คนจำนวนไม่น้อย อยากเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับเงินออมของตัวเอง และยิ่งหนึ่งในคนที่รวยที่สุดในโลกอย่าง Warren Buffett นั้นสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนในหุ้นให้เราเห็นแบบนี้ เป็นธรรมดาว่า ใครๆก็อยากเดินตามแนวทาง Value Investing ของเขา ยิ่งเมื่อเวลาผ่านไป เราก็ยิ่งพบเห็นคนจำนวนมากมาย ประสบความสำเร็จจากการใช้แนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าในสไตล์ของปู่วอร์เรนแบบนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้หลักการลงทุนแบบ Buy & Hold Strategy ซื้อและถือยาวๆ ยิ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนรายย่อยมากขึ้นเรื่อยๆ

ผมเห็นบางคน ก็เริ่มจากอย่างนี้ละครับ มีเพื่อนบอกว่า “ไม่ขาย ไม่ขาดทุน” เพราะฉะนั้น ฉันจะไม่ขาย!!
ว่าแล้วก็นั่งกอดหมอน มองดูหุ้นตัวอื่นในตลาดวิ่งขึ้นเอาๆ หวังว่าซักวันมันจะถึงตาของหุ้นตัวที่เราถือเสียบ้าง
….. แต่วันนั้น มันก็ไม่มาถึงซักที

สาเหตุของความผิดพลาด มันมาจาก การที่เราเลือกเอาวิธีคิดที่ดูดี และทำง่ายที่สุด มาปฏิบัติทันที โดยลืมไปว่า หลักการลงทุนแบบ Value Investing นั้น มันมีเบื้องหลังมากกว่าแค่คำว่า “ถือยาวๆ”

เพื่อเป็น Guideline ในการเลือกหุ้นเพื่อถือยาวซักตัว สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานทางการเงินเลย 5 คำถามนี้ จะทำให้คุณเลือกหุ้นที่มีคุณภาพได้แน่นอน ตามไปดูกันครับ

1. How has the company performed?
ลองถามตัวเองว่า ผลประกอบการในอดีตของบริษัทที่เราสนใจเป็นอย่างไร? คำตอบที่เราหวังจะได้จากการหาข้อมูลผลประกอบการบริษัทก็คือ ยอดขายโตขึ้นทุกๆปีมาตลอด และกำไรโตขึ้นทุกปีมาตลอด ยิ่งตัวเลขจำนวนปี ที่กำไรโตต่อเนื่อง มันสูงขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแปลว่าบริษัทคุณภาพดีมากขึ้นเท่านั้น

2. How much debt does the company have?
ลองถามดูว่า บริษัทมีหนี้มากน้อยแค่ไหน? ยิ่งมีหนี้มาก ฐานะทางการเงินของบริษัทยิ่งมีความเสี่ยง เพราะยิ่งบริษัททำรายได้ได้มากเท่าไหร่ ก็มีภาระต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเป็นบริษัทที่โตด้วยหนี้เนี่ย ยิ่งต้องระวังไว้ให้ดี

3. How are profit margins?
กำไรต่อยอดขายของบริษัทดีหรือไหม? ยิ่งมากก็ยิ่งดี ตัว Profit Margin จะเป็นตัววัดความคุ้มค่าของการทำธุรกิจนั้นๆ

4. How unique are the products sold by the company?
ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าและบริการของบริษัท มีความแตกต่างจากคู่แข่งมากน้อยแค่ไหน? หากบริษัทนั้นมีสินค้าและบริการที่โดดเด่น ยากที่ธุรกิจอื่นจะเลียนแบบ หรือใช้เทคโนโลยี ใช้นวัตกรรมขั้นสูง ใช้เงินลงทุนสูง กว่าจะเกิดการประหยัดจากขนาด จะยิ่งทำให้บริษัทสามารถดำรงตัวอยู่ได้ในระยะยาว เรียกว่า มีความสามารถในการแข่งขันสูง ถ้าเจอบริษัทแบบนี้ ต้องเก็บไว้ใน Short List ทันที!!

5. How much of a discount are shares trading at?
ข้อสุดท้าย ราคา ณ ปัจจุบัน ต่ำกว่าราคาทางปัจจัยพื้นฐานมากน้อยแค่ไหน ยิ่ง Discount จากราคาทางปัจจัยพื้นฐานมากเท่าไหร่ ก็แปลว่า ยิ่งมีโอกาสสร้างกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น

จะเห็นว่า Value Investor นั้น พิจารณาเรื่องราคาเป็นเพียงส่วนประกอบ 1 ใน 5 ปัจจัยเท่านั้น ที่เหลืออีก 4 ข้อ เป็นการมองในมุมอื่น เพื่อค้นหาคุณค่าของบริษัทนั้นๆ มากกว่าจะดูแค่มูลค่า

ก็อย่างที่ Warren Buffett บอกนั้นล่ะครับ
Price is what you pay. Value is what you get.
ราคา คือ สิ่งที่คุณจ่ายไป คุณค่า คือ สิ่งที่คุณได้มา

รู้แบบนี้แล้ว มือใหม่ทั้งหลาย ก่อนจะซื้อแบบถือยาว ลองกลับไปตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบให้ครบ 5 ข้อ ก่อนตัดสินใจเลือกหุ้นนะครับ

ถ้าทำได้ การตามหาหุ้นในดวงใจซักตัว ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

โชคดีในการลงทุนครับ