Tactical Call 8 ธ.ค. 66

กองทุนเด่นที่มีโอกาสทำผลตอบแทนได้ดีในระยะสั้น โดยเน้นการใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด

Tactical Call คืออะไร และทำไมต้องเชื่อเรา ?

Tactical Call เหมาะกับใคร ?

  • นักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน
  • สามารถรับความผันผวนได้สูง
  • สามารถยอมรับการตัดขาดทุนได้ทันที

ซื้อ

DAPP ถึงจุด Take Profit ระดับแรกแต่ยังเข้าเก็งกำไรได้ต่อ

วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.2% ทำจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน หลังประธานเฟดส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจถึงระดับสูงสุดแล้ว หนุน Sentiment บวกต่อสินทรัยพ์เสี่ยงให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า


จากคำแนะนำ “FINNOMENA FUNDS Tactical Call: DAPP ETF ทำ Higher High ยืนยันการกลับตัวเหมาะแก่การเก็งกำไร” ผ่านกองทุน ASP-DIGIBLOC เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดราคา DAPP ETF ถึงจุด Take Profit แล้วที่ระดับ 7.40 ดอลลาร์ (DAPP ETF +16.25% นับตั้งแต่เริ่มแนะนำ) FINNOMENA FUNDS Investment Team จึงแนะนำขายทำกำไรทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น Momentum การปรับตัวขึ้นที่แข็งแกร่งบ่งชี้ว่ายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเก็งกำไรต่อ อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนเพื่อบริหารความเสี่ยง และส่วนที่เหลือถือครองนั้น แนะนำขายทำกำไรที่ 9.76 ดอลลาร์ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิม และกำหนด Trailing Stop โดยใช้ MA 20 วัน หรือใช้ระดับราคา 6.8 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 32.8%


สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทุน อาจพิจารณาเข้าลงทุนภายใต้ คำแนะนำ Tactical Call ในกองทุน ASP-DIGIBLOC ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนใน DAPP ETF สัดส่วน 78% มีค่า Correlation กับ DAPP ETF ที่ 0.97 สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวตาม DAPP ETF โดยมีคำแนะนำดังนี้

  1. แนะนำเข้าลงทุนที่ไม่เกินระดับ 8.0 ดอลลาร์ (+5.9% จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 1/12/2023) ซึ่งเป็นระดับราคาที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากทำให้ Risk/Reward ratio เข้าใกล้ระดับ 1:1 มากขึ้น
  2. แนะนำ Take Profit หรือขายทำกำไร เมื่อราคา DAPP ETF ปรับตัวขึ้นถึง 9.76 ดอลลาร์ (Upside 30% จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 1/12/2023) ซึ่งเป็นระดับ fibonacci 100% หรือจุดสูงสุด ของรอบขาลงที่ผ่านมา
  3. แนะนำ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที เมื่อ DAPP ETF ปิดตลาดต่ำกว่าระดับ 6.8 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ fibo 38.2% (Downside 8.9%) ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลง หรือพิจารณา Trailing Stop ด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (MA 20 day) โดยเราจะประเมินสถานการณ์และแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

อ่านมุมมองจาก FINNOMENA Investment Team

ถือ

FINNOMENA Tactical Call: Dollar Index อ่อนค่าหนุน EM ทะยาน

  • TMBEMEQ

    Emerging Market Equity (Passive)

    Feeder Fund

  • K-SEMQ

    Emerging Market Equity

    Feeder Fund

เปรียบเทียบกองทุน

MSCI Emerging Market ปรับตัวขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (MA50) ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมด้วย RSI ที่ระดับ 62 จุด และการปรับตัวขึ้นของ MACD เหนือระดับ 0 สะท้อน Momentum ที่แข็งแกร่ง จึงมีคำแนะนำดังนี้


1. iShares MSCI Emerging Markets ETF แนะนำเข้าลงทุนที่ระดับราคาไม่เกิน 39.20 ดอลลาร์ (+1.03%) จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 15/11/2022 ซึ่งเป็นระดับราคาที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากทำให้ Risk/Reward ratio เข้าใกล้ระดับ 1:1


และหากหลังจาก FINNOMENA Investment Team แนะนำ Tactical Call แล้ว iShares MSCI Emerging Markets ETF ปรับตัวลงต่ำกว่า 39.20 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 39.20 ดอลลาร์อีกครั้ง FINNOMENA Investment Team ยังคงแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคอาจเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่ให้คำแนะนำครั้งแรก


2. แนะนำ Take Profit เมื่อถึงระดับ 43.10 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับแนว Fibonacci Retracement 38.2 และตรงกับจุดสูงสุดของ Bear Market Rally ในช่วงเดือนมิถุนายน 2022 (Upside 9.95%) จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 15/11/2022 

 

