Debasement Trade

ช่วงนี้นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตามองปรากฏการณ์ที่เริ่มเป็นที่พูดถึงในตลาดอย่างกว้างขวาง นั่นคือ “Debasement Trade” หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การเทขายเงินสกุลหลัก แล้วหนีไปหาสินทรัพย์ที่ไม่ถูกลดค่า

เบื้องหลังปรากฏการณ์นี้ มาจากความกังวลเรื่องการคลังของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น หรือยุโรป ที่ต่างมีหนี้สาธารณะสูงและจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ยากที่จะรักษาวินัยการคลังได้เต็มที่ ทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของเงิน

เมื่อคนเริ่มรู้สึกว่ารัฐบาลพิมพ์เงินมากเกินไป หรือหนี้กำลังควบคุมไม่ได้ ความเชื่อมั่นในค่าเงินก็เริ่มสั่นคลอน นักลงทุนจึงเริ่มมองหาที่พักเงินใหม่

เยนอ่อนแรงอีกระลอก หลังทาคาอิจิชนะเลือกตั้ง

เงินเยนร่วงแรงทันที หลัง ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) ชนะเลือกตั้งภายในพรรค LDP และเตรียมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น

ทาคาอิจิประกาศชัดว่าจะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อ ตามแนวทาง “อาเบะโนมิกส์” (Abenomics) ของอดีตนายกฯ ชินโซ อาเบะ ซึ่งเน้นการใช้จ่ายภาครัฐและนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ทำให้นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คงยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้

ผลคือเงินเยนอ่อนลงถึง 1.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันเดียว ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ก็พุ่งขึ้นแตะ 3.29% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี

ดอลลาร์เจอแรงกดดันจากการเมืองและหนี้

ฝั่งสหรัฐฯ การเมืองในวอชิงตันเต็มไปด้วยความขัดแย้ง และปัญหา “ชัตดาวน์” ที่ยืดเยื้อ ทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่า “รัฐบาลยังควบคุมการใช้จ่ายได้จริงหรือไม่” ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง และถ้าเทียบกับ Bitcoin ดอลลาร์สหรัฐได้สูญเสียมูลค่าราว 30% ตั้งแต่ต้นปี

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan บอกว่า เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ทุกครั้งที่วอชิงตันไร้เสถียรภาพ นักลงทุนก็มักหนีออกจากดอลลาร์ไปหาสินทรัพย์อื่นแทน

ยูโรสั่นจากแรงกดดันการเมือง

ยูโรเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ถูกกระทบแรง โดยเฉพาะจากสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส หลังนายกรัฐมนตรีคนใหม่ลาออกหลังเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 27 วัน ความไม่แน่นอนนี้สะท้อนชัดในค่าเงินยูโรที่อ่อนลง 0.1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แม้ตัวเลขจะดูเล็ก แต่ก็ส่งสัญญาณว่าตลาดยังไม่มั่นใจในเสถียรภาพการเมืองและเศรษฐกิจของยุโรป นักลงทุนจึงเริ่มมองหาที่หลบภัยในสินทรัพย์ปลอดภัย

เงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยกว่า

ผลลัพธ์คือสินทรัพย์ทางเลือกกลับมามีแรงซื้อสูงอีกครั้ง ทองคำพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ เงินแท่ง (Silver) เข้าใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล และ Bitcoin เคลื่อนไหวเข้าใกล้ราคาสูงสุดที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเงินเยน ทองคำและ Bitcoin ต่างทำสถิติใหม่ในช่วงสัปดาห์นี้

คริส เวสตัน (Chris Weston) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Pepperstone Group มองว่า ตอนนี้ทองคำและ Bitcoin ไม่ใช่แค่สินทรัพย์เก็งกำไร แต่เป็นที่หลบภัยจากการลดค่าเงินของโลกยุคหนี้ล้น

ปรากฏการณ์ Debasement Trade ครั้งนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของค่าเงินหลักทั่วโลก การถือเงินสดอย่างเดียวอาจไม่มั่นคงอีกต่อไป นักลงทุนต้องมองหาสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางการเมือง

กระจายความเสี่ยงผ่านกองทุนตราสารหนี้โลก

ในช่วงที่ค่าเงินหลักโลกอย่างเยน ดอลลาร์ และยูโร อ่อนค่าพร้อมกัน การลงทุนในตราสารหนี้โลกถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมีการกระจายความเสี่ยงไปยังตราสารหนี้คุณภาพสูงทั่วโลก ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และไม่กระจุกตัวอยู่ในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง 

K-GDBOND-A(A)

ลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund, Class INST USD Acc (กองทุนหลัก) ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้และหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ทั่วโลกอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าสินทรัพย์ของกองทุนหลัก โดยใช้กลยุทธ์ Global Multi-Sector Strategy ซึ่ทั้งลงทุนโดยตรงหรือผ่านตราสารอนุพันธ์ รวมถึงสามารถลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพต่ำ (High Yield) ได้ไม่เกิน 50% ของพอร์ตหลัก และมีอายุเฉลี่ยของพอร์ต (Portfolio Duration) 0–8 ปี

UGIS-N

กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือกองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

KF-CSINCOME

กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ กองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I-Acc) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV


อ้างอิง: Yahoo Finance, Bloomberg, วารสารการเงินธนาคาร

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Tax Cal