หลังจากกองทุน LTF ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2562 นักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่เคยซื้อไว้ก่อนหน้านั้น เริ่มทยอยครบกำหนดสามารถขายคืนได้แล้วในช่วงปี 2566 – 2568 และในปีภาษี 2568 นี้ ก็มีหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ นั่นคือการ “สับเปลี่ยน” หน่วยลงทุนจาก LTF ไปยังกองทุน Thai ESGX ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะที่ภาครัฐกำหนดไว้ แต่คำถามสำคัญคือ “ควรสับเปลี่ยน LTF มาลงทุนต่อในกองทุน Thai ESGX ดีไหม?”
คำตอบไม่ได้มีแค่ “ดี” หรือ “ไม่ดี” แต่ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและแผนภาษีของคุณในแต่ละปี ดังนั้นก่อนตัดสินใจ เรามาดูกันให้ชัดว่า Thai ESGX คืออะไร ใช้สิทธิลดหย่อนได้อย่างไร และจะตอบโจทย์เป้าหมายของคุณหรือไม่ เพื่อช่วยคุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
ทำความเข้าใจก่อน Thai ESGX คืออะไร?
- กองทุนที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษีเฉพาะปี 2568 สำหรับเงินลงทุนใหม่ (วงเงิน 1) และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF เดิม (วงเงิน 2)
- เปิดเสนอขายเฉพาะวันที่ 2 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2568 สำหรับวงเงิน 1
- เปิดให้สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF เฉพาะวันที่ 13 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2568 สำหรับวงเงิน 2
- มีนโยบายลงทุนหุ้นไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน
- ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี (นับวันชนวัน)
- วงเงินสำหรับผู้ลงทุนที่สับเปลี่ยน LTF มาเข้า Thai ESGX ลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท แบ่งเป็นปีที่ 1 (2568) สูงสุด 300,000 บาท และปีที่ 2-5 ทยอยลดหย่อนจำนวนเท่า ๆ กัน สูงสุดปีละ 50,000 บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ สรุปกองทุน Thai ESGX เงื่อนไขพิเศษ โยก LTF เดิม ลดหย่อนภาษี 5 แสนบาท
ตัวอย่างใช้สิทธิลดหย่อนจากการสับเปลี่ยน LTF ไป Thai ESGX
สมมติ A เป็นผู้มีรายได้เดือนละ 90,000 บาท หรือปีละ 1,080,000 บาท มี LTF ที่ครบกำหนดขายในปี 2568 มูลค่า 500,000 บาท
หมายเหตุ: เงินที่ประหยัดภาษีได้คำนวณจากสมมติฐานรายได้ต่อปีเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นเท่านั้น และหักค่าลดหย่อนส่วนบุคคล 60,000 บาท โดยตัวอย่างดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้น ทั้งนี้จำนวนเงินที่ประหยัดภาษีได้จะขึ้นอยู่กับฐานภาษีและการใช้สิทธิลดหย่อนอื่น ๆ ด้วย
สรุปว่าใครเหมาะสมกับการสับเปลี่ยน LTF มา Thai ESG?
✔️ เหมาะสม ถ้า…
- มี LTF ครบกำหนดขาย และไม่ต้องใช้เงินก้อนนั้นในเร็ว ๆ นี้
- ยังมีวงเงินลดหย่อนภาษีปี 2568 เหลืออยู่ แม้จะใช้สิทธิอื่น ๆ ครบแล้ว
- มีเงิน LTF เดิมเกิน 300,000 บาท ที่สามารถลงทุนต่อเนื่องได้อีก 4 ปีถัดไปตามเงื่อนไข
❌ ไม่เหมาะสม ถ้า…
- มีภาระทางการเงินอื่น ทำให้ไม่สามารถลงทุนต่อเนื่องได้
- ใช้วงเงินลดหย่อนภาษีเต็มเพดานจาก RMF, Thai ESG หรือประกันต่าง ๆ แล้ว
- ไม่สามารถถือหน่วยลงทุนครบ 5 ปีได้ตามเงื่อนไขภาษี
อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน Thai ESGX ไม่ได้ “ทดแทน” LTF ซะทีเดียว แต่เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ภาครัฐเสนอเพื่อส่งเสริมการลงทุนอย่างยั่งยืนและวางแผนภาษีในปี 2568 สำหรับผู้ที่เคยมี LTF มาก่อน หากไม่แน่ใจเรื่องการถือหน่วยลงทุนหรือวงเงินลดหย่อนภาษี ควรปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิในการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุน LTF ไปยังกองทุน Thai ESGX กรุณาติดต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ท่านถือหน่วยลงทุนอยู่
Finnomena Funds คัดกองทุน Thai ESGX ที่เดียวครบจาก 19 บลจ. ชั้นนำ โอกาสการลงทุนครั้งสำคัญ พร้อมลดหย่อนภาษีเฉพาะปี 2568 ลงทุนภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้เท่านั้น
ดูคำแนะนำเพิ่มเติม 👉 https://finno.me/thaiesg-hub-ws
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน Thai ESGX กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299
