อัปเดตคำแนะนำการลงทุน Finnomena Funds (8 เมษายน 2025) หลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้

อัปเดตคำแนะนำการลงทุนจาก Finnomena Funds (8 เมษายน 2025) หลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ครั้งประวัติศาสตร์ ทำตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน นักลงทุนควรรับมืออย่างไรดี?

ภาษีตอบโต้ ส่งผลกระทบต่อโลกการลงทุนยังไง


สิ่งที่เกิดขึ้น

  • หลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศเก็บภาษีตอบโต้ในวันที่ 2 เมษายน 2025 แต่ละประเทศมีการดำเนินนโยบายเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าวแตกต่างกันไป
  • จีน ประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ 34% ในกลุ่มสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ และประกาศจำกัดปริมาณการส่งออกแร่ธาตุหายาก (Rare Earths) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • ทรัมป์ ประกาศในช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาไทย ให้เวลาจีน 1 วันเพื่อพิจารณานโยบายดังกล่าว มิเช่นนั้นจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าอีก 50% เพื่อตอบโต้มาตรการจากจีน
  • ล่าสุดในช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้าตามเวลาไทย ตัวแทนจาก China’s Ministry of Commerce ให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าว AFP ว่าไม่ยอมรับการกระทำดังกล่าว และประกาศว่าจะเพิ่มมาตรการตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
  • นายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น เตรียมเดินทางไปสหรัฐฯ เร็ว ๆ นี้ เพื่อหารือประเด็นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออก
  • สหภาพยุโรป เริ่มต้นเจรจา Zero-to-Zero Tariff สำหรับสินค้ากลุ่มยานยนต์ เครื่องจักรหนัก และยารักษาโรค โดยพร้อมเปิดโต๊ะเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ และพร้อมออกมาตรการตอบโต้ ถ้าหากสหรัฐฯ ไม่ให้ความร่วมมือในความพยายามเจรจาดังกล่าว
  • ไต้หวัน ยื่นข้อเสนอลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 0% และให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ
  • เวียดนาม ยื่นข้อเสนอลดภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เหลือ 0% และพร้อมที่จะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ให้มากขึ้น
  • ทรัมป์ขยายเวลาดีล Tiktok โดยเปิดให้บริการในประเทศได้อีก 75 วันเพื่อเลี่ยงต่อการสั่งแบน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัท ByteDance กำลังอยู่ระหว่างเจรจาข้อตกลงการขายกิจการ TikTok ให้แก่ผู้ลงทุนสหรัฐฯ

ความเห็นของ Finnomena Funds

  • เรายังคงเชื่อว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของทรัมป์มีเป้าหมายเพื่อการ “เจรจา (make deal)” กับประเทศที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐฯ มากกว่าการเก็บภาษีจริง ซึ่งสะท้อนจากอัตราภาษีที่ประกาศไม่ได้คำนวณจากกำแพงภาษีที่แต่ละประเทศมีต่อสหรัฐฯ แต่สูตรคำนวณสร้างมาจากขนาดของการ “ขาดดุลการค้า” ที่สหรัฐฯ มีต่อนานาประเทศ โดยยิ่งขาดดุลมาก ก็ยิ่งเก็บมาก
  • แม้จีนจะขึ้นภาษีตอบโต้ แต่ยังเปิดท่าทีพร้อมเจรจา โดยนาย หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนเน้นย้ำให้ประเทศต่าง ๆ ปกป้องระบบการค้าระหว่างประเทศตามค่านิยมของ UN และ WTO
  • คู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น มีท่าทีพร้อมเปิดโต๊ะเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ถึงแนวทางการลดตัวเลขภาษีนำเข้า ถึงแม้สภาพยุโรปจะมีการหารือกันถึงเรื่องมาตรการตอบโต้ แต่คาดว่ามาตรการดังกล่าวมีสถานะเป็นเพียงแผนสำรองถ้าหากการเจรจากับสหรัฐฯ ล้มเหลว
  • คะแนนนิยมของทรัมป์ (จาก Reuters/Ipsos poll) ล่าสุดอยู่ที่ 43% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง เนื่องจากประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษีนำเข้า และปัจจัยด้านความมั่นคงของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งถ้าหากทรัมป์ยังคงเร่งเพิ่มตัวเลขอัตราภาษีนำเข้า อาจทำให้คะแนนนิยมของตัวเองลดลงต่ำกว่านี้อีก

