สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษีผ่านกองทุน Thai ESGX และมองเห็นโอกาสจากการลงทุนในหุ้นไทย เนื่องจากดัชนี SET Index ปรับตัวลดลงมาใกล้เคียงระดับที่ต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี แต่ยังมีความกังวลต่อความผันผวนของตลาด
Finnomena Funds คัดเลือกกองทุนที่เน้นลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง โดยจะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประมาณ 70% และลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 30% เพื่อให้ตอบโจทย์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี มองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่ไม่อยากให้พอร์ตการลงทุนมีความผันผวนมากจนเกินไป
กระบวนการคัดเลือกกองทุน
เราวิเคราะห์ทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative) และปริมาณ (Quantitative)
- ปัจจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative) เราพิจารณาจาก Style การบริหารที่มีความโดดเด่น มีจุดเด่นที่มีความแตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ รวมถึงพิจารณาวิธีการจัดพอร์ต และให้ความสำคัญกับผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์และมี Track Record ที่โดดเด่น เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่า กองทุนที่นักลงทุนเลือกลงทุน จะตรงกับความต้องการในการลงทุนจริง ๆ และต้องเป็นกองทุนที่มีการบริหารจัดการเป็นอย่างดี โดยผู้จัดการกองทุนที่มีความสามารถ เพื่อให้นักลงทุนสบายใจที่จะฝากการลงทุนไว้กับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมในระยะยาว
- ปัจจัยเชิงปริมาณ (Quantitative) แม้จะเป็นเรื่องยากในการวิเคราะห์ปัจจัยเชิงปริมาณ เนื่องจากกองทุน Thai ESGX ยังไม่เคยมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่จะแสดงถึงความสามารถในการบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุน แต่เราใช้วิธีการเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ที่มีความใกล้เคียงกัน (Similar Strategy) กับกองทุนอื่น ๆ ที่ผู้จัดการกองทุนเคยมีการบริหารมาก่อน หรืออาจเทียบกับกองทุนที่มีกลยุทธ์ใกล้เคียงกัน เพื่อที่จะสามารถทำให้วัดผลการดำเนินงานโดยคร่าว ๆ ได้ว่ากองทุน Thai ESGX ที่เราเลือก จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้เหนือกว่ากองทุนอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม (Peer Group) และเหนือกว่าดัชนีชี้วัด (Benchmark)
กลยุทธ์กองทุนสินทรัพย์ผสม 3 Style ที่ Finnomena Funds เลือก
1. ASP-MIX ThaiESGX
กองทุนผสมเน้นบริหารเชิงรุกแบบยืดหยุ่นสูง โดยในส่วนของหุ้นจะคัดเลือกหุ้นปันผลขนาดใหญ่จาก SET และ mai Universe บริหารโดย Fund Manager มากประสบการณ์ที่มี Track Record โดดเด่น คุณทิพย์วดี อภิชัยสิริ ซึ่งบริหารกองทุน ASP-SME และ ASP-ThaiESG รวมถึงบริหารกองทุน ASP-DEQ ThaiESGX ที่เป็นกองทุน Thai ESGX เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่ Finnomena Funds เลือกสำหรับนักลงทุนที่อยากลงทุนในกองทุนหุ้นไทย 100% ด้วย
อย่างไรก็ตาม กองทุน ASP-MIX ThaiESGX มีจุดเด่น ที่แตกต่างจากกองทุนรวมผสมอื่น ๆ โดยที่
- ในสภาวะตลาดเป็นปกติ (Normal Market) กองทุนจะมีการบริหารแบบ “Dynamic Management” คัดเลือกสินทรัพย์การลงทุนโดยมีกรอบการลงทุนในหุ้นระหว่าง 70-100% และตราสารหนี้ 0-30%
- ในสภาวะตลาดขาขึ้น (Bull Market) กองทุนจะพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเป็น 100% เพื่อเพิ่มความสามารถในการเติบโตของพอร์ต
- ในสภาวะตลาดขาลง (Bear Market) กองทุนจะพิจารณาลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น และถือครองตราสารหนี้เพิ่มขึ้นสูงสุดไม่เกิน 30% เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต
ทำให้เปรียบเสมือนกับว่า กองทุนมีกลยุทธ์ในการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มจะกลับมาเป็นขาขึ้น ซึ่งก็จะทำให้พอร์ตการลงทุนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาด แต่ในช่วงที่ตลาดไม่ดี ก็จะมีการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลง ทำให้ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นน้อยกว่านั่นเอง
2. KTEQ70PLUSX
กองทุนผสมเน้นลงทุนในหุ้นไทย 65-75% ส่วนที่เหลือเน้นการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อความยั่นยืน 25-35% โดยกองทุนมีการบริหารแบบ Active Management เน้นสร้างผลตอบแทนเหนือดัชนีชี้วัดโดยมี Benchmark เป็น SETESG TRI 70% และ ThaiBMA Government Bond ESG Index Net Total Return 30%
แม้กองทุนจะไม่ได้มี Style การบริหารแบบ Dynamic มากนักในแง่ของสัดส่วนการถือครองหุ้นและตราสารหนี้ ซึ่งก็จะเห็นได้ว่ากองทุน KTEQ70PLUSX จะพยายามมีสัดส่วนในหุ้นประมาณ 65-75% และตราสารหนี้ 25-35% อยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของกองทุน คือ เป็นกองทุนเดียวที่เปิดช่องในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศและสินทรัพย์ทางเลือก อาทิ หุ้นต่างประเทศ, ทองคำ และน้ำมัน เป็นต้น แม้จะไม่ใช่สัดส่วนที่มาก (จากรูปภาพจะเห็นได้ว่ามีสัดส่วน +/- 5%) แต่ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจและสร้างความแตกต่างเมื่อเทียบกับกองผสม Thai ESGX ประเภทอื่น ๆ
3. TThai70ESGX
กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ประมาณ 65% - 70% ของ NAV ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาคเอกชน เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืน หรือเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน
ข้อมูลผลตอบแทนกองทุน TISCOHD เทียบดัชนี SETHD TRI และ SET TRI ย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ 1/5/2020 - 1/5/2025
จุดเด่นของกองทุน TThai70ESGX คือมีผู้จัดการกองทุนที่เน้นคัดเลือกหุ้น Style Value มาบริหารโดย คุณนิพจน์ ไกรลาศโอฬาร เป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนหุ้นสไตล์ Value มีผลงานโดดเด่นผ่านการบริหารกองทุน TISCOHD ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ใน SETHD Universe และมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเหนือดัชนีมาอย่างยาวนานตั้งแต่จัดตั้งกองทุน แม้ว่ากองทุน TThai70ESGX จะไม่ได้มี Benchmark หลักเป็น SETHD TRI แต่เป็น SETESG TRI แต่เราเชื่อว่า Style และการบริหารกองทุนอย่างโดดเด่นในอดีต เป็นการสะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการ ซึ่งอาจสะท้อนมายังผลการดำเนินงานของกองทุน TThai70ESGX ได้ต่อไป
จัดทำโดยบลป. เดฟินิท สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม SSF RMF Thai ESG และ Thai ESGX กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน | ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299