ในวันที่มืดแปดด้านยามวิกฤติเช่นนี้ หากคุณมองไม่เห็นโอกาส จะดีแค่ไหนกันหากมี indicators ชี้วัด พร้อมเสิร์ฟโอกาสให้คุณเข้าซื้อยามตลาดส่งสัญญาณกลับตัว โดยสรุปในวันนี้เราจะมาเผย COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM ที่พัฒนาโดยทีมงาน FINNOMENA พร้อมกับไขข้อสงสัยแบบเจาะลึกว่าทำไมกองตราสารหนี้ถึงลงในช่วงนี้ รวมถึงบทวิเคราะห์เชิงลึกในเรื่องของสงครามราคานํ้ามัน

โดย LIVE ในวันนี้ถือว่าเข้มข้น และผมชอบมากๆเป็นการส่วนตัว หากพร้อมแล้วอ่านไปพร้อมๆกันได้เลยครับ!

เช่นเคยครับ เรามาอัพเดทสถานการณ์ประจำวันกันก่อน…. (ของวันที่ 19 มีนาคม 2563)

  • ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงต่ออีก -5%
  • ราคานํ้ามันติดลบอีกกว่า -20% โดยอาจส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตนํ้ามัน เพราะด้วยราคาที่ลดลงอาจทำให้ทำกำไรได้น้อยลง
  • ทาง CAPA หรือสมาคมรวมผู้ประกอบการสายการบิน ได้ร้องเรียนกับโดนัลด์ ทรัมป์ว่าหากสถานการณ์โควิด 19 ยังเป็นเช่นนี้จนถึงพฤษภา บริษัทสายการบินอาจล้มละลายได้ โดยมีผลมาจาก อุปสงค์ (supply) ที่ล้นจากสถานการณ์ price war (การหั่นราคานํ้ามันทำได้โดยการผลิตออกมาให้เยอะขึ้นและเมื่อสต๊อกนํ้ามันล้นตลาดเกินความต้องการของผู้คนจนขายไม่ออก ทางผู้ผลิตจึงต้องลดราคานํ้ามันลง) นอกจากนั้นยังมีการกดดันในเรื่องของ demand ที่ตํ่ากว่าเดิมเนื่องจากไวรัสโคโรน่าอาจทำให้ผู้คนไม่เดินทาง ไม่จับจ่ายใช้สอย บริษัทผู้ผลิตต่างๆก็ไม่ผลิตของออกมาเนื่องจากไม่มีความต้องการของผู้คนในตลาดและด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลข้างต้น จึงส่งผลให้ราคานํ้ามันถูกเทขายหนักไปกว่าเดิม โดยหากราคานํ้ามันตํ่ากว่า 30          เหรียญ ซัก 3-4 เดือนอาจจะทำให้ผู้ส่งออกนํ้ามันเกิดปัญหาได้
  • ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 15 เดือน โดยทะลุ 32.50 บาท/ดอลลาร์ เป็นที่เรียบร้อยด้วยอ่อนตัวขึ้นถึงเกือบๆ 10% เลยทีเดียว โดยอาจทำให้ผู้ส่งออกหายใจหายคอได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการอ่อนค่าของค่าเงินบาท ก็สะท้อนให้เห็นถึงการถอนทุนของนักลงทุนในตลาด (เงินไหลออก)

มุมมองการลงทุนจาก Ray Dalio และหลายๆสำนักชื่อดัง

หากคุณติดตามชายผู้นี้มาก่อนหน้า คุณคงจะจำได้ว่า Ray Dalio เคยประกาศไว้ว่า “หากเราย้อนไปดูประวัติศาสตร์โรคระบาดไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจเกิดภาวะถดถอย” แต่ครั้งนี้ผลลัพธ์ได้แตกต่างออกไป โดยกองทุนของเขาทำผลตอบแทน -20% ใน 3 เดือน แต่อย่างไรก็ตามเฮียแกได้บอกใบ้ไว้ว่าในตอนนี้ เขาได้เปลี่ยนไป short หุ้นยุโรปไว้ ตัวอย่างเช่น หุ้น SAP

และเพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆ JP Morgan และ Goldman Sach ปัจจุบันมีมุมมองตลาดว่ากำลังเป็นช่วงขาลง (Bear market) 

เจาะลึกตราสารหนี้ ทำไมถึงลงในช่วงนี้? 

เจาะลึก Credit Spread Duration (CDS) คืออะไร? สำคัญไฉน?

