ในโลกแห่งทุนนิยมที่ผู้คนดำรงชีวิตโดยใช้ “เงิน” ที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต หรือสินค้าและบริการที่ตนเองพึงพอใจ การที่จะได้เงินมานั้นโดยทั่วไปแล้วเราจะต้องใช้แรงกาย หรือแรงสมองเพื่อแลกมา แล้วทุนนิยมนี้เองก็มีสิ่งที่เรียกว่า “การลงทุน” ที่เป็นเครื่องมือในการให้เงินที่เราหามาได้ไปสร้างผลตอบแทนกลับมาอีกที

การลงทุนที่ดีนั้นจะสร้างผลตอบแทนที่จะสามารถมาช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ของเรา หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนชีวิตให้ไม่ต้องทำอะไรก็มีเงินกินใช้ทั้งชีวิตเลยก็ได้ เราจึงได้ทุ่มเทเวลาให้กับการลงทุนมากนั่นเอง เพราะฟังดูแล้วการลงทุนที่ดีจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่งเลย

แต่เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากพอที่จะเปลี่ยนอะไรได้ก็ต้องทุ่มเทมากใช่ไหมล่ะ เราก็ทุ่มเทให้กับการลงทุนมาก…มากจนอาจจะลืมคิดไปว่านอกจากเงินลงทุนแล้วเราก็ต้องใส่อะไรอีกหลายอย่างเข้าไปในการลงทุนนี้มากด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น…

1. เวลา

การที่เราทุ่มเทเวลาไปมากมายเพื่อพยายามเร่งผลตอบแทนให้ได้มากๆ ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือแย่ลง ชนะหรือแพ้ตลาด ขาดทุนหรือกำไร เราต้องคิดให้ดีด้วยว่าการใช้เวลากับสิ่งนี้มันคุ้มค่าหรือเปล่า เพราะว่าสำหรับบางคนแล้วการใช้เวลากับตรงนี้ไปทำงานที่ตัวเองถนัดอยู่แล้วอาจจะทำเงินได้มากกว่าการมานั่งวิเคราะห์ก็ได้

2. จิตใจ

การที่จะต้องมาพะว้าพะวังว่าพอร์ตวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง เปิดดูทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุก 10 นาที เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวิธีการลงทุนของเราหรือไม่ คำถามที่ต้องถามตัวเองให้แน่ใจก็คือดูบ่อยๆ แล้วเปลี่ยนอะไรได้ไหม เพราะหากจิตใจไม่สงบจากการต้องมาดูพอร์ตอยู่ตลอดก็จะเสียโฟกัสกับสิ่งอื่นๆ ที่กำลังทำอยู่ แล้วมันก็จะส่งผลต่อคุณภาพของสิ่งอื่นๆ ที่กำลังทำอยู่

3. โอกาส

ง่ายๆ เลยครับ ตั้งคำถามกับตัวเองว่าหากไม่ได้ทำสิ่งนี้แล้วเราจะมีอะไรที่ทำแทนกันแล้วมีประโยชน์กว่าตรงนี้ไหม เช่น ออกกำลังกายให้อายุยืนยาวขึ้นจะได้มีเวลาใช้เงินหรือมีเวลาลงทุนได้นานขึ้น พัฒนาตัวเองเพื่อหาเงินมาเติม จะได้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น หรืออาจจะเป็นแค่การพักผ่อนเพื่อให้สมองให้ร่างกายมันพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน

สุดท้ายการที่เราทุ่มเวลาให้มากเกินไป ทุ่มเงินลงไปมากเกินไป ทุ่มเทพลังงานมากเกินไป ก็ไม่ได้การันตีอะไรให้เราเลย เราอาจจะแพ้ผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดที่แค่ซื้อทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย หรืออาจจะไม่ต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงเกินจำเป็นสำหรับเป้าหมาย แล้วมาทุกข์ใจกับการติดลบมากๆ ของสินทรัพย์นั้นอีก

…หรือบางที สิ่งที่เราต้องทำอาจมีเพียงการวางแผนให้ดีตั้งแต่แรกแล้วทำตามแผนนั้นไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องพยายามเอาชนะมากเกินไป ก็แค่ชนะตัวเองโดยการทำตามแผนให้ได้ แล้วไปถึงเป้าหมายการเงินของตัวเองให้สำเร็จครับ