
ลงทุนเติบโตไปกับกองทุนหุ้นเทคโนโลยีแห่งอนาคต โอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูง เลือกกองทุนแบบไหนดี วิเคราะห์ 3 ค่ายยอดฮิต Fidelity – Baillie Gifford – ARK Invest มีกลยุทธ์การลงทุนแตกต่างกันอย่างไร วิธีการคัดเลือกหุ้นเป็นแบบไหน เปรียบเทียบจุดเด่นและความเสี่ยงของแต่ละกองทุน
Fidelity Funds – Global Technology Fund กองทุนรวมในไทย ได้แก่ B-INNOTECH และ KT-TECHNOLOGY-A
ผู้จัดการกองทุนหลัก Hyun Ho Sohn
ปรัชญาการลงทุนแบบ Valuation-based คือ หุ้นที่มีการเติบโตของกำไร แต่เข้าซื้อในมูลค่าเหมาะสม ไม่แพงเกินไป และมีความสามารถในการแข่งขัน เพื่อหาโอกาสการทำกำไรในระยะยาว ด้วยสไตล์การลงทุนแบบ Contrarian
คัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตประมาณ 100 ตัว โดย Universe การลงทุน เน้นหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก อาจมีการลงทุนในหุ้น Sector อื่น ๆ บ้าง แต่ก็เป็นบริษัทที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตัวอย่าง Top Holding (as of 18/04/2025) เช่น TSMC, Microsoft, Apple, Amazon, Ericsson เป็นต้น
จุดเด่นของ Fidelity Funds – Global Technology Fund
- ผู้จัดการกองทุนลงทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่จัดตั้งกองทุน
- กระจายความเสี่ยงสูงในหุ้นประมาณ 100 ตัว ทำให้ความเสี่ยงเฉพาะของหุ้นตัวใดตัวหนึ่งต่ำ
- ปรับพอร์ตยืดหยุ่น และจัดการความเสี่ยงขาลงได้ดี
- ด้วย Valuation discipline ทำให้โดยทั่วไปแล้วพอร์ตจะมี beta ที่ต่ำกว่าดัชนี อาจจะไม่ได้เป็นกองทุนที่ขึ้นได้เร็วแรงในตลาด bull market
จุดอ่อนและความเสี่ยง
- ด้วยความเป็น Valuation-based ทำให้พอร์ตจะมี beta ที่ต่ำกว่าดัชนี จึงไม่ใช่เป็นกองทุนที่ขึ้นได้เร็วแรงใน Bull Market
- ไม่เน้นลงทุนในหุ้นตามกระแส หรือมีโมเมนตัมที่ดี ทำให้ในระยะสั้น กองทุนอาจทำผลตอบแทนแพ้กองทุนหุ้นเติบโตอื่น ๆ
ARK Next Generation Internet ETF กองทุนรวมในไทย ได้แก่ SCBNEXT(A)
ผู้จัดการกองทุนหลัก Cathie Wood
ปรัชญาการลงทุนแบบ Futuristic-based คือ หุ้นนวัตกรรมล้ำหน้า สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อโลกอนาคต ซึ่งปัจจุบันยังไม่ใช่ผู้นำตลาด แต่ศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้คนด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงมักเป็นหุ้นขนาดเล็กและอาจจะยังไม่มีกำไรทางธุรกิจ
คัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตประมาณ 40 ตัว โดย Universe การลงทุนหุ้นทั่วโลก ไม่จำกัด Sector เน้นหุ้นเติบโตสูง (Growth Stocks) ตัวอย่าง Top Holding (as of 18/04/2025) เช่น Ark Bitcoin ETF, Tesla, Roku, Roblox, Robinhood Markets เป็นต้น
จุดเด่นของ ARK Next Generation Internet ETF
- ผู้จัดการกองทุนประสบการณ์สูงและบริการกองทุนมาอย่างต่อเนื่อง
- ลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตของผู้คน ซึ่งถ้าสมมติฐานนี้เกิดขึ้นจริง กองทุนจะทำผลตอบได้สูงมาก
จุดอ่อนและความเสี่ยง
- หน้าพอร์ตกระจุกตัว ทำให้มีความผันผวนสูง
- เลือกหุ้นจาก Futuristic Theme ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
- น้ำหนักหุ้นกว่าครึ่งพอร์ตในปัจจุบันยังมีผลประกอบการขาดทุน
Baillie Gifford Long Term Global Growth กองทุนรวมในไทย ได้แก่ ONE-UGG-RA และ KFGG-A
ผู้จัดการกองทุนหลัก Mark Urquhart
ปรัชญาการลงทุนแบบ Growth-based คือ หุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรสูง คาดว่าจะเป็นผู้ชนะในอนาคต อาจจะเป็นบริษัทที่ยังไม่ใหญ่มาก แต่มี Valuation แพงในปัจจุบัน เพราะตลาดคาดหวังศักยภาพการเติบโตสูง
คัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตประมาณ 40 ตัว โดย Universe การลงทุนหุ้นทั่วโลก ไม่จำกัด Sector เน้นหุ้นเติบโตสูง (Growth Stocks) ที่ถือไปยาว ๆ ซึ่งพอร์ตมี Turnover แค่ประมาณ 20% ตัวอย่าง Top Holding (as of 18/04/2025) เช่น Amazon, Cloudflare, Nvidia, Roblox, Netflix, Spotify Technology เป็นต้น
จุดเด่นของ Baillie Gifford Long Term Global Growth
- ลงทุนในหุ้นที่คาดว่ามีการเติบโตของธุรกิจ และจะกลายเป็นผู้ชนะในอนาคต เพราะฉะนั้น กองทุนจึงมีศักยภาพสร้างผลตอบแทนที่สูงมาก
- เหมาะกับการถือระยะยาวมาก ๆ อย่างเข้มข้น ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป
จุดอ่อนและความเสี่ยง
- หน้าพอร์ตกระจุกตัว ทำให้มีความผันผวนสูงกว่า
- เน้นลงทุนหุ้นที่คาดว่าจะมีกำไรในอนาคต ซึ่งไม่ได้แปลว่าจะมีกำไรในปัจจุบัน ทำให้ลักษณะของพอร์ตจะอ่อนไหวกับปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ
- การที่กองทุนเน้นถือยาวมาก อาจจะมองว่าปรับพอร์ตได้ช้าไม่ทันการ
เปรียบเทียบกองทุนจากความคาดหวังช่วงเวลาแห่งการเติบโตที่แตกต่างกัน
Source: Finnomena Funds as of 06/03/2025
สรุปมุมมอง Finnomena Funds เลือกกองทุนไหนดี?
Finnomena Funds มองว่า B-INNOTECH และ KT-TECHNOLOGY-A ซึ่งลงทุนผ่านกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology Fund เหมาะสมที่จะเป็น Core-Portfolio สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นกองทุนหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นเติบโตที่เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพ กระจายลงทุนหลากหลาย ทั้งหุ้นเทคโนโลยี และ Sector อื่นที่อาจได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในช่วงเวลานั้น ๆ
นอกจากนี้ B-INNOTECH ยังเป็นกองทุนแนะนำ F-Pick ของ Finnomena Funds ซึ่งที่ผ่านมาสามารถทำผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยงได้ยอดเยี่ยม แม้อาจไม่ใช่กองทุนที่วิ่งได้แรงในตลาดขาขั้น แต่ระยะยาวที่ผ่านทั้ง Cycle ขึ้นและลง ถือว่าเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์ เน้นถือลงทุนยาว แต่ก็มีการปรับพอร์ตอยู่สม่ำเสมอ
ส่วนกองทุน ONE-UGG-RA และ KFGG-A ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Baillie Gifford Long Term Global Growth เราแนะนำให้สับเปลี่ยนไป B-INNOTECH หรือลงทุนเป็น Satellite-Portfolio เพราะมีความผันผวนสูงและเป็นแนวยึดมั่นเรื่องการถือลงทุนหุ้นแต่ละตัวยาว หากเลือกหุ้นถูก กองทุนจะปรับตัวขึ้นได้ดี แต่ถ้าเลือกผิด กองทุนก็จะปรับตัวลงแรงเช่นกัน
สุดท้ายกองทุน SCBNEXT(A) ของกองทุนหลัก ARK Next Generation Internet ETF แนะนำสับเปลี่ยนไป B-INNOTECH เช่นกัน เว้นแต่จะมองเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นตามกระแสหุ้นเทคโนโลยีขนาดเล็ก แต่ระยะยาวผันผวนสูงมาก
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุน โดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | กรณีผู้ลงทุนสนใจลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยง ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กรณีผู้ลงทุนสนใจลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูง/ซับซ้อน และมีสินทรัพย์อ้างอิงการลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีความซับซ้อน ซึ่งมีปัจจัยอ้างอิงมีความแตกต่างจากการลงทุนในปัจจัยอ้างอิงโดยตรง ซึ่งอาจทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนดังกล่าวมีความผันผวนแตกต่างจากราคาของปัจจัยอ้างอิงได้ ผู้แนะนำการลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมการลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE: @FinnomenaPort