รีวิวกองทุน KF-US-PLUSRMF

แนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี KF-US-PLUSRMF จาก บลจ.กรุงศรี ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างกับเป้าหมายสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนี S&P500 บนความผันผวนที่ใกล้เคียงกัน ตอบโจทย์เป้าหมายเติบโตระยะยาวไปกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ในระยะนี้มีปัจจัยการลงทุนที่ต้องพิจารณาด้วยอย่างน้อย 3 เรื่อง ประการแรกคือหุ้นโลกยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องจากความคาดหวังที่ว่าเทรนด์เรื่องดอกเบี้ยจะเป็นขาลง สองคือตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังแกร่ง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้แรงหนุนจากการเติบโตของ AI สามคือประเด็นภาษีการค้าซึ่งคลี่คลายลงแล้ว หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเจรจาหาทางออกที่ลงตัวกับหลายประเทศ

แปลว่าแนวโน้มการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดที่มองข้ามไม่ได้ และบทความนี้เราอยากจะพามารู้จักกับกองทุน KF-US-PLUSRMF กองทุนหุ้นสหรัฐฯ F-Pick ประจำปี 2025 ของ Finnomena Funds และยังเป็นทางเลือกน่าสนใจสำหรับคนที่มองหาการลดหย่อนภาษีช่วงปลายปีนี้

เจาะนโยบายการลงทุน KF-US-PLUSRMF

KF-US-PLUSRMF หรือ กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสซีเล็คอิควิตี้พลัสเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ ประเภท Feeder Fund ในกลุ่ม US Equity ที่มีนโยบายการลงทุนผ่านกองทุนหลักคือ JPMorgan Funds – US Select Equity Plus Fund ซึ่งมีการบริหารแบบเชิงรุก (Active Management) 

กองทุนหลักมีกลยุทธ์เด่น ๆ คือการคัดเลือกหุ้นรายตัวแบบ Bottom-Up โดยผสานกับกลยุทธ์ Long-Short เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม ภายใต้ความผันผวนเท่าเดิม

สัดส่วนการลงทุนของ KF-US-PLUSRMF

กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ หลากหลายอุตสาหกรรม ไม่กระจุกตัว โดยในปัจจุบันมีการลงทุนมากสุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และฮาร์ดแวร์ (23.7%) รองลงมาคือสื่อ (15.3%) และอุตสาหกรรมวัฏจักร (10.4%)

อุตสาหกรรมที่ JPMorgan Funds – US Select Equity Plus Fund ลงทุนมากที่สุด
Source: jpmorgan.com as of 31 October 2025

หุ้น 10 อันดับแรกที่ลงทุนคิดเป็นสัดส่วน 46.6% ของพอร์ต ประกอบด้วยกลุ่มบริษัท ดังนี้สินทรัพย์ที่ JPMorgan Funds – US Select Equity Plus Fund ลงทุนมากที่สุด

Source: jpmorgan.com as of 31 October 2025

กลยุทธ์สร้าง Alpha ของ KF-US-PLUSRMF

ท่ามกลางกองทุนสหรัฐฯ จำนวนมากในตลาด สิ่งที่ทำให้ KF-US-PLUSRMF แตกต่างออกไป นั่นคือการใช้กลยุทธ์ Active Long-Short เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) ให้กับ Extension Portfolio

พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ

  1. Core Portfolio (Long เท่านั้น 100%) เป็นพอร์ตหลักสำหรับการลงทุนระยะยาวในหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวก
  2. Extension Portfolio (Long +30% และ Short -30%) เป็นพอร์ตสำหรับสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) ระหว่างทาง ด้วยการ ขาย short หุ้นที่มีมุมมองเชิงลบ เพื่อนำเงินที่ได้ไป ลงทุน (Long) ในหุ้นที่มีมุมมองเชิงบวกในอุตสาหกรรมเดียวกันเพิ่มเติม

 

กลยุทธ์นี้ทำให้พอร์ตการลงทุนรวมมี Net market exposure อยู่ที่ 100% (เสมือนลงทุน Long ธรรมดา) แต่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม เนื่องจากสามารถทำกำไรได้ทั้งจากหุ้นที่ปรับตัวขึ้น (Long) และหุ้นที่ปรับตัวลง (Short)

กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหลัก

กลยุทํ์กองทุน KF-US-PLUSRMF

ทั้งนี้ กองทุนมีการระบุสัดส่วนการลงทุนของแต่ละพอร์ตเอาไว้ชัดเจน คือ  

  • Long position 100% – 140%
  • Short position 0% – 40%
  • สัดส่วนเป้าหมาย 100% (130% Long และ 30% Short)

ควานหาผู้ชนะด้วยการลงทุนแบบ Research-Driven

อีกหนึ่งไม้เด็ดคือการคัดหุ้นรายตัวแบบ Bottom-Up ด้วยฝีมือของทีมงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะในแต่ละอุตสาหกรรม โดยอาศัยการวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัทต่าง ๆ รวมถึงการประเมินรายได้และกระแสเงินสดในอนาคต (Source: Factsheet JPMorgan Funds – US Select Equity Plus Fund)

พอร์ตกองทุน KF-US-PLUSRMF

การเลือกหุ้นแบบนี้ทำให้กองทุนมีคาแรคเตอร์ที่ต่างออกไปจากดัชนีชี้วัดอย่าง S&P 500 เช่น การให้น้ำหนัก Overweights หุ้น Howmet Aerospace ผู้ผลิตชิ้นส่วนโลหะและอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ และหุ้น Mastercard

รวมถึงการ Underweights หุ้น Berkshire Hathaway, Tesla, JPMorgan Chase & Co และ Visa เป็นต้น 

สรุปจุดเด่นกองทุน

KF-US-PLUSRMF เป็นกองทุน RMF สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ระยะยาว ที่มีจุดเด่นดังนี้

  1. ใช้กลยุทธ์ Long-Short ช่วยเพิ่มผลตอบแทนส่วนเพิ่ม บนความผันผวนที่ใกล้เคียงกับดัชนี S&P500
  2. เน้นการวิเคราะห์แบบ Bottom-Up ในหุ้นรายตัว 80% Top-Down ประมาณ 20%
  3. ลงทุน Long 100% + 30% ในหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวก และ Short -30% ในหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงลบ โดยเน้นการทำ Pair Trade สร้างคู่ Long และ Short ในหุ้นภายในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ทำให้ค่า Beta ไม่สูงเมื่อเทียบกับดัชนี แต่ยังสร้าง Alpha ได้ดี

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ: 6
  • นโยบายปันผล: ไม่มี
  • กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป: 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 1.2840% ต่อปี
  • สนใจซื้อกองทุนคลิก www.finnomena.com/fund/KF-US-PLUSRMF 

 

โปรโมชัน

รับเพิ่มหน่วยลงทุน KFCASH-A มูลค่า 100 บาท ต่อยอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 50,000 บาท เมื่อลงทุนตามเงื่อนไขในกองทุน RMF และ Thai ESG ของ บลจ.กรุงศรี ที่ร่วมรายการ ดูข้อมูลกองทุน/โปรโมชัน คลิก https://bit.ly/483D5NC

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ www.finnomena.com/fund


ที่มา

– หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสซีเล็คอิควิตี้พลัสเพื่อการเลี้ยงชีพ as of Oct 2025

– JPMorgan Funds – US Select Equity Plus Fund Factsheet as of Oct 2025

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | บางกองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort”

Tax Cal