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

ภาพด้านบนเป็นภาพแสดง Credit spread duration หรือหากพูดง่ายๆสั้นๆก็คือตัวที่ใช้วัดส่วนต่างความเสี่ยงในตราสารหนี้ โดยหากเศรษฐกิจดีคนมีความมั่นใจกับหุ้นกู้บริษัท เพราะ มีพื้นฐานธุรกิจที่ดี คนก็จะเข้าไปซื้อส่งผลให้ราคาขึ้น ส่วนต่าง (Spread) ก็จะลดลง จึงทำให้ผลตอบแทน (Yield) ลง แต่หากเศรษฐกิจไม่ดี จนมีการเทขายออกมาจากตราสารหนี้บริษัทดังกล่าวก็จะส่งผลให้ราคาลงส่วนต่างความเสี่ยง (Spread) ก็จะขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทน (Yield) ขึ้น อันเป็นผลมาเนื่องจากการเทขาย

โดยสถานการณ์ในปัจจุบันถือว่าไม่สู้ดีนักหลังจากตัว spread ที่ว่าดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงภายในสัปดาห์เดียวเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการเทขายอย่างหนักในระยะเวลาสั้นๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ทั้งสั้นและยาวแทบทุกตัวนั้นติดลบ

ที่ผ่านมาเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) ดีดตัวขึ้นเพราะอะไร? ใช่การถดถอยไหม?

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

ภาพด้านบนแสดงถึงเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield curve) ของพันธบัตรรัฐบาล ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หลังจากส่งสัญญาณติดลบมาก่อนหน้าช่วงที่ตลาดหุ้นอึมครึม แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่นๆตรงที่ การดีดตัวขึ้นของ Yield curve เกิดจากสภาพคล่องของเงินดอลลาร์ที่ขาดแคลน

โดยอาจเกิดจากการที่นักลงทุนนำเงินมาหลบภัยในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นกันมากขึ้น (Yield ตัวระยะสั้นจึงลดลงเป็นผลจากการเข้าซื้อ จึงทำให้ Yield curve กลับตัวขึ้นมาได้)

ส่งผลให้เงินที่หมุนในระบบเศรษฐกิจลดลง เพราะ ความกังวลในเรื่องภาวะถดถอย และความเสี่ยง หนี้สูญ (Default) ทำให้นักลงทุนในตราสารหนี้บริษัทต่างๆถอนทุนออกทาง Fed จึงต้องแก้เกมด้วยการอัดเงินเข้ามาอุ้มบริษัทต่างๆเอาไว้ 

ตราสารหนี้สหรัฐ

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

ช่วงที่ผ่านมา Fed มีการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่กลับกันตัวตราสารหนี้ yield กลับดีดขึ้น มาจากการที่นักลงทุนเทขาย ส่งผลให้ราคาลงมาซะอย่างนั้นทั้งๆที่ควรจะขึ้นหากมีการลดดอกเบี้ย โดยหากทาง Fed ต้องการจะดึงเงินทุนกลับเข้าตราสารหนี้อาจจะต้องมีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า? แต่ปัจจุบัน Fed ก็แทบจะเรียกได้ว่าไม่เหลือดอกเบี้ยให้เล่นแล้วโดยเหลือเพียงแค่ 0.25% เท่านั้น น่าเป็นห่วงมากๆครับ

ตราสารหนี้ไทย

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

ตัว Yield ก็มีการดีดตัวขึ้นเช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงการเทขาย โดยอาจจะเป็นการขายเพื่อหนีไปถือเงินสดของนักลงทุน

อีกเรื่องที่น่าจับตามองคือ ตราสารหนี้เกรดลงทุนในเซคเตอร์กลุ่มพลังงาน ที่ผันผวนมากๆในช่วงที่ผ่านมา

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

ในส่วนของ ส่วนต่างผลตอบแทน (Spread) นั้นดีดแรงมาก ถึงแม้จะเป็นตัวที่เป็น Investment grade ก็ตาม (Credit rating มากกว่า BBB) โดย spread อยู่ที่เกือบๆ 500 เลยทีเดียวแสดงให้เห็นถึงแรงเทขายอย่างหนักหน่วง

ตัว Junk bond หรือ High yield นี่ก็แทบกุมขมับกันเลยทีเดียว สถานการณ์หนักหน่วงมากๆ โดย spread ดีดขึ้นมากถึง 2,000 เลยทีเดียว สูงกว่าครั้งวิกฤติ subprime ด้วยซํ้า

