ผ่านไปเกือบๆ 4 เดือน หลังจากตลาดหุ้นจีนทำจุดสูงสุดของปีเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา บทความชิ้นนี้ ผมขออนุญาตแชร์มุมมองการลงทุนในจีนแบบย่อๆตามที่ผมเห็นนะครับ ผิดถูกยังไง ท่านคงต้องไปพิจารณากันเอาเองอีกที
สัปดาห์ก่อน เป็นวันหยุด Golden Week ของจีน แล้วเปิดทำการเมื่อวันพฤหัสฯ ที่น่าสนใจคือ เป็นสัปดาห์ที่ Fund Flow ไหลกลับเข้าลงทุนใน EM และแน่นอนพอจีนเปิดตลาดก็มีเงินลงทุนไหลเข้า ทำให้ทั้ง A Share และ H Share ขยับขึ้นไปเช่นกัน
ดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนก.ย. อยู่ที่ 49.8 ดีขึ้นกว่าเดือน ส.ค. เล็กน้อยเท่านั้น แต่ PMI ภาคบริการยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ 53 แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวในอัตราที่ลดลง ตลาดเริ่มไม่กังวลมาก
FX reserves เดือน ก.ย. โชว์ว่าลดลง -$43 Billion ซึ่งน้อยกว่าเดือน ส.ค. ที่ reserves ลดลงถึง -$94 Billion แสดงให้เห็นว่า จีน ใช้เงินทุนสำรองเพื่อพยุงค่าเงินหยวนลดลง ประเด็นการทำ QT จึงน่าจะยังไม่ใช่ประเด็นที่ตลาดกังวลในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
ส่งออกของจีนในเดือนก.ย.หดตัว -1.1% YoY หลังจากที่ร่วงลง -6.1% ในเดือนส.ค. (ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ -6.3%) แต่นำเข้าเดือนก.ย.ร่วงลง -17.7% YoY เยอะกว่าที่ตลาดคิดไว้ที่ -15%
ในฝั่งตัวเลขส่งออก ตลาดน่าจะโล่งใจมากขึ้น เพราะตัวเลขดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ค่อนข้างเยอะ แต่ฝั่งนำเข้าเนี่ย เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าสินค้าทุน แล้วนำมาผลิตต่ออีกที ดังนั้น สัญญาณต่อเศรษฐกิจโลกยังดูไม่ดีเท่าไหร่ (ใครที่ส่งของมาขายจีนมากๆ แสดงว่าตอนนี้เจอปัญหาอยู่) ทั้งนี้ จากที่ดู เหมือนตลาดพยายามมองข้าม Shot ไป 3-6 เดือนข้างหน้าแล้วว่า เสถียรภาพของเศรษฐกิจจีนจะอยู่ที่ตรงจุดไหน
ก็มีส่วนครับ TPP เกิดขึ้นจากความตั้งใจของสหรัฐฯ ในการลดการพึ่งพาการค้ากับจีน โดยการรวมกลุ่มประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิค ซึ่งจะทำให้เหล่าสมาชิกค้าขายกันอย่างเสรี ไม่มีกำแพงภาษี เกมส์นี้ ก็เพื่อหาดุลอำนาจใหม่ชัดเจน หากสินค้าใดในจีนที่เป็นคู่แข่งโดยตรง และมีต้นทุนการผลิตที่แพงกว่า ก็ย่อมต้องสูญเสียความสามารถการแข่งขันแน่นอน ดังนั้น มีแนวโน้มสูงที่ในระยะยาว การลงทุนเพื่อตั้งโรงงานผลิตสินค้าอะไรก็ตาม ที่ส่งไปขายยังสหรัฐฯ ก็จะไปตั้งในประเทศที่เป็นสมาชิก TPP แทน
หากคุณคิดจะลงทุนเพิ่มในกองทุนรวม นี้คือสิ่งที่คุณไม่อยากพลาด! สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่อรับโพยกองทุนเด็ดที่แนะนำ อัพเดททุกเดือนจาก FINNOMENA
กดที่นี่เพื่อรับโพยกองทุนแต่ไม่ต้องกังวลมากไปครับ เงื่อนไขกว่าจะปรับลดเพดานภาษี กว่าจะปรับตัวโน้นนี่ คงใช้่ระยะเวลาประมาณหนึ่งครับ ไม่ได้เกิดขึ้นเร็วภายในปีสองปีแน่นอน ดังนั้นยังมีเวลาปรับตัว (รวมถึงไทยด้วยนะ ที่ต้องปรับตัว)
ดูที่ Valuation ก่อน Forward P/E ของ H Share อยู่ที่ 7.5x ถือเป็นประเทศที่ตลาดหุ้นมี P/E ต่ำที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากรัสเซีย (แต่ก็ต่ำแบบนี้มาตั้งนมนานแล้วนะ) ส่วนของ A Share อยู่ที่ 12.5x
EPS Growth ของ A-Share น่าจะอยู่ที่ 14% และ 11% สำหรับปี 2015 และ 2016 ฝั่ง H Share เนี่ย ปี 2015 ตลาดมองว่า จะ No Growth โตแค่ 0.3% เท่านั้น มองตามตัวเลขก็อาจกังวลนะครับ แต่มองอีกมุมนะครับ ถ้า H Share อยู่ดีๆมี Positive Surprise ที่ทำให้มีการ Upgrade EPS Growth ขึ้นมา ด้วยระดับ P/E ที่แสนถูกแบบนี้ ผมเชื่อว่า อยู่ไม่ได้หรอก ดังนั้น ตลาดหุ้นจีน น่าจะใกล้เจอจุดต่ำสุดแล้ว หรือไม่ ก็อาจผ่านจุดต่ำสุดของรอบไปแล้วก็ได้
ตอนนี้ลุ้นแค่ว่า เมื่อไหร่ EPS Growth จะกลับมา และเมื่อกลับมา ตลาดจะกลับมามี Upside อีกไม่น้อยเลย
ไปดูกราฟเทคนิค ทำท่าเหมือน W Shape ถือว่าสวยทีเดียว ใครมีอยู่ อย่าเพิ่งขายนะ ใครอยากซื้อเพิ่ม ลองพิจารณากันเอาเองในมุมอื่นๆด้วยแล้วกันครับ 🙂
หากคุณคิดจะลงทุนเพิ่มในกองทุนรวม นี้คือสิ่งที่คุณไม่อยากพลาด! สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่อรับโพยกองทุนเด็ดที่แนะนำ อัพเดททุกเดือนจาก FINNOMENA
กดที่นี่เพื่อรับโพยกองทุน