หากมือหนึ่งของโลกด้านการลงทุนในตลาดหุ้นคือ Warren Buffet มือหนึ่งของโลกด้านตลาดตราสารหนี้ย่อมเป็น Bill Gross ผู้ซึ่งการันตีคุณภาพด้วยรางวัล “ผู้จัดการกองทุนแห่งทศวรรษ” โดย Morning Star และฉายา “The Bond King” ที่ตั้งโดยนิตยสาร Fortune Magazine [ อ่านบทความ The Bond King ได้ที่ http://bit.ly/BillGross ]

clip_image002

PIMCO คือบริษัทจัดการกองทุนตราสารหนี้ที่ Bill Gross สร้างขึ้นมาในช่วงประมาณปี 1971 ซึ่งปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร ณ สิ้นปี 2009 สูงถึง 1.4 ล้านล้านเหรียญ หรือ 42.7 ล้านล้านบาท ใหญ่กว่า GDP ประเทศไทยถึงประมาณ 4 เท่า ซึ่งนับเป็น Fund House ด้านตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหนึ่งในกองทุนที่ PIMCO ทำการบริหารอยู่มีชื่อว่า “PIMCO Total Return Bond Fund” นับเป็นกองทุนรวมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดใหญ่ถึง 2.34 แสนล้านเหรียญ หรือกว่า 7 ล้านล้านบาท [ก.ค. 53]

นโยบายของกองทุนเปิด PIMCO Total Return Bond Fund เน้นลงทุนในตลาดตราสารหนี้สกุลดอลลาร์ พอร์ตปัจจุบันส่วนใหญ่ลงในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยมี Ratings เฉลี่ยของพอร์ตที่ AA ซึ่งถือว่าเป็นคุณภาพที่สูงทีเดียว [เมื่อเทียบกับ International Ratings ของประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ระดับ BBB+] ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่เป้าหมายของกองทุนที่พยายาม Maximize Return ขณะที่พยายามรักษาเงินลงทุน และสร้างความสม่ำเสมอของผลตอบแทนสำหรับการลงทุนระยะยาว สำหรับกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จของกองทุนนี้อยู่ที่แนวทางการบริหารแบบ Total Return Approach โดยใช้วิธีการ Sector Rotation [ http://bit.ly/sector-rotation ] ซึ่งเป็นกระบวนการในการปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับแต่ละวัฏจักรเศรษฐกิจ ซึ่งผลลัพธ์คือผลตอบแทนของพอร์ตสามารถรักษาความสม่ำเสมอได้ทั้งในวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น และขาลงเป็นอย่างดี

clip_image002

แหล่งข้อมูล : 1) PIMCO ข้อมูล ณ 31/7/2010. ผลการดำเนินงานแสดงในสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ของกองทุน PIMCO Total Return Bond Fund, Class A ที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา 2) ผลการดำเนินงานนี้คำนวณจากราคาหน่วยลงทุนโดยนำการอัตราการจ่ายเงินปันผลรวมในการคำนวณด้วย 3) Benchmark คือ ดัชนี Barclays Capital US Aggregate Indexคำเตือน : ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

สำหรับผลตอบแทนในอดีตที่ผ่านมาจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีมากเมื่อเทียบกับความเสี่ยง โดยผลการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา 23 ปีนับแต่จัดตั้งกองทุน PIMCO Total Return Bond Fund ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.68% ต่อปี (คำนวณถึง ก.ค. 53) และจากการวิเคราะห์การถือครองกองทุน 1 ปี พบว่า ปีที่ดีที่สุดกองทุนเคยทำผลตอบแทนได้ 19% ขณะที่ปีที่แย่ที่สุดเคย -4% (แต่ก็ฟื้นตัวได้เร็วในปีถัดมา)

กองทุนเปิด KRUNGSRI Total Return Bond Fund [KF-TRB] ซึ่งกำลังทำการ IPO อยู่ในช่วงวันที่ 1 – 13 ต.ค. 53 มีนโยบายที่จะนำเงินไปลงทุนใน PIMCO Total Return Bond Fund และ Fund Manager ที่เมืองไทยมีนโยบายที่จะทำการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน เพื่อให้ผลตอบแทนที่นักลงทุนอเมริกาได้รับเป็นสกุล USD อย่างไร นักลงทุนไทยก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นสกุล THB ในระดับที่ใกล้เคียงกัน เรียกได้ว่าตัดประเด็นเรื่องบาทแข็ง [หรือบาทอ่อน] ออกไปเลย ในเรื่องของสภาพคล่อง กองทุนนี้แม้จะเหมาะสำหรับการลงทุน 1 ปีขึ้นไป แต่กองทุนจะเปิดให้ซื้อขายได้ทุกวันทำการ (จะมีปิดซื้อขายตามวันหยุดของสิงค์โปร์, ไอร์แลนด์, อเมริกา และมีปฏิทินให้บนเวบไซต์ www.ayfunds.com

KF-TRB เหมาะกับผู้ที่ฝากเงินไว้ในธนาคาร หรือลงทุนกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ เช่น กอง Money Market, กองเกาหลี ที่ปัจจุบันได้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ และอยากจะหาการลงทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนดีขึ้น และเนื่องจากเป็นกองทุนตราสารหนี้คุณภาพสูง ความผันผวนของกองทุนอยู่ระดับต่ำถึงปานกลาง และมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน กองทุนนี้จึงสามารถแบ่งเงินมาลงทุนได้ในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง หากเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตราสารทุน

ติดตามความรู้เรื่องการลงทุน และการวิเคราะห์เศรษฐกิจโดยเหล่า Investment Guru ได้ที่ http://FundManagerTalk.com , http://Facebook.com/FundManagerTalk , http://Twitter.com/FundTalk

สำหรับวันนี้… สวัสดีครับ