ทรัมป์เร่งจีนเจรจาก่อน

วันนี้ (16 เมษายน 2025) ดัชนี HSCEI (หุ้นจีน H-Share) ปรับตัวลงกว่า 3.1% หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มแรงกดดันต่อจีน โดยเรียกร้องให้ “จีนเป็นฝ่ายเริ่มต้นการเจรจา” เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งด้านการค้า ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากการตอบโต้กันด้วยมาตรการภาษี

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2025 รัฐบาลจีนได้ประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ จากเดิม 84% สู่ระดับ 125% ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2025 นอกจากนี้ทรัมป์ได้มีคำสั่งให้รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯเปิดสอบสวนแร่ธาตุหายาก เพื่อตรวจสอบว่า การนำเข้าแร่ธาตุสำคัญจากต่างประเทศส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่ โดยอาจนำไปสู่การเก็บภาษีนำเข้าฉบับใหม่ถ้าหากพบว่ามีภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยจีนเป็นผู้จัดหากว่า 70% ของแร่หายากที่สหรัฐฯ นำเข้า และถูกระบุเป็นเป้าหมายหลักในนโยบายนี้ นอกจากนี้คำสั่งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ในขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกแร่หายากบางรายการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานใน สหรัฐฯ ทั้งนี้การสอบสวนจะเสร็จสิ้นภายใน 270 วันและจะรายงานต่อทรัมป์ตามลำดับ

อย่างไรก็ดีสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานตัวเลข GDP ขยายตัว 5.4% YoY ใน 1Q2025 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 5.2% ขณะที่ตัวเลขอื่น ๆ ทั้งยอดค้าปลีก (Retail Sales)เพิ่มขึ้นจาก 4.0 YoY ในเดือนกุมภาพันธ์สู่ระดับ 5.9% YoY ในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ 4.2% และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Investment) เพิ่มขึ้นจาก 4.1% YoY ในเดือนมกราคมสู่ระดับ 4.2% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ 4.1% รวมทั้งดัชชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เพิ่มขึ้นแรงจาก 5.9% YoY ในเดือนกุมภาพันธ์ สู่ระดับ 7.7% YoY ในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 5.9%

Finnomena Funds มองว่าการประกาศเลื่อนการขึ้นภาษี 90 วัน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2025 เป็นไปในทิศทางที่เราคาดไว้ในรายงานฉบับก่อนว่า การขึ้นภาษีของทรัมป์มีเป้าหมายเพื่อการ “เจรจา (make deal)” มากกว่าการจะต้องการเก็บภาษีในระดับสูงสุดตามที่เคยประกาศไว้ในวันที่ 2 เมษายน เราเริ่มเห็นแรงต้านจากสังคมในสาธารณะต่อนโยบายการค้าของทรัมป์ ทั้งจากคะแนนนิยมของทรัมป์ที่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง จนไปถึงความขัดแย้งที่เริ่มเกิดขึ้นภายในระหว่างผู้สนับสนุนและทีมงานของทรัมป์เอง

อย่างไรก็ตามแม้สหรัฐฯ กับจีนยังคงระดับภาษีตอบโต้ในระดับสูง ซึ่งไม่ยั่งยืนและจะสร้างอันตรายทางเศรษฐกิจกับทุกฝ่าย เราเชื่อว่าสุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายจะนำไปสู่การเจรจา เช่นเดียวกับทิศทางที่มีการเลื่อนการขึ้นภาษีกับประเทศอื่น ๆ

เราจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “เข้าลงทุน” ในสินทรัพย์เสี่ยงได้ หลังจากที่เราแนะนำ Wait and See เพื่อเตรียมลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2025

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

ThaiESGX