มุมมองการลงทุน

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เผยอัตราภาษีพื้นฐานที่จะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีของสหรัฐ

ในด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐและไทย ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่คาด และผู้บริหารของหลายบริษัทยังคงให้มุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในอนาคต  กอปรกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ยังคงออกมาดี และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งเป็นดัชนีชี้นำทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต ของหลายประเทศปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและภาคบริการ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากคำกล่าวของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า มีโอกาสที่เฟดจะประกาศลดดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนกันยายนนี้  เนื่องจากเฟดประเมินว่าตลาดแรงงานมีสัญญาณอ่อนแอลง ในขณะที่ผลกระทบจากมาตรการภาษีอาจเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราว การลดดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงานจึงอาจเป็นสิ่งที่เหมาะสม

ในส่วนตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา สวนทางกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก เนื่องจากอินเดียยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราภาษี ทั้งนี้ มีโอกาสที่อินเดียอาจถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงจากการที่อินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์มองว่าเป็นรายได้หลักของรัสเซียในการนำไปใช้ทำสงครามกับยูเครน  อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจของอินเดียยังคงบ่งชี้ถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางการลงทุนในเดือนกันยายน คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกและตราสารหนี้จะยังคงปรับตัวขึ้นต่อ จากแรงหนุนของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ และการประกาศลดดอกเบี้ยของเฟด  รวมถึงคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอาจออกมาดีกว่าที่คาดต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่ออกมาดี ซึ่งจะช่วยหนุนให้ตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัว  อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจเผชิญแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้  กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299