เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) และ ดัชนี NASDAQ 100 ปรับตัวขึ้นแรงกว่า +2.51% และ +2.63% ตามลำดับ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นยกแผง นำโดยตลาดหุ้นฮ่องกง (HSI) + 2.05% ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (TOPIX) 1.94% ดัชนี HSCEI หรือ หุ้นจีน H-Shares +1.73% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) +1.55% ตลาดหุ้นไทย (SET Index) +1.12% และตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) +1.04%
การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในวันนี้เกิดขึ้นหลังจากนายสกอต เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายลง โดยย้ำว่าสหรัฐฯไม่ได้มีเป้าหมายในการแยกตัวทางเศรษฐกิจออกจากจีน พร้อมระบุว่าจากสถานะปัจจุบันซึ่งสหรัฐฯเก็บภาษีสินค้าจีนในอัตรา 145% และจีนตอบโต้ด้วยอัตรา 125% นั้นไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในระยะยาว ถ้อยแถลงดังกล่าวช่วยเสริมความหวังให้นักลงทุนว่าความตึงเครียดทางการค้าอาจคลี่คลายในระยะอันใกล้
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้กดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดดอกเบี้ย และขู่ว่าอาจปลดประธานเฟดเมื่อวันที่ 17 เมษายน ได้ออกมาชี้แจงในภายหลังว่า ตนไม่มีเจตนาในการปลดนายเจอโรม พาวเวล แต่เพียงต้องการให้เฟดลดดอกเบี้ย เพราะเห็นว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสม ท่าทีที่อ่อนลงของทรัมป์ช่วยลดความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดการเงินฟื้นตัวในวันนี้
Finnomena Funds มองว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในวันนี้ สะท้อนถึงความคลายกังวลของนักลงทุนต่อความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะหลังจากสหรัฐฯประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน ซึ่งส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการเปิดเจรจาการค้ากับหลายประเทศ และเป็นไปในทิศทางที่เราคาดไว้ในรายงานฉบับก่อนว่า การขึ้นภาษีของทรัมป์มีเป้าหมายเพื่อการ “เจรจา (make deal)” มากกว่าการจะต้องการเก็บภาษีในระดับสูงสุดตามที่เคยประกาศไว้ในวันที่ 2 เมษายน
เราเริ่มเห็นแรงต้านจากสังคมในสาธารณะต่อนโยบายการค้าของทรัมป์ ทั้งจากคะแนนนิยมของทรัมป์ที่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง จนไปถึงความขัดแย้งที่เริ่มเกิดขึ้นภายในระหว่างผู้สนับสนุนและทีมงานของทรัมป์เอง อย่างไรก็ตามแม้สหรัฐฯ กับจีนยังคงระดับภาษีตอบโต้ในระดับสูง ซึ่งไม่ยั่งยืนและจะสร้างอันตรายทางเศรษฐกิจกับทุกฝ่าย เราเชื่อว่าสุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายจะนำไปสู่การเจรจา เช่นเดียวกับทิศทางที่มีการเลื่อนการขึ้นภาษีกับประเทศอื่น ๆ
เราจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “เข้าลงทุน” ในสินทรัพย์เสี่ยงได้ หลังจากที่เราแนะนำ Wait and See เพื่อเตรียมลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2025
จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299