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

และอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือ ตราสารหนี้ในส่วนของนํ้ามัน หรือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีสัดส่วนอยู่ที่เกือบๆ 20% ของตราสารหนี้ทั่วโลก

เกาะติดสถานการณ์สงครามราคานํ้ามันกันบ้าง…

ทางด้านของรัสเซีย ค่าเงิน ruble ได้อ่อนตัวลง จึงอาจทำให้รัสเซียได้เปรียบซาอุ ในเรื่องของการขายนํ้ามันได้แพงขึ้นเวลาส่งออก แต่อาจแลกด้วยความเสี่ยงในเรื่องของหนี้ต่างประเทศ ที่มาจากค่าเงินที่อ่อนตัว ทำให้ต้องจ่ายมากกว่าเดิม

หาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

ส่วนตัวผมขอเรียกผลงานชิ้นนี้ว่าเป็น indicator ชี้นำจุดเข้าซื้อยามวิกฤติ ที่ได้รวบรวมหลายๆ indicators ที่มีความสำคัญเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งผมมองว่ามันเจ๋งมากๆ (ปกติไม่เคยอวยนะครับ ไม่ชอบก็จะเฉยๆหรือบางทีก็หลุดพูดออกมา ฮาๆ) โดยผมจะมาอธิบายการใช้งาน indicators ในส่วนต่างๆให้ทุกคนได้ดูกัน

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

ในส่วนแรกจะเป็น Global cases per day ของยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศสำคัญๆ โดยสถิติหากจำนวนผู้ติดเชื้อทะลุ 200 รายมีความเป็นไปได้ที่จะพุ่งสูงไป 1,000 ราย แต่ถ้ากราฟผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ อาจเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อหุ้น

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

Valley time

ในส่วนนี้จะเป็นการเทียบระยะเวลากับครั้งวิกฤติ subprime ว่าใช้เวลานานแค่ไหนที่ดัชนีสำคัญต่างๆ ลงจากจุดสูงสุดไปจุดตํ่าสุด

Drawdown

พูดง่ายๆก็คือหากเทียบกับวิกฤติ Subprime แล้ว หุ้นลงได้ถึงไหน โดยหากเส้นส้มชนเทาเราอาจจะเริ่มเข้าซื้อได้

Highlighted Indicator

เจาะลึกตราสารหนี้และหาจุดเข้าซื้อไปกับ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM

  • VIX ใช้แสดงความผันผวนของดัชนี S&P 500 ผันผวนมากแสดงถึงความกลัวที่มากของนักลงทุน
  • 2Y10Y Spread หากติดลบจะกลายป็น inverted yield curve แสดงถึงสัญญาณถดถอยในอนาคต
  • CDS Investment Grade  ราคาตราสารอนุพันธ์ (Deriative) ที่ใช้สำหรับเปิด hedge ในช่วงตลาดขาลง โดยหากเพิ่มขึ้นแสดงถึงความเสี่ยงที่มากขึ้น
  • USD/THB โดยหากค่าเงินบาทอ่อนอาจไม่ดีต่อตลาดหุ้น และตราสารหนี้ เพราะ แสดงถึงการถอนทุนออก
  • USD/JPY หากค่าเงินเยนมีการแข็งค่า แสดงถึงการที่คนอยากถือเงินสด และสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะทองที่มีค่า correlation ใกล้เคียงกับเงินเยน

*ในเว็บไซต์ก็มีคำอธิบายเพิ่มเติมด้านล่างอีกทีเหมือนกันนะครับ หากอ่านตรงนี้แล้วยังไม่เข้าใจก็ลองเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ได้เลย

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับสรุป LIVE ในวันนี้ จริงๆมันคือของวันพฤหัสบดีแหละแต่เนื่องจากติดปัญหาว่า LIVE โดนลบออกไปเลยเพิ่งได้ปล่อยสรุปออกมาให้ทุกคนดู หวังว่าจะคลายข้อสงสัยเรื่องตราสารหนี้และสถานการณ์ต่างๆให้ทุกคนได้นะครับ

อย่าลืมไปลองเล่น COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM กันล่ะ รักษาสุขภาพกันด้วยครับ อยู่บ้านเหงาๆก็มาอ่านบทความ Mr.Serotonin ก็ได้….

กดที่แบนเนอร์ได้ล่างเพื่อเข้าไปทดลองใช้ COVID-19 INVESTMENT WAR ROOM กันได้เลย!