Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 DeepSeek จุดไฟการแข่งขัน

มุมมองการลงทุน

ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง ปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาด และการประกาศนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่เน้นการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐและสนับสนุนการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี  นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้มีท่าทีใช้นโยบายที่แข็งกร้าวอย่างที่ได้หาเสียงไว้ เช่น มีท่าทีประนีประนอมทางการค้ากับจีนมากขึ้น เปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆมีการเจรจาต่อรองทางการค้ามากขึ้น เป็นต้น  ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงเติบโตได้ดี และอาจมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ  อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อของสหรัฐอาจเร่งตัวขึ้นจากการที่เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น และเฟดอาจลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด แต่ก็ไม่น่าส่งผลลบต่อบรรยากาศการลงทุนมากนัก เพราะผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น และสถานการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถเติบโตได้แข็งแกร่งภายใต้ภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง

สำหรับตลาดหุ้นอินเดียในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลงมาก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจอินเดียอาจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ

ในช่วงปลายเดือนมกราคม ตลาดหุ้นสหรัฐและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงแรง หลังบริษัท DeepSeek ของจีนเผยโปรแกรม AI ใหม่ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโปรแกรม AI ชั้นนำของสหรัฐ แต่มีต้นทุนต่ำกว่าและสามารถใช้ชิปที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าได้ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทสหรัฐ โดยเฉพาะในแง่ของต้นทุนการดำเนินงานและความจำเป็นในการใช้ชิปที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง  อย่างไรก็ดี ตลาดฟื้นตัวในวันถัดไป หลังนักวิเคราะห์ประเมินว่าผลกระทบมีจำกัด และน่าจะส่งผลดีต่อการแข่งขันในการพัฒนาเทคโนโลยีในระยะยาว

สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็น 1 ในตลาดที่ปรับตัวลดลงสวนทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก เนื่องจากยังคงขาดปัจจัยหนุนตลาด ความกังวลเกี่ยวกับแรงขาย LTF ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยคาดว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยครั้งถัดไปในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ดี ทิศทางดอกเบี้ยในระยะยาวยังคงเป็นขาลง การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและระยะยาวที่บริหารแบบเชิงรุก (active management) จึงน่าจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

พอร์ตการลงทุนสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2568

บลจ. กรุงศรีฯ แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนไว้ดังเดิม โดยลงทุนในตลาดหุ้นไทย 5% เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงต่ำกว่าหลายประเทศ และคาดการณ์การเติบโตของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯยังคงอยู่ในระดับต่ำ

สำหรับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นสหรัฐที่คาดว่าจะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง และคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียหลังจากราคาปรับลงมามากและเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว รวมถึงคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มทีมีการเติบโตสูง ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

ในส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ แนะนำคงสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ไทย ( KFAFIX-A) และตราสารหนี้ต่างประเทศ (KF-CSINCOM) เนื่องจากการชะลอการลดดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอาจให้ผลตอบแทนน้อยลง ในขณะที่ความผันผวนยังคงสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ไทย


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้  กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Wealth Health Check