
เมื่อวันจันทร์ (21 เม.ย.) ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ ได้พบปะกันที่กรุงนิวเดลี โดยมี “ความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” ในการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศ
แถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรีอินเดียระบุว่า ผู้นำทั้งสองได้หารือถึงแนวทางผลักดันข้อตกลงการค้าร่วมกันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย และประเมินความคืบหน้าเชิงบวกในความร่วมมือด้านต่าง ๆ ทั้งเรื่องพลังงาน กลาโหม และเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระดับโลก พร้อมเรียกร้องให้ใช้การเจรจาและการทูตเป็นแนวทางหลักในการแก้ไขความขัดแย้ง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 เมษายน อินเดียถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตอบโต้สินค้านำเข้าสินในอัตรา 26% ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศระงับภาษีดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน ในวันที่ 9 เมษายน โดยให้คงอัตราภาษีพื้นฐานไว้ที่ 10%
ในขณะเดียวกัน เจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) และกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของอินเดีย ได้ “สรุปข้อกำหนดเพื่อวางกรอบการเจรจาการค้าแล้ว” พร้อมยอมรับว่ายังมีความไม่สมดุลในความสัมพันธ์ทางการค้า แต่ก็ชื่นชมท่าทีของอินเดียที่เปิดกว้าง และหวังว่าจะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับแรงงาน เกษตรกร และผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โมดีและทรัมป์เคยตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างอินเดียและสหรัฐฯ ให้มากกว่าสองเท่า เป็น 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีมูลค่าการค้ากับอินเดียประมาณ 1.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และอินเดียยังคงได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ โดยมียอดเกินดุลถึง 4.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
ที่มา: https://www.cnbc.com/2025/04/22/modi-and-vance-tout-significant-progress-on-india-us-trade-deal.html
กองทุนหุ้นอินเดีย แนะนำโดย Finnomena Funds
1. B-BHARATA
- Mr.Messenger Call และ MEVT Call แนะนำ “B-BHARATA” และ กองทุนรวมหุ้นอินเดีย ลงทุนผ่านกองทุน RAMS Investment Unit Trust – India Equities Portfolio Fund II
- เน้นธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศอินเดีย และมีน้ำหนักการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อโอกาสเพิ่มผลตอบแทนมากขึ้น
- อัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน 47% ของเงินลงทุน
2. TISCOINA-A
ลงทุนในหุ้นอินเดียผ่าน 3 กองทุนหลัก ได้แก่
- Nomura Funds Ireland plc India Equity Fund: ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Management คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up พิจารณาจากพื้นฐานของหุ้นเป็นหลัก ประมาณ 25-30 ตัว จาก Universe ประมาณ 240 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่
- FSSA Indian Subcontinent Fund: ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Management คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up คัดเลือกหุ้นที่ประกอบธุรกิจในอินเดีย, ศรีลังกา, ปากีสถาน และบังคลาเทศ โดยเน้นลงทุนประมาณ 50 ตัว กระจายลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
- Goldman Sachs India Equity Portfolio: ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Management คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up เลือกหุ้นประมาณ 70-100 ตัว จาก Universe ประมาณ 700 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดกลาง–เล็ก
อ่านคำแนะนำ Mr.Messenger Call เพิ่มเติมได้ที่finnomena.com/opportunity-hub/investment-call/mr-messenger/india-apr-2025
.
อ่านคำแนะนำ MEVT Call เพิ่มเติมได้ที่https://www.finnomena.com/opportunity-hub/investment-call/mevt/india-mar-2025
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299