แนะนำกลยุทธ์การลงทุน

  • หลังจากที่เราแนะนำ Wait and See เพื่อเตรียมทยอยสะสมสินทรัพย์เสี่ยง ในวันที่ 3 เมษายน 2025 โดยปัจจุบันเรายังคงคำแนะนำดังกล่าว แต่ใกล้ถึงจังหวะทยอยสะสมหลังเห็นท่าทีประเทศคู่ค้าอย่างหลัก ๆ อย่างสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศอื่น ๆ พร้อมเดินหน้าเจรจา
  • แนะนำให้เตรียมสภาพคล่องเพื่อเตรียมสะสมลงทุน ซึ่งในมุมมองกรณีฐานของเราเชื่อว่าจะมีการเจรจาต่อเนื่องหลังจากนี้ และหากเป็นเช่นนั้นจะพิจารณาแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป
  • ความเสี่ยงหลักยังอยู่ แต่ทีท่าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งหากไม่ยกระดับมาตรการตอบโต้ จะเป็นอีกสัญญาณที่ดีให้เริ่มกลับเข้าไปลงทุนอีกครั้ง

คำเตือน: เอกสารฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์ซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จํากัด และ/หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้  จัดทําโดยอาศัยข้อมูลที่จัดหามาจากแหล่งที่เชื่อหรือควรเชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือและ/หรือถูกต้อง อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ยืนยัน และไม่รับรองถึงความครบถ้วนสมบูรณ์หรือถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว  และไม่ได้ประกันราคาหรือผลตอบแทนของหน่วยลงทุนที่ปรากฏข้างต้น แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏข้อความที่อาจเป็น หรืออาจตีความว่าเป็นเช่นนั้นได้  บริษัทจึงไม่รับผิดชอบต่อการนําเอาข้อมูล ข้อความ ความเห็น และหรือบทสรุปที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ บริษัทรวมทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้อง  ลูกค้า ผู้บริหาร  และพนักงานของบริษัทต่าง ๆ  อาจจะทําการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อ  หรือขายหลักทรัพย์ที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ได้ทุกเวลา ข้อมูล และความเห็นที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ มิได้ประสงค์จะชี้ชวน เสนอแนะ หรือจูงใจให้ตัดสินใจลงทุน หรือซื้อ หรือขายหน่วยลงทุนที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้  และข้อมูลอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้ลงทุนควรใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อหรือขายหลักทรัพย์ บริษัทสงวนลิขสิทธิ์ในข้อมูลที่ปรากฎในเอกสารนี้ ห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์  ทําซ้ำ  ดัดแปลง  นําออกแสดง  ทําให้ปรากฏหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ซึ่งข้อมูลในเอกสารนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากบริษัท เป็นการล่วงหน้า  การกล่าวคัด หรืออ้างอิงข้อมูลบางส่วนตามสมควรในเอกสารนี้  ไม่ว่าในบทความ บทวิเคราะห์ บทวิจัย  หรือในเอกสาร หรือการสื่อสารอื่นใดจะต้องกระทําโดยถูกต้อง และไม่เป็นการก่อให้เกิดการเข้าใจผิดหรือความเสียหายแก่บริษัท  ต้องรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในข้อมูลของบริษัท และต้องอ้างอิงถึงฉบับที่และวันที่ในเอกสารฉบับนี้ของบริษัทโดยชัดแจ้งการตัดสินใจลงทุน หรือซื้อ  หรือขายหน่วยลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ท่านควรทําความเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อลักษณะของหน่วยลงทุนแต่ละประเภท และควรศึกษาข้อมูลของบริษัทที่ออกหน่วยลงทุนและข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อหรือขายหน่วยลงทุน

Wealth Health Check