Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองเดือนมิถุนายน 2021: ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

มุมมองตลาดปัจจุบัน

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังคงออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่อง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านให้ความเห็นว่า การปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราว เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ส่งผลให้ราคาสนิค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงผลจากฐานต่ำในปีที่ผ่านมา

ในขณะที่ทางฝั่งยุโรป เศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นหลังรัฐบาลหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ มีทิศทางดีขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขในภาคบริการที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการล็อคดาวน์ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการกลับมาขยายตัว และ PMI แบบรวมสำหรับเดือนพฤษภาคม ในเบื้องต้นขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น

ส่วนเศรษฐกิจจีนยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 32.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือนเมษายน และยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 43.1% สะท้อนว่าอุปสงค์จากทั้งภายในและจากต่างประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนไม่ได้ขยายตัวร้อนแรงเกินไปอย่างที่หลายฝ่ายกังวล  ส่วนผลกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนเพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือนเมษายน ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้น 92.3% ในเดือนมีนาคม

สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง  อย่างไรก็ดี การส่งออกเติบโตสวนทางกับตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และช่วยสนับสนุนภาคการผลิต โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 13.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 36 เดือน ทั้งนี้เมื่อหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 25.70% สะท้อนถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของภาคเศรษฐกิจจริง

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกในเดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ยกเว้นดัชนีนาสแด็กของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยตามการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นกว่า 4% เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลว่ารัฐบาลอาจใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงิน  ตลาดหุ้นในอาเซียนส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนตลาดหุ้นไทยกลับมาฟื้นตัวในช่วงปลายเดือน หลังรัฐบาลเตรียมการฉีดวัคซีนล็อตใหญ่ในเดือนมิถุนายน

ทางเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง รวมถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง  โดยคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ แต่อาจมีปัจจัยรบกวนจากแนวโน้มการขึ้นภาษีนิติบุคคลของสหรัฐ  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปน่าจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในอนาคต  ในขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและจีนน่าจะได้ประโยชน์จากการเติบโตของการค้าโลก โดยตลาดหุ้นจีนอาจมีปัจจัยรบกวนเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐในบางช่วง

สำหรับตลาดหุ้นไทย ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากการพบกลุ่มผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว และจะส่งผลให้การฟื้นตัวในบางภาคส่วนชะลอออกไป อย่างไรก็ดี คาดว่าภาคการส่งออกจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันเศรษฐกิจไทยในปีนี้

ในส่วนของตราสารหนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว โดยการปรับขึ้นของ bond yield ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้การลงทุนในตราสารหนี้มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้

พอร์ตการลงทุน

Krungsri The Masterpiece ปรับพอร์ตเดือนธันวาคม 2020:

Krungsri The Masterpiece ปรับพอร์ตเดือนธันวาคม 2020:

กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์/ภูมิภาค

กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ

KFAFIX-A:

  • กองทุนกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง – ยาว เริ่มได้รับประโยชน์มากขึ้น ภายหลังจากผลกระทบทางลบจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ US treasury yield 10 ปี ได้คลี่คลายลงบ้าง นอกจากนี้จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงที่จะปรับลดลงจาก Covid-19 ระลอกที่ 3 ทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวได้แข็งแกร่งเหมือนสหรัฐฯ ในขณะเดียวกันตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนยังคงได้รับประโยชน์จากการปรับตัวลดลงของส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Corporate spread) ในกลุ่มหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง  ทําให้กองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน จะได้รับประโยชน์จากกสัดส่วนนการลงทุนนี้เพิ่มเติม จึงทำให้คาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนกลุ่มนี้ยังมีความน่าสนใจโดยเฉพาะสําหรับเงินลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น อาทิเช่น กองทุน KFAFIX-A  ขั้นต่ำ 1 ขึ้นไป โดยปัจจุบันกรอบ Duration เฉลี่ยของกองทุน  KFAFIX-A = 2 – 3 ปี

กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ

KF-SINCOME/ KF-CSINCOM:

  • กองทุนลดสถานะชอร์ตบนตราสารหนี้ในยุโรปและญี่ปุ่นลง หลังจากที่ได้รับประโยชน์จาก yield ที่เพิ่มสูงขึ้น กองทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อตราสารหนี้ กลุ่ม MBS จากราคาที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น และอัตราการผิดนัดชําระหนี้ที่อยู่ใน ระดับตํ่า

กองทุนตราสารทุนในประเทศ

KFENS50-A:

  • กองทุนเน้นการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET 50

กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ

Developed market equity

KFGBRAND-A / KFGBRAND-D:

  • Momentum กองทุนเริ่มกลับมา กองทุนเน้นลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพสูง เติบโตสม่ำเสมอในระยะยาว จึงควรมีไว้ในพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความผันผวน

KF-HUSINDX:

  • ตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นหลังจาก Fed ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อและตัวเลขเศรษฐกิจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 ของสหรัฐฯ ยัง เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการกลับมาเปิดประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีความผันผวน โดยนักลงทุนจับตาประเด็นเรื่องการขึ้นภาษีของ Biden

KF-EUROPE/ KF-HEUROPE:

  • ตลาดยุโรปได้แรงส่งจากการเริ่มคลายมาตรการ lockdown และการเร่งฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารกลางยุโรปยังคงมาตรการการเงินผ่อนคลาย และเร่งการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่อไปจนถึงปี 2022 สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ทางตลาดยุโรปยังคงน่าสนใจเนื่องจากยังเป็น laggard และมีแรงส่งจากการกลับมาเปิดประเทศ

KF-HJPINDX

  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีความผันผวน หลังจากจํานวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ระลอกใหม่เพิ่มขึ้นโดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยืดคําสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

KFHHCARE

  • พื้นฐานที่แข็งแกร่งราคาถูก แต่ในระยะสั้นอาจได้รับแรงกดดันจาก Regulation และการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดี Biden

Emerging market equity

KFACHINA-A:

  • ตลาดจีนเริ่มมีทิศทางทรงตัวหลังเจอกับแรงขายจากความกังวลว่าธนาคารกลางจีนจะลดสภาพคล่องในตลาด นอกจากนี้อาจต้องระวังความเสี่ยงจากกฎหมายป้องกันการผูกขาดที่กระทบกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีนและนโยบายกดดันทางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ภาพเศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งการบริโภคในประเทศและภาคการผลิตที่ยังสามารถขยายตัวได้ดี

Krungsri Asset Management

สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Krungsri The Masterpiece สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >> แอปฯ FINNOMENA
ผ่านคอมพิวเตอร์ >>  เว็บไซต์ FINNOMENA

สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Krungsri The Masterpiece คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน

Krungsri The Masterpiece ปรับพอร์ตเดือนธันวาคม 2020:

หมายเหตุ:

  • กองทุน KFGBRAND-A, KFGBRAND-D, KF-EUROPE, KFACHINA-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • กองทุน KF-SINCOME, KF-CSINCOM, KFAINCOM-A, KFAINCOM-R, KF-HUSINDX, และ KF-HEUROPE ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

คำเตือน  ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต  กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้   กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น   กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย  เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757