กองทุน ‘Healthcare Sector’ พุดขึ้นมาเยอะทีเดียวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นี่คือครั้งแรกที่กองทุนประเภทนี้ เจอแรงเสียดทาน ซึ่งจะว่าไปแล้ว นี่เป็นแรงเสียดทานครั้งที่แรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 เลยทีเดียว (ดูจากกราฟดัชนี S&P500 Healthcare Sector ด้านล่างดูครับ
A : สำหรับผม มันมีหลายเหตุผลมากๆนะครับ
A : จริงๆก็ไม่แรงเท่าที่อื่น เพียงแต่ นักลงทุนไทย ไม่เคยเห็นหุ้นกลุ่มนี้ลงแรงมาก่อน ก็อย่างที่บอก เป็นขาขึ้นมาตั้งแต่ปี 2008 จะไปเจอได้ยังไง เบ็ดเสร็จแล้ว จนถึงสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่ม Healthcare ปรับตัวไปราวๆ -13% จากจุดสูงสุดเดือน ส.ค. แต่ถ้านับตั้งแต่ต้นปี ยังบวกอยู่ 8% ครับ
A : มีครับ ในระยะยาว กลุ่ม Healthcare Sector ยังถือว่าเป็นกลุ่มที่มี EPS Growth ดีที่สุดในโลก ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจว่าทำไมถึงเทรดกันที่ PE สูง ก็เพราะ การเติบโตมันสูงนั้นล่ะ ส่วนเรื่องที่ Hillary Clinton หาเสียงนั้น กว่าจะถึงวันเลือกตั้งปี 2016 จริง มันยังมีเวลาอีกเยอะ อีกอย่าง สภาคองเกรสเอง ณ ปัจจุบัน พรรค Republicans ซึ่งดันกฎหมายสนับสนุน Healthcare ครองเสียงข้างมากในสภา การที่เจ๊ Clinton จะทำอย่างที่ตั้งใจ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ
A : ดูกราฟ Daily Chart ด้านล่าง จะพบ Bullish Divergence อันสวยงาม หากดัชนีผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 15 วัน ขึ้นมาได้ ก็ถือว่าน่าสนใจ การปรับฐานอาจจะจบไปแล้ว แต่อยากให้สังเกตุดูนะครับว่า ตอนเดือน ก.ย. ดัชนีเคนดันตัวเองขึ้นไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ก็ไม่ผ่าน ดังนั้น การจะยืนยันว่ากลับเป็นขาขึ้นนั้น คงต้องรออีกซักระยะเลย แต่ใครสนใจมีเงินเหลือ หรืออยากจะซื้ออยู่แล้ว มาวันนี้ ซื้อได้บางส่วนแล้วครับ
ลงทุนในกองทุนรวมที่ยอดเยี่ยม ปรึกษา FINNOMENA ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเป้าหมายการลงทุนแตกต่างกัน จึงต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด
ดูพอร์ตกองทุนแนะนำA : โลกยังมีความเสี่ยงหลายประเด็นที่อาจกระทบกับ Healthcare Sector ทั้งทางตรง และทางอ้อม
ข้อ 1. เดี๋ยวเราก็รู้ในสัปดาห์ข้างหน้า ส่วนข้อ 2. ข้อ 3. เนี่ย อีกซักระยะเลยครับ ยิ่งตอนนี้ เริ่มมีคนพูดกันว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งกลายเป็นว่า ดูค่อนข้างยากแล้ว
A : มีครับ นั้นก็คือ Fund Flow ของ ETF
รูปข้างบน เห็นเส้นสีเทาไหมครับ? นั้นคือยอดเงินลงทุนในกองทุน ETF กลุ่ม Healthcare จะพบว่า มีแรงขายมาตั้งแต่เดือน ก.ค. แล้ว แต่ถ้าเปรียบเทียบ Fund Flow ทั้งกลุ่มจะพบว่า เงินลงทุนใน Healthcare Sector ลดลงเพียงเล็กน้อย นั้นหมายความว่า เหล่า Active Fund ยังมีเงินเข้าไป แสดงให้เห็นว่า มีนักลงทุนที่เชื่อมั่นในอุตสาหกรรมนี้อยู่ไม่น้อยครับ ส่วน Flow จาก ETF ผมเชื่อว่า เป็นการขายลดพอร์ตตามการ Re-balancing หลังตลาดหุ้นโลกปรับฐาน มากกว่าจะเกิดจากการขายเพราะจะเลิกเล่นกลุ่มนี้แล้วครับ แต่เพราะโลกในเมืองนอก เป็น ETF World กันไปแล้ว ดังนั้น Fund Flow ของ ETF จึงมีผลต่อการกำหนดทิศทางราคาหุ้นในระยะสั้นพอสมควร ความผันผวนของตลาดจึงสูงขึ้นโดยปริยาย
สรุปคือ ยังมีคนเก็บ Healthcare แต่ความผันผวนน่าจะสูงขึ้นในช่วงหลังจากนี้ กลยุทธ์การทยอยสะสมเวลาราคาลงมาหนักๆจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ และติดตามเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ + ทิศทางว่าเจ๊ Clionton จะคว้าชัยหรือเปล่า ถ้าคว้า ก็มีความเสี่ยงที่พวกกองทุน Healthcare จะเริ่ม Underperform เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นบ้างแล้ว
ปล. Underperform ไม่ได้แปลว่าจะขาดทุนแน่ๆ แต่แปลว่า อาจจะแพ้คนอื่นครับ
Mr.Messenger รายงาน
ลงทุนในกองทุนรวมที่ยอดเยี่ยม ปรึกษา FINNOMENA ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเป้าหมายการลงทุนแตกต่างกัน จึงต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด
ดูพอร์ตกองทุนแนะนำอ่านบทความนี้บนแอป พร้อมแจ้งเตือนข้อมูลและสิทธิประโยชน์ดีๆ และลองใช้ PORT