10 บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก

วิดีโอเกม คือตลาดหนึ่งในอุตสาหกรรมบันเทิงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งจากโควิดที่ทำให้ชีวิตเราย้ายไปอยู่บนโลกเสมือนมากขึ้น ทัศนคติยุคใหม่ที่มองเกมไปมากกว่าเกม (นึกภาพ esport) จนถึงการเข้ามาของบริษัทเกมสัญชาติจีนที่เติบโตมหาศาลจนเบียดบริษัทหน้าเก่าตกบัลลังก์โดยเน้นไปที่เกมมือถือเป็นหลัก

ตัวเลขล่าสุดบอกเราว่า อุตสาหกรรมเกมจะสามารถสร้างรายได้รวมกันประมาณ 3.65 แสนล้านเหรียญภายในสิ้นปี 2023 อ้างอิงจาก Statista เว็บไซต์วิจัยข้อมูลตลาดและผู้บริโภค พูดให้เข้าใจง่ายๆ วิดีโอเกมมีขนาดอุตสาหกรรมใหญ่พอๆ กับอุตสาหกรรมสินค้าหรู (3.5 แสนล้านเหรียญ)

เมื่อเห็นข้อมูลแบบนี้แล้ว ก็น่าสนใจไม่น้อยที่จะเข้าไปดูว่าในจักรวาลแห่งเกมจะมีใครและมาจากประเทศไหนกันบ้าง เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้ว เราไปรู้จักกับ 10 บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันเลย!

เรื่องเล่าของ 3 เจ้าตลาด จาก 3 ประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจ

ลองมาดูภาพคร่าวๆ กันก่อน บริษัทวิดีโอเกมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกมีจำนวนมากกว่า 200 บริษัทและมีมูลค่าตามราคาตลาดรวมกันกว่า 3 ล้านล้านเหรียญ แต่ถ้าลองเจาะไปดูชัดๆ มูลค่าตลาดเกือบ 2 ใน 3 (63%) มาจากบริษัทแค่เจ้าเดียว นั้นคือ Microsoft ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก

ถ้าจะบอกว่าเรื่องราวของบริษัทเกม Top 3 นั้นไปละม้ายคล้ายกับความเป็นไปทางเศรษฐกิจของโลกก็คงจะไม่เกินเลยไปนัก เพราะเกือบ 78% ของมูลค่าตลาดทั้งหมดในอุตสาหกรรม มาจากบริษัทแค่ 2 เจ้า โดยเจ้าหนึ่งเป็นของสหรัฐฯ และอีกรายนั้นมาจากจีน

Microsoft บริษัทเทคสัญชาติสหรัฐฯ สามารถครอบครองตลาดเอาไว้ได้แบบลอยลำ แต่ก็ต้องเจอบริษัทเทคโนโลยีจากจีนอย่าง Tencent เติบโตขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของตลาดเกมอย่างก้าวกระโดด และท้าทายสถานะนำ

นอกจากนี้ บริษัทจากจีนสามารถแซงหน้า Sony บริษัทจากญี่ปุ่น (ซึ่งครั้งหนึ่ง ญี่ปุ่นเคยถูกเรียกขานว่าเป็นประเทศมหาอำนาจเบอร์ 2 อย่างไร้ข้อกังขา) เรื่องราวทั้งหมดนี้แทบจะไม่ต่างไปจากภาพการขับเคี่ยวกันทางเศรษฐกิจระหว่างของแต่ละขั้วอำนาจในโลกในช่วง 5-10 ที่ผ่านมาเลย

ทีนี้เราลองมาทำความรู้จักกับบริษัททั้ง 3 กันให้มากขึ้น

10 บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อันดับ 1: Microsoft

  • จดทะเบียนในตลาด NASDAQ ชื่อย่อหลักทรัพย์ MSFT
  • มูลค่าตลาด 1.9 ล้านล้านเหรียญ (63% ของมูลค่าตลาดทั้งอุตสาหกรรม)
  • ตัวอย่างผลิตภัณฑ์: เกม Halo Infinite, เกม Forza Horizon 5, เกม Minecraft และเครื่องเล่นเกมตระกูล Xbox

อันดับ 2: Tencent 

  • เทรดแบบ OTC ในสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ TCEHY
  • มูลค่าตลาด 4.61 แสนล้านเหรียญ (15% ของมูลค่าตลาดทั้งอุตสาหกรรม)
  • ตัวอย่างผลิตภัณฑ์: เกม LOL, เกม PUBG Mobile, เกม RoV (นอกภูมิภาค SEA)

อันดับ 3: Sony 

  • จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ชื่อย่อหลักทรัพย์ SONY
  • มูลค่าตลาด 1.15  แสนล้านเหรียญ (4% ของมูลค่าตลาดทั้งอุตสาหกรรม)
  • ตัวอย่างผลิตภัณฑ์: เกม God of War Ragnorok, เกม Horizon forbidden west, เกม Uncharted, และเครื่องเล่นเกมในตระกูล Play Station

นอกจาก 3 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ค่ายที่ใหญ่รองลงมาก็คือบริษัทชื่อคุ้นหูที่ครองใจเกมเมอร์หลายๆ คน เช่น

อันดับ 6: Nintendo

  • จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ชื่อย่อหลักทรัพย์ 7974.T
  • มูลค่าตลาด 5.1  หมื่นล้านเหรียญ (1.7% ของมูลค่าตลาดทั้งอุตสาหกรรม)
  • ตัวอย่างผลิตภัณฑ์: เกม Mario Kart 8, เกม Zelda, เกม Pokemon, และเครื่องเล่นเกมในตระกูล Nintendo

อันดับ 7: Sea (Garena)

  • จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ชื่อย่อหลักทรัพย์ SE
  • มูลค่าตลาด 3.95  หมื่นล้านเหรียญ (1.3% ของมูลค่าตลาดทั้งอุตสาหกรรม)
  • ตัวอย่างผลิตภัณฑ์: เกม RoV (ในแถบ SEA), เกม Free Fire และเกม Call of Duty Mobile

อันดับ 8: EA

  • จดทะเบียนในตลาด NASDAQ ชื่อย่อหลักทรัพย์ EA
  • มูลค่าตลาด 3.15  หมื่นล้านเหรียญ (1% ของมูลค่าตลาดทั้งอุตสาหกรรม)
  • ตัวอย่างผลิตภัณฑ์: เกม FIFA 23, เกม The SIms 4 และเกม APEX Legends

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทเกมอื่นๆ อีก เช่น

  • อันดับ 4 NetEase (NASDAQ: NTES) จากจีน ตัวอย่างเกม เช่น Identity V, Marvel Super War และ Knives Out
  • อันดับ 5 Activision Blizzard (NASDAQ: ATVI) จากสหรัฐฯ ตัวอย่างเกมเช่น World of Warcraft, Diablo Immortal และ Overwatch 2
  • อันดับ 9 Roblox (NYSE: RBLX) จากสหรัฐฯ
  • อันดับ 10 Nexon (TSE: 3659.T) จากญี่ปุ่น ตัวอย่างเกมเช่น Kart Rider, MapleStory และ Blue Archive

*อ้างอิงข้อมูลเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566

หมายเหตุ : บทความนี้ใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้เจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน

ที่มา

FinSpace

ที่มาบทความ: https://www.finspace.co/get-to-know-10-biggest-video-game-stocks/

iran-israel-war