หุ้นสหรัฐฯพุ่ง

เมื่อคืนวันที่ 25 เมษายน 2025 ดัชนี S&P500 และ NASDAQ 100 ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ +2.03% และ +2.76% ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นทั่วกระดาน นำโดย Nvidia +3.62%, Tesla +3.50%, Microsoft +3.45%, Amazon +3.29%, Meta +2.48% และ Apple +1.84% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

แรงบวกจากฝั่งสหรัฐฯ ส่งต่อมายังตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ โดยดัชนีสำคัญต่างๆ ปรับตัวขึ้นในวงกว้าง อาทิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (TOPIX) +1.50%, ฮ่องกง (HSI) +1.45%, เกาหลีใต้ (KOSPI) +1.06% และไทย (SET Index) +1.19%

ขณะที่ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังคงเป็นที่จับตามอง ล่าสุดอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับจีน และคาดว่าจะมีข้อตกลงที่ “เป็นธรรม” ต่อกัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกมาปฏิเสธว่า “ยังไม่มีการเจรจาใดๆ เกิดขึ้นในขณะนี้” พร้อมทั้งเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีที่มีอยู่

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2025 นายสกอต เบสเซนต์ (Scott Bessent)  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายลง โดยย้ำว่าสหรัฐฯไม่ได้มีเป้าหมายในการแยกตัวทางเศรษฐกิจออกจากจีน พร้อมระบุว่าจากสถานะปัจจุบันซึ่งสหรัฐฯเก็บภาษีสินค้าจีนในอัตรา 145% และจีนตอบโต้ด้วยอัตรา 125% นั้นไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในระยะยาว และล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้ถ้อยแถลงดังกล่าวช่วยเสริมความหวังให้นักลงทุนว่าความตึงเครียดทางการค้าอาจคลี่คลายในระยะอันใกล้

Finnomena Funds มองว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นเมื่อคืนนี้เกิดจากการปรับตัวแรงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พร้อมทั้งท่าทีของสหรัฐฯที่ดูอ่อนลงกับจีนสะท้อนถึงความคลายกังวลของนักลงทุนต่อความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะหลังจากสหรัฐฯประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน ซึ่งส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการเปิดเจรจาการค้ากับหลายประเทศ และเป็นไปในทิศทางที่เราคาดไว้ในรายงานฉบับก่อนว่า การขึ้นภาษีของทรัมป์มีเป้าหมายเพื่อการ “เจรจา (make deal)” มากกว่าการจะต้องการเก็บภาษีในระดับสูงสุดตามที่เคยประกาศไว้ในวันที่ 2 เมษายน

เราเริ่มเห็นแรงต้านจากสังคมในสาธารณะต่อนโยบายการค้าของทรัมป์ ทั้งจากคะแนนนิยมของทรัมป์ที่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง จนไปถึงความขัดแย้งที่เริ่มเกิดขึ้นภายในระหว่างผู้สนับสนุนและทีมงานของทรัมป์เอง อย่างไรก็ตามแม้สหรัฐฯ กับจีนยังคงระดับภาษีตอบโต้ในระดับสูง ซึ่งไม่ยั่งยืนและจะสร้างอันตรายทางเศรษฐกิจกับทุกฝ่าย

เราเชื่อว่าสุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายจะนำไปสู่การเจรจา เช่นเดียวกับทิศทางที่มีการเลื่อนการขึ้นภาษีกับประเทศอื่น ๆ

เราจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “เข้าลงทุน” ในสินทรัพย์เสี่ยงได้ หลังจากที่เราแนะนำ Wait and See เพื่อเตรียมลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2025

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

ThaiESGX