รู้หรือไม่ว่าสิ่งสำคัญของการออมเงิน นอกจากวินัยการออมก่อนใช้แล้ว ก็ควรแยกบัญชีเงินออมออกจากบัญชีเงินเดือนหรือบัญชีทั่วไป เพื่อจัดสรรเงินให้เป็นสัดส่วน รู้ว่าเงินส่วนไหนใช้ทำอะไรบ้าง โดยเราควรแบ่งเงินออมออกเป็น 3 ส่วนตามเป้าหมายทางการเงิน ดังนี้

  1. เป้าหมายระยะสั้น (ไม่เกิน 3 ปี) เช่น เงินสำรองฉุกเฉิน ท่องเที่ยวต่างประเทศ แนะนำพอร์ตลงทุนแบบระมัดระวัง เน้นลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลางและมีสภาพคล่อง อย่างบัญชีออมทรัพย์ หรือกองทุนรวมตลาดเงิน
  2. เป้าหมายระยะกลาง (3 – 7 ปี) เช่น ดาวน์รถยนต์ แต่งงาน แนะนำพอร์ตลงทุนความเสี่ยงปานกลาง อย่างกองทุนรวมตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมผสม
  3. เป้าหมายระยะยาว (7 ปีขึ้นไป) เช่น การเกษียณอายุ แนะนำพอร์ตลงทุนความเสี่ยงปานกลางถึงสูง เน้นการลงทุนในรูปแบบของการสะสมทรัพย์ อย่างประกันบำนาญ RMF หุ้นพื้นฐานดีหรือหุ้นปันผล กองทุนรวมหุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือทองคำ

จะเห็นได้ว่านอกจากจะแบ่งเงินออมตามเป้าหมายของการลงทุนแล้ว ยังต้องจับคู่สินทรัพย์ให้เหมาะสมอีกด้วย เพราะถ้าเราจับคู่ไม่ถูก อย่างเช่น เก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้ในบัญชีหุ้น เพราะมีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่า หากเกิดเหตุที่จำเป็นต้องรีบใช้เงินขึ้นมา จะไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที หรือถ้าตอนนั้นพอร์ตยังแดงอยู่ก็จะทำให้เราขาดทุนได้ หรืออยากซื้อบ้านด้วยเงินสดภายใน 1 ปี เลยนำเงินทั้งหมดที่มีไปลงทุนในคริปโตฯ เพื่อหวังรวยทางลัด จะได้มีเงินมาซื้อบ้านเร็ว ๆ แต่อยู่ดี ๆ โดนเจ้าทุบตลาดร่วง ขาดทุนหนักมาก บ้านที่เราฝันเอาไว้ก็คงเหลือแต่เสา

ซึ่งใครจะจัดสรรเงินออมเข้าบัญชีไหน เท่าไหร่บ้างนั้น ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ขึ้นอยู่กับความความสำคัญ, จุดประสงค์ และเงื่อนไขทางการเงินของแต่ละคน แต่จะขอยกตัวอย่างให้ดูง่าย ๆ ตามตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างการแบ่งออมตามเป้าหมายสั้น กลาง ยาว

ตัวอย่าง หากเงินเดือน 30,000 บาท แบ่งออม 20% (6,000 บาท) ตามเป้าหมายทางการเงินระยะสั้น กลาง ยาว จะสามารถแบ่งเงินออมออกเป็น 3 ส่วน ได้ดังนี้

  1. เงินสำรองฉุกเฉิน 20% (1,200 บาท) เผื่อกรณีเจ็บป่วยหรือตกงาน 3 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน โดยเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในสินทรัพย์สภาพคล่อง หากจำเป็นต้องใช้เงินก็สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที อย่างบัญชีออมทรัพย์
  2. จัดงานแต่งงาน 50% (3,000 บาท) ในพอร์ตลงทุนความเสี่ยงปานกลาง อย่างกองทุนรวมผสม
  3. เกษียณอายุ 30% (1,800 บาท) ในกองทุน RMF และประกันบำนาญ ที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ด้วย

จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าคนเราต่างมีเป้าหมายทางการเงินที่หลากหลาย ถ้าสามารถรวมทุก ๆ เป้าหมายให้อยู่ในที่เดียวกันหรือบัญชีเดียวกันได้ก็คงจะสะดวกดีไม่น้อย ดังนั้นทาง FINNOMENA ขอแนะนำ “Goals Navigator” นวัตกรรมที่สามารถวางแผนทุกช่วงชีวิตให้ครบจบในที่เดียว รวมทั้งสามารถคาดการณ์ผลตอบแทน เพื่อจัดสรรเงินลงทุนตามลำดับความสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพได้สูงสุด

“FINNOMENA Goals Navigator™” นวัตกรรมวางแผนการลงทุนจัดพอร์ตระดับโลก ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายชีวิต ร่วมเคียงข้างคุณจนถึงฝัน
👉 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก >> https://finno.me/gnavi-web


คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำควรเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”