
สรุปกลยุทธ์การลงทุนประจำเดือน Finnomena Funds แนะนำ Reiterate Buy เข้าสะสมในสินทรัพย์ที่มีโอกาสฟื้นตัวจากสัญญาณ Trade War ที่มีท่าทีผ่อนคลายสู่ Trade Deal โดยให้น้ำหนัก Positive ต่อหุ้นอินเดีย พร้อมอัปเกรดหุ้นเกาหลีใต้เป็น Slightly Positive
Executive Summary
มุมมองการลงทุนโดยรวม
- Finnomena Funds คงมุมมองแนะนำเข้าซื้อต่อเนื่อง “Reiterate Buy” จากสัญญาณสงครามการค้าที่มีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
- คงมุมมองหุ้นสหรัฐฯ เป็น Slightly Positive หลังตลาดตอบรับเชิงลบต่อนโยบาย Tariff ของ Trump มากเกินไป โดยเรายังคงมองว่า Trump ใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อ “Make Deals” และเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่ Recession แม้จะมีการชะลอตัวในบางส่วน
- ด้านเงินเฟ้อสหรัฐฯ ไม่น่ากังวล เนื่องจากเงินเฟ้อค่าเช่ายังคงลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ประมาณการกำไรตลาดหุ้นเริ่มเห็นการปรับลดของหุ้นขนาดเล็กที่มากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ หลังเศรษฐกิจชะลอตัวกว่าที่คาด
- แนะนำลงทุนในหุ้นคุณภาพขนาดใหญ่ รวมไปถึงกองทุนหุ้นเทคโนโลยีที่สัดส่วนหลักอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่คุณภาพในสหรัฐฯ อย่างกองทุน B-INNOTECH
ตลาดหุ้นยุโรป
- คงมุมมองต่อตลาดหุ้นยุโรปเป็น Slightly Positive แนะนำทยอยสะสม ผ่านกองทุน ONE-EUROEQ
- มองว่าเศรษฐกิจยุโรปได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว
- ปัจจัยกดดันสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน, ภาวะเงินเฟ้อ และนโยบายภาษีของทรัมป์ ได้ถูกสะท้อนอยู่ในตัวเลขเศรษฐกิจและดัชนีตลาดแล้ว
- ในระยะข้างหน้า ยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากการปฏิรูปกฎระเบียบด้านการกู้ยืม (debt break) ของเยอรมนี ประกอบกับการที่หลายประเทศกลับมามีงบดุลที่แข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของ ECB ซึ่งจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม
- อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเจอแรงกดดันเล็กน้อยจากมาตราการกำแพงภาษีของ Trump
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
- คงมุมมองหุ้นญี่ปุ่นเป็น Neutral เน้น Selective Buy ด้วยกลยุทธ์ Stock Selection ผ่านกองทุน ASP-NGF หรือลงทุนผ่านกลยุทธ์ DR หุ้นนอกคุณภาพสูง Definit Global Select
- แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีโอกาสใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้นในอนาคต จากสถานการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นมีโอกาสแคบลงและเงินเยนแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นญุี่ปุ่น
- แต่ทิศทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังฟื้นตัวได้ดีจากนักท่องเที่ยว และดัชนีการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น
- ฝั่งประมาณการกำไรของตลาดหุ้นถูกปรับลงเล็กน้อย หลังสหรัฐฯ ประกาศ Reciprocal Tariff ขณะที่ Valuation สมเหตุสมผล Sentiment ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังได้รับข่าวดีจาก Warren Buffet ซื้อหุ้นและการซื้อหุ้นคืนยังเป็นปัจจัยกระตุ้นต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ตลาดหุ้นจีน
- คงมุมมอง Slightly Positive ต่อหุ้นจีน H-shares และคงมุมมอง Neutral ต่อหุ้นจีน A-shares โดยแนะนำทยอยสะสมกองทุน MEGA10CHINA-A
- เศรษฐิจจีนในไตรมาส 1 ปี 2025 เร่งตัวขึ้นจากภาคการบริโภคในประเทศ และการส่งออกที่ดีขึ้นเนื่องจากการเร่งการซื้อสินค้าของประเทศคู่ค้าก่อนมาตรการ Reciprocal Tariff ของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ ขณะที่ภาครัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบของ Reciprocal Tariff และพร้อมใช้มาตรการกระตุ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
- แต่ปัญหาด้านอสังหาฯ ในประเทศยังใช้เวลากว่าจะฟื้นตัว ทว่าผลกระทบเริ่มอยู่ในระดับจำกัด โดยรัฐบาลทำได้แค่รักษาสเถียรภาพของราคาบ้าน
- ประมาณการกำไรหุ้น H-shares ยังแข็งแกร่งกว่าหุ้น A-shares เนื่องจากมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวด้าน AI และได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นบริโภค
