ออมหุ้นปันผล ลดความเสี่ยง รวยความสุข

หลายคนอยากออมเงินแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พอออมเงินไปได้ซักระยะได้เงินมาก้อนหนึ่ง ไม่มีไอเดียในการทำมันให้งอกเงย ก็เอาเงินไปฝากกับธนาคาร แต่พอเห็นดอกเบี้ยเงินฝากก็พาลให้เพลีย เอางี้ดีกว่า ลองเปลี่ยนแนวคิดชีวิตใหม่ หันมาออมในหุ้น แต่ไม่ใช่หุ้นทั่วไป แต่เป็น “หุ้นปันผล” ตามธีมของบทความชุดนี้ คือ ออมหุ้นปันผล ลดความเสี่ยง รวยความสุข ติดตามกันเลย

ทำไมต้องออมในหุ้น และทำไมต้องเป็นหุ้นปันผล

สาเหตุที่ต้องออมในหุ้นเนื่องจากหุ้นเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ การสะสมหุ้นก็เหมือนเราสะสมสินทรัพย์ที่สามารถสู้กับเงินเฟ้อได้ โดยเงินเฟ้อพื้นฐานตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะอยู่ราว  3% ถ้าเรานำเงินไปฝากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำๆ ก็ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ เพราะกิจการธนาคารเองก็ต้องทำธุรกิจที่มีกำไร และต้องชนะภาวะเงินเฟ้อเช่นกัน การนำเงินไปฝากธนาคารจึงได้ดอกผลต่ำกว่าการลดค่าของเงินเสมอ โดยสถิติของการลงทุนในหุ้นตลอดระยะเวลาหลายสิบปีตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นพบว่า การลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทน 5-10% ต่อปีโดยเฉลี่ย และแน่นอนว่ามันชนะเงินเฟ้อได้สบาย

ทำไมต้องเป็นหุ้นปันผล?

สาเหตุที่ต้องเป็นหุ้นปันผลเนื่องจากการลงทุนหุ้นด้วยตนเองนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่มั่นใจมากพอการนำเงินไปซื้อกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยพอๆ กับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด เพราะเบื้องหลังของกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนเก่งๆ และมีทีมงานที่คอยกลั่นกรองเลือกสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างมืออาชีพ แต่ข้อเสียก็คือเราต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับกองทุนรวมในราคาที่สูงพอสมควร

ถ้าเราเลือกลงทุนในหุ้นปันผลเอง น่าจะเป็นคำตอบสำหรับคนที่อยากเอาชนะเงินเฟ้อ แต่ต้องการลดความเสี่ยงจากการเก็งกำไรในหุ้นด้วยตัวเอง บริษัทที่จ่ายเงินปันผลงามๆ ในตลาดหุ้นมีมากมาย เราควรเลือกกิจการที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีธุรกิจที่แข็งแรง มีแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกค้า หรือมีปัจจัยแห่งการแข่งขันกับคู่แข่งอย่างยั่งยืน จะทำให้เราอุ่นใจได้มากทีเดียว ความอุ่นใจดังกล่าวจะทำให้เรารู้สึกรวยความสุข นอกจากรวยจากความมั่งคั่ง และผลตอบแทนที่งอกเงยทุกปี

แบบจำลองการลงทุนหุ้นปันผล

ลองดูแบบจำลองอย่างง่ายถ้าเราเลือกหุ้นลงทุนที่ให้เงินปันผล 5% ต่อปี แต่หุ้นตัวนี้เติบโตเพียง 3% ต่อปี จะพบว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลราว 5% ต่อปี นั้นถือว่าเอาชนะเงินเฟ้อแน่นอน และถ้าเราซื้อหุ้นตัวนี้ได้ในราคาที่เหมาะสม และกิจการเติบโตอย่างช้าๆ ที่ราว 3% ต่อปี ระยะเวลาการลงทุน 10 ปี ด้วยโจทย์แบบนี้ ลองมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ถ้าเราออมหุ้นปันผลเริ่มต้นเดือนละ 5,000 บาท หรือปีละ 60,000 บาท เลือกซื้อหุ้นปันผลที่ให้อัตราเงินปันผล 5% ต่อปี และตัวกิจการเองก็เติบโตปีละ 3% (พอใจละ) โดยเราทบเงินเข้าไปทุกเดือนๆ ละ 5,000 ตลอดระยะเวลา 10 ปี จะพบว่าในท้ายปีที่ 10 เราจะมีเงินสะสมเกือบ 1 ล้านบาท และมีเงินปันผลราว 4.3 หมื่นบาทต่อปี ตกราว 3,600 บาทต่อเดือน

ดูกราฟการเติบโตของเงินในพอร์ตเราก็ไม่เลวทีเดียว ที่จริงถ้าเราเอาเงินปันผลแต่ละปีทบต้นเข้าไปอีกโอกาสที่ผลตอบแทนจะดีขึ้นก็จะมีมากกว่านี้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามการออมในหุ้นปันผลนั้นเราคาดหวังการเติบโตแค่ 3% ถ้าเลือกหุ้นถูกตัวก็มีโอกาสเป็นไปได้ครับ และแบบจำลองนี้เป็นเพียงแนวทางไว้ไกด์ไลน์การลงทุนเท่านั้นครับ เพราะยังมีปัจจัยอีกมากมายที่นักออมหุ้นปันผลต้องพิจารณาประกอบการตัดสินใจ เมื่อเราออมไปเรื่อยๆ จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ผลตอบแทนทบต้น” และนั่นจะเป็นจุดที่ทำให้ผลตอบแทนของเราเติบโตได้รวดเร็ว

เปรียบเหมือน “ลูกหิมะ” หรือ SNOW BALL ที่ยิ่งกลิ้งไกลลูกหิมะจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดนั้นเราจะเห็นการเติบโตของพอร์ตแบบ “ก้าวกระโดด” แล้วคุณอาจต้องแปลกใจว่า… แท้จริงแล้วการลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้ท่ายาก เพียงลงทุนด้วยวิธีง่ายๆ แบบออมในหุ้นปันผล ก็สามารถเอาชนะตลาดได้เช่นกัน พร้อมรับเงินปันผลได้อย่างสุขใจ

(นายแว่นลงทุน)