของกลุ่มโรงไฟฟ้า 6 บริษัท ในปี 2023 เท่ากับ 4.47 ดังนั้นมี 1 บริษัทที่ความสามารถในการชำระดอกเบี้ยที่ดี ซึ่งได้แก่ TPIPP

5. กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Cash Flow from Operating: CFO)

คือกระแสเงินสดที่เหลือจากการใช้จ่ายเพื่อให้กิจการดำเนินกิจการต่อได้

จากตารางจะเห็นได้ว่ากลุ่มโรงไฟฟ้าทั้ง 6 บริษัท มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก โดย GULF เป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานมากที่สุดในปี 2023 ที่ 18,294.68 ล้านบาท เนื่องจากขนาดบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน 

เปรียบเทียบ Fundamental ของ GULF กับกลุ่มธุรกิจเดียวกัน

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

  1. ความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น: 2/5
  2. หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน: 2/5
  3. ความสามารถในการทำกำไร: 3/5
  4. ความสามารถในการชำระดอกเบี้ย: 3/5
  5. กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: 4/5

Bloomberg Default Probability และ Altman Z-score ของ GULF

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

  • Bloomberg Default Probability ของ GULF มีค่าเท่ากับ 0.01% หมายความว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้ามีโอกาสเพียง 0.01% ที่ GULF จะผิดนัดชำระหนี้
  • Altman Z-score ของ GULF มีค่าเท่ากับ 1.58 ซึ่งเป็นค่าที่ทาง Definit มองว่าเป็นระดับที่มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ต่ำ

เปรียบเทียบ Fundamental ของ CKP กับกลุ่มธุรกิจเดียวกัน

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

  1. ความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น: 4/5
  2. หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน: 5/5
  3. ความสามารถในการทำกำไร: 4/5
  4. ความสามารถในการชำระดอกเบี้ย: 4/5
  5. กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: 1/5

Bloomberg Default Probability และ Altman Z-score ของ CKP

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

  • Bloomberg Default Probability ของ CKP มีค่าเท่ากับ 0.07% หมายความว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้ามีโอกาสเพียง 0.07% ที่ TPIPP จะผิดนัดชำระหนี้
  • Altman Z-score ของ CKP มีค่าเท่ากับ 1.15 ซึ่งเป็นค่าที่ทาง Definit มองว่าเป็นระดับที่มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ต่ำ

เปรียบเทียบ Fundamental ของ TPIPP กับกลุ่มธุรกิจเดียวกัน

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

  1. ความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น: 3/5
  2. หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน: 4/5
  3. ความสามารถในการทำกำไร: 5/5
  4. ความสามารถในการชำระดอกเบี้ย: 5/5
  5. กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: 1/5

Bloomberg Default Probability และ Altman Z-score ของ TPIPP

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

  • Bloomberg Default Probability ของ TPIPP มีค่าเท่ากับ 0.00% หมายความว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้ามีโอกาสเพียง 0.00% ที่ TPIPP จะผิดนัดชำระหนี้
  • Altman Z-score ของ TPIPP มีค่าเท่ากับ 1.30 ซึ่งเป็นค่าที่ทาง Definit มองว่าเป็นระดับที่มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ต่ำ

เปิดจักรวาล “หุ้นกู้กลุ่มโรงไฟฟ้า” ตัวไหนน่าลงทุน?

กลุ่ม Finnomena เลือก TPIPP เป็น Top Pick หุ้นกู้เด่นประจำเดือนเมษายน 2567 เนื่องจากบริษัทมีรายได้และกระแสเงินสดที่มั่นคงจากการมีสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาวกับ กฟผ. บริษัทถูกจดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ Investment Grade “A-” และจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 4.00% ต่อปี

อ่านเพิ่มเติม เจาะลึก “หุ้นกู้” ออกใหม่ TPIPP จ่ายดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี Tris Rating A- น่าลงทุนไหม?

📌 นักลงทุนสามารถลงทุนหุ้นกู้ของ TPIPP ผ่านกลุ่ม Finnomena ได้แล้ววันนี้! หากสนใจสามารถติดต่อที่ปรึกษาของท่าน หรือถ้ายังไม่มีที่ปรึกษาสามารถกรอกลิงก์เพื่อรับบริการ https://www.finnomena.com/exclusive/


“ชมรมหุ้นกู้” รายการที่จะพาผู้เชี่ยวชาญมาพูดคุยถึงข่าวในวงการหุ้นกู้ หุ้นกู้ออกใหม่ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกู้ พร้อมคลีนิกหุ้นกู้ ให้นักลงทุนได้สอบถามความเห็นที่เป็นกลางตามหลักสากล และวิธีลงทุนในหุ้นกู้ได้อย่างถูกต้อง!

🔔 พบกันทุกวันอังคาร เวลา 19.00 น. ที่ Facebook และ Youtube ของ Finnomena

เปิดโหมด Risk-On!