- ด้าน Valuation หุ้นจีน H-shares แพงกว่าอดีต เพราะมีสัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีที่มากขึ้น ขณะที่การเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
ตลาดหุ้นอินเดีย
- คงมุมมอง Positive ต่อหุ้นอินเดีย แนะนำลงทุนกองทุน TISCOINA-A และ B-BHARATA
- ทิศทางเศรษฐกิจอินเดียขยายตัวดีขึ้นทั้งภาคการบริการและภาคการผลิต ขณะที่เงินเฟ้อที่ลดลงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) และค่าเงินรูปีที่แข็งค่า ทำให้ RBI ลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงินของอินเดีย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นต่อการเติบโตของสินเชื่อและผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคาร
- การเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ มีความคืบหน้าเชิงบวก โดยทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคี (Bilateral Trade Agreement – BTA) ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีให้ถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 โดยระยะถัดไปจะมีการหารือเพิ่มเติมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะภาคส่วนของทั้ง 2 ประเทศในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2025
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้
- ปรับเพิ่มมุมมองต่อหุ้นเกาหลีใต้เป็น Slightly Positive จาก Neutral โดยแนะนำทยอยสะสมกองทุน SCBKEQTG และ DAOL-KOREAEQ
- การเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ เฟสแรก มีความคืบหน้า ทั้งสองฝ่ายมุ่งเน้นการจัดทำ July Package คือการบรรลุข้อตกลงเพื่อนำไปสู่การยกเลิกภาษีนำเข้าระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ภายในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 ถือเป็นเป้าหมายเร่งด่วนเพื่อหลีกเลี่ยงการกลับมาใช้มาตรการภาษีที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และจะมีการเจรจาอีกครั้งในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025
ตลาดหุ้นไทย
- คงมุมมอง Slightly Positive ต่อตลาดหุ้นไทย โดยแรงขายในกองทุน LTF เริ่มลดลงหลังจากรัฐบาลออกมาตรการย้าย LTF ไป Thai ESGX
- แม้ประมาณการกำไรตลาดหุ้นไทยยังถูกปรับลดลง แต่ในด้าน Valuation อยู่ในระดับถูกมาก โดย Dividend Yield (12-m forward) ของ SET และ SETHD อยู่ที่ 4.2% และ 5.5% ตามลำดับ
- แนะนำกองทุน TISCOHD-A ซึ่งเน้นลงทุนหุ้นปันผลสูง และแนะนำกลยุทธ์แบบ Selective & Dynamic ในหุ้นที่มีการปรับประมาณการกำไรขึ้นไม่อิงหุ้นดัชนีอย่าง Definit SET Select
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- มีมุมมอง Slightly Positive ต่อหุ้นเวียดนาม และแนะนำทยอยสะสมผ่านกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A และ KKP VGF-UI*
- โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายระยะยาวของรัฐบาลเวียดนามที่มุ่งเป้าผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ การดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ และการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
- นอกจากนี้ รัฐบาลยังแสดงจุดยืนชัดเจนในการผลักดันการอัปเกรดประเทศสู่สถานะ “Emerging Market” ภายในปีนี้
- ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1 ยังคงแข็งแกร่ง แม้ประมาณการกำไรโดยรวมจะถูกปรับลดลงบ้าง แต่ด้วยภาพเศรษฐกิจระยะยาวที่ยังสดใส ประกอบกับระดับ Valuation ที่ยังไม่แพง เราจึงมองว่านี่เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการทยอยสะสม
*ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย กองทุนรวมที่เสนอขายผู้ลงทุนสถานบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน
ดู Fund Fact Sheet กองทุนแนะนำ
- B-INNOTECH
- ONE-EUROEQ
- ASP-NGF
- MEGA10CHINA-A
- TISCOINA-A
- B-BHARATA
- SCBKEQTG
- PRINCIPAL VNEQ-A
- KKP VGF-UI
จัดทำโดยบลป.เดฟินิท (Definit) สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
สามารถเข้าถึงรายละเอียดกองทุนต่าง ๆ และ Fund Fact Sheet ได้จาก Link บนชื่อกองทุน
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299