กำแพงหนี้สหรัฐฯ

จุดเสี่ยงหนี้สาธารณะสหรัฐอเมริกา $36 ล้านล้าน คิดเป็น 122% ของ GDP และกว่า 1 ใน 3 จะครบกำหนดปีนี้ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงก่อหนี้เพิ่ม $1 ล้านล้านในทุกไตรมาส จนใกล้ชนเพดานหนี้ (X-Date) ในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นจุดสำคัญที่ดัน Bond Yield ยืนสูง !! โอกาสหรือความเสี่ยง กองทุนตราสารหนี้โลก

1.) ปัจจุบันสหรัฐอเมริกา มีหนี้สาธารณะสูง 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 122% ของ GDP ถือเป็นประเทศที่มีมูลค่าหนี้สาธารณะมากที่สุดในโลก

2.) เกือบ 1 ใน 3 หรือประมาณ 9.2 ล้านล้านดอลลาร์ จะครบกำหนดในปี 2025 นี้ แต่เราพบว่าตั้งแต่ต้นปี 2023 ถึงกลางปี 2025 หนี้สาธารณะสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1 ล้านล้านดอลลาร์ในทุกไตรมาส

3.) Scott Bessent รมว.คลัง สหรัฐฯ ประเมินว่า X-Date วันที่รัฐบาลจะไม่มีเงินสดพอใช้จ่ายหนี้และ และไม่สามารถกู้เพิ่มได้เพราะชนเพดานหนี้แล้ว จะอยู่ที่ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ หากยังไม่มีการขยายเพดานหนี้ (Debt Ceiling)

4.) ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ เกิดแรงกดดันต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ให้พุ่งสูงขึ้น นักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่มากขึ้นเพื่อแลกกับการถือครองหนี้ระดับนี้ ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐฯ สูงขึ้น

5.) Bond Yield สหรัฐฯ กลับไปเคียงกับระดับปี 2006-2007 สะท้อนความกังวลของนักลงทุน

6.) ประเด็นมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ ที่อาจเป็นจุดวิกฤตการเงิน แต่ก็เป็นจังหวะล็อกผลตอบแทนระยะยาวจาก Yield ที่สูง

7.) ตลาดอาจ Panic ระยะสั้น ถ้าเข้าใกล้ X-Date แต่อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้จริง และสามารถขยายเพดานหนี้ไปได้ตลอด

8.) การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้โลกอายุยาว ถือเป็นจังหวะเก็บของถูก พร้อมสร้างผลตอบแทนที่ดีหลังปัญหาคลี่คลาย และยังเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว

9.) Fed มีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ย พันธบัตรระยะยาวจะได้รับอานิสงส์ จาก Bond Yield ที่ลดลง และราคาตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้นด้วย

10.) แนะนำกองทุน KT-BOND ตราสารหนี้โลกอายุยาว ประมาณ 7 ปี ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Global Bond Fund อ้างอิงดัชนี Bloomberg Global Aggregate (USD Hedged) Index ซึ่งปัจจุบันกองทุนหลักมีตัวเลข Yield to Maturity คาดการณ์ที่ 6.46%

FundTalk Contrarian Call แนะนำซื้อ KT-BOND

FundTalk Contrarian Call แนะนำซื้อ KT-BOND กองทุนตราสารหนี้โลกอายุยาว ซึ่งมีความน่าสนใจจากการที่ Bond Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นทางเลือกในการป้องกันความผันผวน จากประเด็นเรื่องความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีทรัมป์ และมีปัจจัยหนุนจากการทยอยลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก

อ่านเพิ่มเติม คลิกเลย


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by Krungsri ติดต่อทีม Kept Help Center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

ThaiESGX