มุมมองการลงทุน
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูง ซึ่งเป็นผลจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศมาตรการเก็บภาษีอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับเปลี่ยนนโยบายไปมาหลายครั้ง ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัวลงเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ผลประกอบการไตรมาส 4/67 ของบริษัทจดทะเบียนฯในตลาดหุ้นสหรัฐส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่คาด สะท้อนว่าบริษัทจดทะเบียนฯยังสามารถสร้างผลประกอบการที่ดีได้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มเดินหน้าทำตามที่ได้หาเสียงไว้ เช่น การประกาศขึ้นภาษีนำเข้า การประกาศถอนตัวจากข้อตกลงปารีสที่มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประกาศปิดพรมแดน เป็นต้น โดยยังไม่มีการประกาศมาตรการลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแต่อย่างใด ดังนั้น ถึงแม้แนวโน้มที่เฟดจะประกาศลดดอกเบี้ยในปีนี้มีน้อยลง แต่ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีโอกาสที่จะทะยานขึ้นตอบรับข่าวการลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการประกาศเมื่อใด นอกจากนี้ ในส่วนของมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดี ทรัมป์ ตลาดมองว่าเป็นการประกาศเพื่อให้เกิดการเจรจาต่อรอง เพื่อที่สหรัฐจะได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากขึ้น จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาของการเก็บภาษีได้ตลอดเวลา
สำหรับการประกาศเปิดตัว DeepSeek ซึ่งเป็นบริษัท AI ของจีน ที่ระบุว่าสามารถสร้างระบบ AI ได้ดีเทียบเท่า ChatGPT โดย DeepSeek มีต้นทุนถูกกว่าและใช้เทคโนโลยี่ต่ำกว่า ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงแรง เนื่องจากเกรงว่าคู่แข่งจากจีนจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็วจนสามารถแซงบริษัทสหรัฐได้ในไม่ช้า และบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐอาจใช้เงินทุนสูงเกินความจำเป็น การเปิดตัว DeepSeek ส่งผลให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นอินเดียเข้าสู่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีน อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐฟื้นตัวในเวลาต่อมา โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และหลายประเทศประกาศแบน DeepSeek
ด้านตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงแรง โดยมีสาเหตุจากหลากหลายปัจจัย ได้แก่ การที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศแนวคิดในการปรับการคำนวณ SET Index โดยให้มีการจำกัดน้ำหนักในการคำนวณดัชนี ปัจจัยเฉพาะตัวในหุ้นขนาดใหญ่บางตัว ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ และปัจจัยลบจากภายนอกประเทศ
ปรับพอร์ตการลงทุนเดือนกุมภาพันธ์
บลจ. กรุงศรี เสนอให้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นในระยะสั้น โดยเสนอให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน KFAFIX-A เนื่องจากผู้จัดการกองทุนประเมินว่ากองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศมีระดับ yield ที่ไม่เหมาะที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ทั้งนี้ เสนอให้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยลงเป็น 0% เนื่องจากประเมินว่าถึงแม้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมามากแล้ว แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อ เนื่องจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดส่วนใหญ่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าที่คาด ส่งผลให้ความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ นอกจากนี้ เสนอให้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนใน KFINDIA-A เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นจีนจะได้รับความสนใจมากกว่า ซึ่งจะส่งผลให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นอินเดียมากขึ้น อย่างไรก็ดี บลจ. กรุงศรี ยังไม่เสนอให้ลงทุนในตลาดหุ้นจีน เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากสงครามการค้ากับสหรัฐ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงมีความไม่แน่นอน
ดู Fund Fact Sheet กองทุนที่เพิ่มน้ำหนัก/ปรับเข้า
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร 0 2657 5757 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299