ส่องบทวิเคราะห์เงินเฟ้อ เศรษฐกิจและมุมมองการลงทุนในปี 2022 โดย Franklin Templeton

จากมาตรการเยียวยาระหว่างการแพร่ระบาดของ COVID-19 (เช่น เงินอุดหนุน และเงินชดเชยการว่างงาน) และการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก (เช่น การเร่งเบิกจ่าย และการลงทุนภาครัฐ) ทำให้เม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ สร้างการเติบโต จนเศรษฐกิจหลายประเทศกลับเข้าสู่ระดับที่ใกล้เคียงเดิม หรือเกินกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งนี้เอง ทำให้กำลังซื้อ และความต้องการสินค้าและบริการที่คั่งค้างตั้งแต่ช่วง COVID-19 (Pent-up demand) เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน เมื่อการผลิตสินค้าและบริการไม่ทันกับความต้องการ จากการชะงักชะงันของห่วงโซ่การผลิต (Supply chain) จึงเป็นเหตุให้ราคาสินค้า และบริการปรับตัวขึ้น และเกิดเป็นภาวะเงินเฟ้อในที่สุด อย่างไรก็ดี เรายังเชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังเติบโตได้ต่อเนื่องท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งในรายงานฉบับนี้ เราจะวิเคราะห์ถึงบทบาทของเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น ภาพเศรษฐกิจภาพใหญ่ และมุมมองการลงทุนของเราในปี 2022 ดังนี้

ส่องบทวิเคราะห์เงินเฟ้อ เศรษฐกิจและมุมมองการลงทุนในปี 2022 โดย Franklin Templeton

1. เงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดในรอบ 40 ปี และค่าแรงกำลังปรับตัวขึ้นตาม

ล่าสุด เงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสูงแตะระดับ 7% ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในขณะที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปอยู่ที่ระดับใกล้ 5% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 40 และ 30 ปี ตามลำดับ โดยราคาสินค้าและบริการต่างปรับตัวขึ้นในวงกว้าง และครอบคลุมสินค้าหลายชนิด (แม้ว่าในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปจะยังมาจากกลุ่มพลังงานเป็นส่วนใหญ่อยู่ แต่ก็เริ่มแสดงสัญญาณวงกว้างมากขึ้น) ในขณะที่ค่าแรงค่อย ๆ เริ่มปรับตัวขึ้นมา ซึ่งยังช้ากว่าการปรับขึ้นของราคาสินค้าและบริการ

เราเชื่อว่า ราคาสินค้าและบริการในระดับสูง ประกอบกับแรงกดดันจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้เราเห็นภาวะเงินเฟ้อในระยะสั้นต่อไปอีก แต่เรายังมองว่าเศรษฐกิจน่าจะยังเติบโตได้ดี จากปัจจัยด้านการบริโภคในประเทศเป็นสำคัญ โดยเราเชื่อมั่นว่าตัวเลขด้านการจ้างงานน่าจะออกมาน่าพอใจ และตัวเลขการผลิตสินค้า เพื่อมาแทนสินค้าคงคลังจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ส่องบทวิเคราะห์เงินเฟ้อ เศรษฐกิจและมุมมองการลงทุนในปี 2022 โดย Franklin Templeton

 

Figure 1 ตารางแสดงอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐฯ โดยจะเห็นว่าตัวเลขค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และตัวเลขล่าสุด (7% ในเดือนธันวาคม 2564) ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี

ส่องบทวิเคราะห์เงินเฟ้อ เศรษฐกิจและมุมมองการลงทุนในปี 2022 โดย Franklin Templeton

Figure 2 กราฟแสดงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาสินค้ากลุ่มพลังงานในยุโรป โดยราคาสินค้ากลุ่มพลังงานที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป

 2. มุมมองของเราต่อเศรษฐกิจภาพใหญ่ในปี 2022 จะมีธีมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

  • เงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญ และอาจคงอยู่เป็นระยะเวลานานกว่าที่ตลาดคาด โดยเราพบว่าราคาสินค้าและบริการต่างปรับตัวขึ้นในวงกว้าง และการที่ตลาดแรงงานยังค่อนข้างตึงตัว ทำให้หลายบริษัทต้องเพิ่มค่าแรง เพื่อดึงดูดแรงงานคุณภาพให้เข้ามาทำงาน ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เร่งอัตราเงินเฟ้อ และทำให้อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์เพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากผู้ประกอบการก็ไม่ต้องการแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และอยากผลักต้นทุนที่เพิ่มส่วนนี้ให้กับผู้บริโภคในรูปแบบการเพิ่มราคาสินค้า ในขณะที่แรงงาน เมื่อเห็นราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ก็จะเรียกร้องค่าแรงเพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกัน

ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการคาดว่าเงินเฟ้อในอนาคตจะสูงขึ้นตามตัวอย่างข้างต้น ก็จะปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการล่วงหน้า เพื่อเตรียมการรองรับเงินเฟ้อที่จะเพิ่มสูงขึ้นเหล่านี้ และทำให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นเป็นวัฏจักรต่อเนื่องกันไป และคงอยู่เป็นระยะเวลานานกว่าปกติ

ส่องบทวิเคราะห์เงินเฟ้อ เศรษฐกิจและมุมมองการลงทุนในปี 2022 โดย Franklin Templeton

Figure 3 อัตราตำแหน่งงานว่าง (Openings) ที่มากกว่าอัตราการลาออก (Quit) แสดงให้เห็นว่าตลาดต้องการแรงงานเข้ามาเพิ่ม แต่มีแรงงานไม่เพียงพอ ทำให้ต้องเพิ่มค่าแรงเป็นแรงจูงใจ ดึงดูดแรงงาน ซึ่งการเพิ่มค่าแรงเป็นปัจจัยสำคัญ ส่งผลต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ และจะผลักดันทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในที่สุด

ส่องบทวิเคราะห์เงินเฟ้อ เศรษฐกิจและมุมมองการลงทุนในปี 2022 โดย Franklin Templeton

Figure 4 กราฟแสดงการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างที่เร่งตัวสูงขึ้นในช่วงหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานตึงตัว และบริษัทต้องเพิ่มค่าแรง เพื่อดึงดูดแรงงานมากขึ้น

  • การเติบโตของเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง ซึ่งจะขับเคลื่อนจากความต้องการสินค้าและบริการ ประกอบกับการบริโภคภาคครัวเรือนเป็นสำคัญ จากสถานะทางการเงินของครัวเรือนที่ดีขึ้นมาก (จากมาตรการการเยียวยา และการอัดฉีดจากภาครัฐ) ซึ่งเรายังเชื่อมั่นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป แม้ว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังมีให้เห็น แต่เราเชื่อว่าความรุนแรงของโอมิครอนที่น้อยกว่าเดลต้า และการเร่งควบคุมของภาครัฐ จะไม่ทำให้การแพร่ระบาดดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ

ส่องบทวิเคราะห์เงินเฟ้อ เศรษฐกิจและมุมมองการลงทุนในปี 2022 โดย Franklin Templeton

Figure 5 สถานภาพทางการเงิน และอัตราการออมที่ดีขึ้นของครัวเรือนในช่วง COVID-19 จากเม็ดเงินเยียวยา และการอัดฉีดจากภาครัฐทำให้ครัวเรือนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยสูง และจะเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

  • การเริ่มปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลางจะทำให้ตลาดผันผวน โดยเฉพาะหากเป็นการดำเนินนโยบายที่เหนือความคาดหมายของตลาด โดยเราจะเห็นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มแผนการควบคุมเงินเฟ้อ ด้วยการลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา และส่งสัญญาณว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2022 ตลอดจนการลดขนาดงบดุลในที่สุด ในขณะที่ธนาคารกลางสหภาพยุโรปก็เริ่มส่งสัญญาณลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์แล้วเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยที่กดดันการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางในปี 2022 โดยเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น อาจกดดันให้ธนาคารกลางต้องเร่งดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัว (quantitative tightening) ให้เร็วและแรงขึ้นอีก ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจจะสร้างความผันผวนให้ตลาดในระยะต่อไปได้ โดยเราคิดว่าตลาดยังไม่ได้ให้น้ำหนักการเร่งตัวของเงินเฟ้อในระยะต่อไปมากเท่าที่ควร ซึ่งอาจทำให้การดำเนินนโยบายของธนาคารกลาง ในลักษณะที่สร้างความแปลกใจกับตลาด (surprise) เช่น การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้น หรือหลายครั้งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ จะทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง

3. มุมมองต่อการลงทุนของเรา

  • การลงทุนในระยะต่อไปจะมีความผันผวนสูง โดยปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพฤติกรรมของตลาด (ทั้งตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร) ต่างเคลื่อนไหวตามสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น จากการอัดฉีดของธนาคารกลาง และการทำนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย (Quantitative easing) ซึ่งการปรับเปลี่ยนนโยบายจากนโยบายการผ่อนคลาย เป็นตึงตัวมากขึ้น น่าจะสร้างแรงกดดันต่อตลาด และทำให้ตลาดผันผวนได้ โดยเฉพาะหากการทำนโยบายดังกล่าวนั้น เหนือกว่าการคาดหมายของตลาด หรือรุนแรงกว่าที่ตลาดคาดไว้
  • การจัดพอร์ตเชิงรุก (Active management) จะเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด โดยเรามองว่าปี 2022 จะเป็นปีที่มีความไม่แน่นอนสูง ทั้งจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการตอบสนองทางนโยบายของธนาคารกลาง ซึ่งการจัดพอร์ตโดยการเลือกเฟ้นสินทรัพย์ด้วยความละเอียดรอบคอบ มีข้อมูลสนับสนุนรอบด้าน น่าจะเป็นทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับการลงทุนเชิงรับ หรือการลงทุนกับดัชนีในภาพรวม
  • การประเมินมูลค่า (Valuation) ยังเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อราคาของสินทรัพย์หลาย ๆ อย่างปรับตัวขึ้นในวงกว้าง นักลงทุนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์นั้น ๆ โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานประกอบ และเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ยังไม่เต็มมูลค่า (undervalued) ทั้งนี้ จากแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย เรามีมุมมองเชิงลบต่อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US treasury) ซึ่งเราคิดว่าจะถูกกดดันด้วยอัตราดอกเบี้ยในอนาคตที่สูงขึ้น และการเร่งระดมทุนเพื่อเป็นแหล่งเงินของโครงการต่าง ๆ

ส่องบทวิเคราะห์เงินเฟ้อ เศรษฐกิจและมุมมองการลงทุนในปี 2022 โดย Franklin Templeton

Figure 6 สรุปมุมมองของเราต่อสินทรัพย์ต่าง ๆ

เนื้อหาต้นฉบับโดย 

Sonal Desai, 

Chief Investment Officer

Franklin Templeton

Nikhil Mohan

Economist,
Research Analyst

Angelo Formiggini

Economist,
Research Analyst

David Yuen

Director of Multi-Sector Strategy, Franklin Templeton

John Beck

Director of Global Fixed Income, Franklin Templeton

David Zahn

Head of European Fixed Income, Franklin Templeton

ข้อสงวนสิทธิ์

  1. แฟรงคลิน เทมเพิลตัน (“Franklin Templeton”) ให้บริการการให้คำแนะนำทั่วไปแก่ FINNOMENA ในการออกแบบพอร์ตการลงทุน (Asset Allocations)
  2. แฟรงคลิน เทมเพิลตัน (“Franklin Templeton”) ไม่รับผิดใด ๆ ต่อบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ บริการ เว็บไซต์ หรือเนื้อหาใด ๆ ที่ได้จัดทำหรือปรากฏในช่องทางต่าง ๆ ของบุคคลภายนอกนั้น อีกทั้ง Franklin Templeton ไม่ได้ให้คำรับรอง รับประกัน หรือเป็นตัวแทน ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายในเนื้อหาหรือความถูกต้องของข้อมูลในช่องทางต่าง ๆ ของบุคคลภายนอก และไม่รับผิดต่อสิ่งใด ๆ ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากสิ่งที่กล่าวไว้ข้างต้น
  3. ในกรณีที่มีความแตกต่างกันระหว่างเอกสารภาษาอังกฤษกับการแปลเป็นภาษาไทย ให้ยึดถือตามเอกสารภาษาอังกฤษ

แหล่งข้อมูล

https://www.franklintempleton.com/articles/fixed-income-views/year-3-and-counting