
วันที่ 6 ตุลาคม 2025 ดัชนี VN Index ปรับตัวขึ้น +2.06% แตะระดับ 1,679.71 จุด นำโดยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ หลังรายงานเศรษฐกิจล่าสุดของรัฐบาลเวียดนามเผยว่าเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง โต 8.23% YoY ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นจาก 7.96% YoY ในไตรมาสก่อนหน้า แม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มเป็น 20% สำหรับสินค้าจากเวียดนาม และสูงถึง 40% สำหรับสินค้าทรานชิพจากประเทศที่สามผ่านเวียดนาม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม
ภาคการส่งออกในช่วงกรกฎาคม–กันยายนขยายตัว 18.4% YoY สู่ระดับ 128,570 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 20.2% เป็น 119,660 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกินดุลการค้า 8,910 ล้านดอลลาร์ ส่วนภาคอุตสาหกรรมยังเติบโตแข็งแกร่ง +9.1% ในรอบ 9 เดือนแรกของปี สะท้อนความแข็งแกร่งของภาคการผลิตในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือนกันยายนอยู่ที่ 3.38% YoY และยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 11.3% บ่งชี้ว่าการบริโภคในประเทศยังฟื้นตัวต่อเนื่อง
ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ยืนยันว่าจะ “ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าการควบคุมเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี” โดยส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพิ่มเติม และคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีจะอยู่ที่ 19–20% เพื่อเร่งฟื้นตัวภาคเอกชนและอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่รัฐบาลยังตั้งเป้า GDP ทั้งปี 8.3–8.5% สูงกว่าประมาณการของ World Bank (6.6%) และ IMF (6.5%)
Finnomena Funds ประเมินว่า แม้ตลาดหุ้นเวียดนามจะปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี (YTD) แต่แรงขับเคลื่อนหลักยังคงกระจุกอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่ เช่น Vingroup, Vinhomes และ VRE ซึ่งทำให้โครงสร้างตลาดเริ่มมีความเปราะบาง ขณะเดียวกัน Room Margin ของโบรกเกอร์ลดลงเหลือ 45.6% ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2022 สะท้อนการใช้ Leverage ที่สูงขึ้น และเป็นสัญญาณที่ในอดีตเคยมาพร้อมกับแรงขายทำกำไรหลังตลาดแตะระดับสูงสุด (All-Time High)
อย่างไรก็ตาม ภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังมีสัญญาณฟื้นตัว โดย Manufacturing PMI ปรับดีขึ้น จากคำสั่งซื้อภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น แม้คำสั่งส่งออกยังถูกกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ขณะที่แนวโน้มการอัปเกรดสถานะตลาดโดย FTSE มีความเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดเงินทุนต่างชาติ (Foreign Flow) ไหลเข้าสู่ตลาดเวียดนามในระยะกลาง แม้อาจเกิดแรงขายระยะสั้นแบบ “Sell on Fact” ในช่วงรอบประกาศอัปเกรดในต้นเดือนตุลาคมนี้
โดยรวมทีมยังคงมุมมอง Neutral ต่อหุ้นเวียดนาม และแนะนำให้นักลงทุน “คงสัดส่วนการลงทุน” ขณะรอความชัดเจนของปัจจัยต่างประเทศและการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างชาติในระยะต่อไป
จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299