กลับมาพบกันอีกครั้งกับสัปดาห์แห่งความผันผวนในตลาดการลงทุน จากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีสอดคล้องคาดการณ์และแถลงการณ์ของนายเจอโรมม์ พาเวลล์ ประธาน Fed ที่กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ว่ามีการขยายตัวที่ดี และมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยล่าสุดประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตฝั่งผู้ผลิต (PPI) ที่ประกาศออกมาที่ระดับ 0.2% ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ แต่ฟื้นตัวมาจากการติดลบ

The Key Factors: ตลาดกังวล Bond Yield พุ่ง

ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต (PPI) ที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้มีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงปลายปี ซึ่งในปัจจุบันนี้นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ถึง 78.1% สอดคล้องกับ Dot plot ที่ผลสำรวจความคิดเห็นของคณะกรรมการบริหารและผู้แทนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ถึงแนวโน้มดอกเบี้ยในอนาคตของสหรัฐ (Dot plot) ครั้งล่าสุดที่คาดว่าดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนั้นจะอยู่ที่ระดับ 2.25% – 2.50% หรือจะปรับขึ้นอีกหนึ่งครั้งในปีนี้

The Key Factors: ตลาดกังวล Bond Yield พุ่ง

ประกอบกับปัญหาเรื่องสงครามการค้าและการขาดดุลการคลังของอิตาลี เป็นสองประเด็นที่กดดันตลาดมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุดนักลงทุนเกิดความกังวลว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มจะส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนทั้งในสหรัฐและทั่วโลก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลถูกใช้เป็นจุดอ้างอิงดอกเบี้ยเงินกู้ ส่วนอีกประเด็น คือด้วยอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของ Fed ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจ และอาจขายสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น ออกมาเพื่อนำมาลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้และพันธบัตร

The Key Factors: ตลาดกังวล Bond Yield พุ่ง

ด้วยปัจจัยและเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น FINNOMENA Investment Team มีมุมมองว่าดัชนีหุ้นสหรัฐฯ จะมีการ rebound ในระยะต่อจากนี้ หลังจากนั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบ sideway คือไม่สามารถทำ new high ได้เร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะความเสี่ยงของตลาดหุ้นโลกโดยรวม

FINNOMENA Investment Team รายงาน