สมัยก่อนผู้ประกอบการที่จะทำธุรกิจให้เติบโตหลักพัน หลักหมื่นล้านอาจใช้เวลาหลายสิบปี หรือหลายชั่วอายุคน ผิดกับในสมัยนี้การเติบโตของธุรกิจรวดเร็วมาก หุ้นหลายตัวทำกิจการมาไม่ถึงสิบปี ก็สามารถเติบโตระดับหมื่นล้านได้สบาย ๆ และนั่นคือหนึ่งใน “เป้าหมาย” ของนักลงทุนหุ้นโตเร็ว จะมีกิจการอะไรบ้าง ไปติดตามกันครับ
เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว เรานึกกันไม่ค่อยออกว่ามันจะเติบโตเป็นกิจการหลักหมื่นล้านได้ยังไง จะเห็นก็แต่เฉพาะบริษัทระดับโลก เช่น มันฝรั่งเลย์ ที่มีกิจการเติบโตขยายไปทั่วโลก แต่ถ้าเป็นของคนไทยนั้นมองหาแทบไม่เจอ แต่เชื่อหรือไม่ครับว่ามันมีนะ “ขนมหมื่นล้าน”
หลายคนนึกออกแล้วหุ้นหมื่นล้านตัวนั้นก็คือ TKN หรือ เถ้าแก่น้อยนั่นเอง หุ้นเถ้าแก่น้อยเข้ามาในตลาดหุ้นด้วยขนาดกิจการหลักพันล้าน โดยใช้เวลาเติบโตแค่หลักสิบปีเท่านั้น แต่ใครจะคิดว่ากิจการเถ้าแก่น้อยสามารถเติบโตต่อจนเป็น “หุ้นหมื่นล้าน”
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ TKN ขยับปรับตัวขึ้นมามาก ก็คือ การที่เจ้าของ หรือ “คุณต๊อบ” เริ่มนำสินค้าสู่ตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นจีน หรืออเมริกา และนั่นจะเป็นบทพิสูจน์ว่า TKN จะไปต่อ หรืออิ่มตัวแล้ว
กิจการที่สองเกี่ยวข้องกับความสวยความงาม เป็นเครื่องสำอางที่ทำจากเมือกหอยทาก หรือ หุ้น DDD บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ที่เป็นกิจการหมื่นล้านทันทีที่เข้ามาเทรดในตลาดหุ้น
ด้วยยอดขายที่เติบโตรวดเร็วมากจากหลักร้อยล้านในไม่กี่ปีเติบโตเป็นหลักพันล้านบาท และนั่นทำให้ราคาหุ้นเติบโตจนขนาดกิจการในปัจจุบันทะลุสามหมื่นล้านเป็นที่เรียบร้อย เป็นหุ้นหมื่นล้านตัวใหม่สด ๆ ร้อน ๆ ก็ว่าได้ครับ
ร้านขนมหวานหมื่นล้านถ้าพูดแบบนี้คงนึกถึงเจ้าเดียว นั่นคือ อาฟเตอร์ยู หรือ หุ้น AU ที่ในปัจจุบันมีสาขาราว 20 สาขา แต่ขนาดกิจการทะลุหมื่นล้านเป็นที่เรียบร้อยเช่นกัน หากเราซื้อกิจการ AU ในตอนนี้เท่ากับเราซื้อสาขาของร้านขนมหวานดังกล่าวด้วยมูลค่ากว่า 400 – 500 ล้านบาทต่อสาขา !
เรื่องราวของอาฟเตอร์ยูนั้นผมว่ามีให้เล่าอีกเยอะแยะมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้เราต้องคอยจับตาดูก็คือ การเติบโตต่อจากนี้จะไปยังไง สินค้าประเภทนี้มีสิ่งทดแทนได้หรือไม่อย่างไร และร้านขนมหวานสไตล์นี้สามารถขยายสาขาไปต่างประเทศได้หรือเปล่า และนั่นคือสิ่งที่นักลงทุนหุ้นเติบโตต้องคอยเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดสนิทใจกันเลยทีเดียว
หุ้นอีกตัวที่น่าจับตามองก็คือ หุ้นระบบบริหารงานบุคคล หรือ HUMAN บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) ที่มีระบบการจัดการด้านงานบุคคลที่เรียกว่า “รู้ใจ” คนไทยเป็นอย่างยิ่ง
ฮิวแมนิก้า เป็นหุ้นที่ทำระบบบริหารงานบุคคล ที่ต้องบอกว่ามีลูกค้าที่เหนี่ยวแน่นมาก เนื่องจากการบริหารงานบุคคลเป็นเรื่อง “หลังบ้าน” ทำให้บริษัทใหญ่ ๆ หลายบริษัทนิยมให้บริษัทอื่นทำแทนมากกว่าที่จะคิดทำเอง และโอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนแปลงระบบ หรือเปลี่ยนให้เจ้าอื่นบริหารน้อยมาก
อย่างไรก็ดีถ้าเรามองตลาดแรงงานโดยภาพรวมจะพบว่าเรามีแรงงานในระบบราว 10 ล้านคน และยังเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ สำหรับฐานข้อมูลลูกค้าของ HUMAN ยังแค่ “หลักแสน” นั่นหมายความว่าโอกาสเติบโตยังมีอยู่มากทีเดียว
โดยแผนระยะยาวของ HUMAN คือต้องการเป็นที่ 1 ในเอเชียนับว่าเป็นบริษัทที่มีความมุ่งมั่น และอาจกลายเป็นบริษัทหมื่นล้านตัวต่อไปก็เป็นไปได้นะครับ (ณ.ตอนที่ผู้เขียนร่างต้นฉบับบทความ Human ยังมีขนาดกิจการไม่ถึงหมื่นล้าน)
อย่างไรก็ตามประเด็นที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ “บริษัทหมื่นล้าน” เหล่านี้ล้วนแต่มีพีอีที่สูงลิ่ว หากดูตัวเลขทางการเงินนักลงทุนแนวเน้นคุณค่าแบบดั้งเดิมจะไม่สนใจหุ้นเหล่านี้เลย ซึ่งบางครั้งเราอาจต้องฉีกตำราด้วยการดูลักษณะการเติบโตของกิจการเป็นหลัก
คุณสมบัติของกิจการที่จะมีขนาด “หลักหมื่นล้าน” มีอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนสิ่งเหล่านั้น นั่นคือสิ่งที่นักลงทุนหุ้นเติบโตต้องทำการบ้าน และมองหา “เพชร” ที่จะส่องสว่างตัวต่อไปให้ได้นั่นเองครับ
#นายแว่นลงทุน
อ่านบทความนี้บนแอป พร้อมแจ้งเตือนข้อมูลและสิทธิประโยชน์ดีๆ และลองใช้ PORT