ThaiESG คืออะไร

ทำความรู้จักกับกองทุนลดหย่อนภาษีรูปแบบใหม่ ‘กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน’ หรือ Thailand ESG Fund: Thai ESG (TESG) มีเงื่อนไขอย่างไร ซื้อได้เท่าไหร่ ลดหย่อนปีไหน เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุน SSF และ RMF อะไรดีกว่ากัน แล้วใครกันที่เหมาะกับการลงทุนใน Thai ESG

FINNOMENA FUNDS สรุปทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับกองทุน Thai ESG มาให้แล้วในบทความนี้ ไปดูกันเลย

Highlight


ThaiESG คืออะไร

รับบริการผู้แนะนำการลงทุนกองภาษีส่วนตัวจาก FINNOMENA FUNDS ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
👉 ลงทะเบียน คลิก https://finno.me/taxplanner-services


กองทุน Thai ESG คืออะไร? สรุปให้แบบชัด ๆ

Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งมีสิทธิพิเศษให้ผู้ลงทุนสามารถนำจำนวนเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเหมือนกับการลงทุนใน RMF, SSF, SSFX หรือ LTF ที่ออกมาก่อนหน้านี้

กองทุน Thai ESG ลงทุนในอะไรบ้าง?

นโยบายการลงทุนของ Thai ESG กำหนดให้สามารถลงทุนในหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย ที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืน ตามหลัก ESG ซึ่งประกอบด้วยมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) ​และบรรษัทภิบาล (Governance) อาทิ หุ้นไทยยั่งยืน SET ESG Ratings หรือตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน ESG Bond 

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้มีการจัดทำดัชนีหุ้นยั่งยืนที่เรียกว่า SET ESG Ratings สำหรับประเมินผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียนไทย ล่าสุดในปี 2023 มีบริษัทที่ผ่านการคัดเลือก 193 บริษัท แบ่งเป็น 

  • บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับ AAA มีจำนวนทั้งสิ้น 34 บริษัท
  • บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับ AA มีจำนวนทั้งสิ้น 70 บริษัท
  • บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับ A มีจำนวนทั้งสิ้น 64 บริษัท
  • บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับ BBB มีจำนวนทั้งสิ้น 25 บริษัท

ดูรายชื่อหุ้นยั่งยืน คลิก

ขณะที่ ESG Bond มีรูปแบบคล้ายกับตราสารหนี้ปกติทั่วไป ต่างกันที่วัตถุประสงค์ของการระดมทุนที่ต้องการนำเงินไปใช้เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายใต้แนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งตอบโจทย์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) สังคม (Social Bond) และความยั่งยืน (Sustainability Bond)

ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ มีเงื่อนไขอะไรบ้าง

กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ

วงเงินลงทุนของ Thai ESG จะไม่ถูกนับรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่ปัจจุบันกำหนดเพดานลดหย่อนภาษีรวมกันได้ไม่เกิน 500,000 บาท

เท่ากับว่าเราจะได้วงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมจาก Thai ESG ไปเลย 100,000 บาท และเมื่อนับรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ก็จะลดหย่อนได้สูงสุดถึง 600,000 บาท

ระยะเวลาการลงทุน Thai ESG ต้องถือลงทุนเป็นเวลา 8 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน ไม่ใช่นับแบบปีปฏิทิน) ซื้อปีไหน ลดหย่อนปีนั้น และไม่บังคับว่าต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

เช่น ถ้าซื้อ ThaiESG ในวันที่ 25 ธันวาคม 2023 วันที่ครบกำหนด 8 ปี คือวันที่ 25 ธันวาคม 2031  แปลว่าเราจะขายกองทุนโดยไม่ผิดเงื่อนไขได้ในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 26 ธันวาคม 2031 

– คลิกอ่านบทความ 👉 ซื้อกองทุน ThaiESG เท่าไหร่ดี? ให้ประหยัดภาษีคุ้มสุด

กองทุน Thai ESG-SSF-RMF เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

ความเหมือนของ Thai ESG กับ SSF และ RMF ถือเป็นกองทุนรวมลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน แต่มีจุดที่แตกต่างกันหลัก ๆ ดังนี้

1.) ระยะเวลาการลงทุน

Thai ESG: ถือลงทุน 8 ปีนับจากวันที่ซื้อ ไม่บังคับซื้อทุกปี

SSF: ถือลงทุน 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ ไม่บังคับซื้อทุกปี

RMF: ต้องถือจนถึงอายุ 55 ปี และครบ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีหรือปีเว้นปี

2.) สินทรัพย์ที่ลงทุนได้

Thai ESG: หุ้นไทยและตราสารหนี้ไทยที่เข้าหลักเกณฑ์ ESG

SSF กับ RMF: ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

3.) สิทธิประโยชน์ทางภาษี

Thai ESG: ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 100,000 บาท 

SSF: ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

RMF: ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ

กองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร เป้าหมายการลงทุนแบบไหนต้องซื้อ

  • คุณมีเป้าหมายการลงทุนให้เงินเติบโตในระยะยาว 
  • มองเห็นโอกาสเติบโตในหุ้นยั่งยืน และธุรกิจที่ดำเนินงานตามหลัก ESG ในประเทศไทย
  • ต้องการลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุน แต่ไม่อยากซื้อ RMF เพราะใช้เวลานานกว่าจะขายได้ สำหรับคนที่อายุน้อยกว่า 45 ปี และไม่อยากซื้อ SSF เพราะต้องใช้เวลาถือถึง 10 ปี
  • ต้องการวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม ซึ่งที่มีอยู่เดิมยังไม่หนำใจ เนื่องจากเป็นคนที่ฐานภาษีสูง เช่น 20% ขึ้นไป หรือลดหย่อนภาษีจากการซื้อ SSF และ RMF จนเต็มสิทธิ์แล้ว

– คลิกอ่านบทความ 👉  กองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG เหมาะกับใคร คนแบบไหนที่ควรซื้อ

กองทุนลดหย่อนภาษีปีนี้ มาซื้อที่ฟินโนมีนา ฟันด์ เปิดบัญชีที่เดียว ซื้อ Thai ESG-SSF-RMF ได้หลากหลาย บลจ. พร้อมโปรโมชันพิเศษ

ดูรายละเอียดได้ที่ https://finno.me/tsf-23-ws

เช็กรายชื่อกองทุน Thai ESG ซื้อกองไหนดี มีแบบไหนให้เลือกบ้าง

เราได้สรุปข้อมูลกองทุน Thai ESG ที่จะเสนอขาย IPO ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2023 นี้ มาฝากเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยมีทั้งหมด 30 กองทุน จาก 16 บลจ. ในประเทศไทย ดังนี้

สรุป ThaiESG

ปัจจุบันที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จัดตั้งกองทุน Thai ESG แล้ว โดยให้มีผลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2032 เพื่อสนับสนุนการออมระยะยาวในตลาดทุนไทย โดยเราจะสามารถเริ่มซื้อกองทุน Thai ESG ได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ สำหรับใช้ลดหย่อนภาษีงวดประจำปี 2023 ที่จะใช้ยื่นภาษีระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2024

นักลงทุนจะสามารถซื้อ Thai ESG ทุกกองทุนในประเทศไทย ผ่าน FINNOMENA FUNDS ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Thai ESG Hub ศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ Thai ESG ซื้อจบได้ที่นี่ คลิกเลย 👉https://finno.me/thaiesg-hub-ws


คำเตือน

  • ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF RMF และ Thai ESG กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน
  • การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน
  • กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”