
มุมมองการลงทุน
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกปรับตัวขึ้นต่อ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่ามกลางตลาดแรงงานที่มีสัญญาณอ่อนแอ อย่างไรก็ดี ตัวเลขด้านการผลิตและการบริโภคของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนว่าการบริโภคจะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ บริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐและจีนหลายบริษัทประกาศความร่วมมือและร่วมทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่งผลดีต่อทิศทางผลประกอบการในอนาคต ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นโดดเด่นต่อเนื่อง ในส่วนของตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น หลัง dot plot บ่งชี้ว่าความเห็นของคณะกรรมการเฟดต่อจำนวนครั้งในการลดดอกเบี้ยมีความหลากหลาย กอปรกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อทิศทางการลดดอกเบี้ยของเฟด กองทุนตราสารหนี้ในช่วงเดือนที่ผ่านมาจึงให้ผลตอบแทนเป็นลบ
ทั้งนี้ คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีการประกาศความร่วมมือหรือร่วมทุนทางธุรกิจจากบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มเติม ในขณะที่ มีโอกาสที่บริษัทในกลุ่มธุรกิจอื่นๆจะประกาศความร่วมมือหรือร่วมทุนเช่นกัน เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสที่จะได้แรงหนุนจากรายละเอียดข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าหลัก อาทิ จีน อินเดีย และสหภาพยุโรป ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนเห็นผลกระทบชัดเจนมากขึ้น และสามารถประเมินทิศทางในอนาคตได้ดีขึ้น
สำหรับตลาดหุ้นไทย ถึงแม้มีแนวโน้มได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น แต่การลดน้ำหนักการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และการที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การลงทุนในหุ้นต่างประเทศยังคงมีความน่าสนใจมากกว่า
ในส่วนของตราสารหนี้ คาดการณ์ของเฟดบ่งชี้ว่า เฟดอาจประกาศลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และอีก 1 ครั้งในปีหน้า โดยการตัดสินใจเกี่ยวกับดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับข้อมูลในการประชุมในแต่ละครั้ง ดังนั้น การที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังคงออกมาดี ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยในน้อยกว่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ดี ทิศทางดอกเบี้ยในระยะยาวยังคงเป็นขาลง การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นจึงเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร 0 2657 5757 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299