3. และแนะนำ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที เมื่อดัชนีปิดตลาดต่ำกว่า 37.00 ดอลลาร์ (จากเดิมที่ระดับ 35.10 ดอลลาร์) (Downside -4.5%) ซึ่งตรงกับจุดต่ำสุดของรอบขาขึ้นปัจจุบัน เพื่อรักษาเงินต้นและวินัยการเก็งกำไร



นักลงทุนที่เหมาะกับ Tactical Call ระยะสั้นนี้ควร…

1. เป็นนักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน และรับความผันผวนได้สูง

2. ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมด

3. นักลงทุนต้องยอมรับการ Limit Loss หรือ การตัดขาดทุนได้ทันที

อ่านมุมมองจาก FINNOMENA Investment Team

ถือ

Tactical Call: แนะนำเข้าลงทุนตลาดหุ้นเวียดนาม หลังเกิดสัญญาณกลับตัว

ท่าทีของ Fed ที่อาจสิ้นสุดภาวะการขึ้นดอกเบี้ย หนุนให้ภาวะ Risk On เกิดขึ้นทั่วโลก จนกระทั่งวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ดัชนี VN30 ปรับตัวขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (MA200D) ทะลุขึ้นเหนือเส้น downtrend line เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน และเกิด MACD buy signal ตามมา ซึ่งสัญญาณดังกล่าวเป็นการสะท้อนการฟื้นตัวของดัชนี หลังจากเกิดการปรับฐานในช่วงที่ผ่านมา


FINNOMENA FUNDS Investment Team จึงแนะนำลงทุนภายใต้คำแนะนำ Tactical Call ในกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A


1. แนะนำเข้าลงทุนที่ไม่เกินระดับ 1,150 จุด (+1.6% จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 16/11/2023) ซึ่งเป็นระดับราคาที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากทำให้ Risk/Reward ratio เข้าใกล้ระดับ 1:1


และหากหลังจาก FINNOMENA FUNDS Investment Team แนะนำ Tactical Call แล้วดัชนี VN30 ปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (MA200D) แนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคอาจเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่ให้คำแนะนำครั้งแรก


2. แนะนำ Take Profit หรือขายทำกำไร เมื่อดัชนี VN30 ปรับตัวขึ้นถึง 1,260 จุด (Upside 9.6% จากจุดหยุดเข้าซื้อที่ 1,150 จุด) ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดเดิมในเดือนกันยายน 2023


3. แนะนำ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที เมื่อดัชนี VN30 ปิดตลาดต่ำกว่าระดับ 1,040 จุด (Downside 9.6% จากจุดหยุดเข้าซื้อที่ 1,150 จุด) ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมในเดือนพฤศจิกายน 2023


นักลงทุนที่เหมาะกับ Tactical Call ระยะสั้นนี้ควร…


  1. เป็นนักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน และรับความผันผวนได้สูง
  2. ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
  3. นักลงทุนต้องยอมรับการ Limit Loss หรือ การตัดขาดทุนได้ทันที

อ่านมุมมองจาก FINNOMENA Investment Team

ขาย

Stop Loss CSI 300 หลังหลุดแนวรับสำคัญระยะยาว

  • SCBCHAA

    กองทุนหุ้นจีน A Shares

    Feeder Fund

  • KT-Ashares-A

    กองทุนหุ้นจีน A Shares แบบ Active

    Feeder Fund

เปรียบเทียบกองทุน

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา FINNOMENA FUNDS Investment Team ได้แนะนำเข้าลงทุนในรูปแบบการเก็งกำไรระยะสั้นในดัชนี CSI 300 ผ่านกองทุน SCBCHAA และ KT-Ashares-A โดยตั้งจุด Stop loss เมื่อดัชนี CSI 300 ปิดตลาดต่ำกว่า 3,450 - 3,500 จุด


ซึ่งในวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ดัชนี CSI 300 ได้ลงมาปิดที่ระดับ 3,394 จุด ต่ำกว่าจุด Stop Loss ที่กำหนดไว้ หลังจาก Moody’s ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มภาพรวมความน่าเชื่อถือของจีนสู่ระดับ ติดลบ (Negative) จากคงที่ (Stable) FINNOMENA FUNDS Investment Team จึงแนะนำให้ Stop Loss การลงทุนในกองทุน SCBCHAA และ KT-Ashares-A สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตามคำแนะนำ Tactical Call เพื่อรักษาวินัยและรักษาเงินต้นไว้เพื่อโอกาสในการเก็งกำไรครั้งถัดไป


สำหรับการลงทุนในรูปแบบ MEVT Call และ การลงทุนใน FINNOMENA FUNDS Port Global Absolute Return (GAR) FINNOMENA FUNDS Investment Team ยังติดตามสถานการณ์ความผันผวนของตลาดหุ้นจีนอย่างใกล้ชิด ขณะที่ ตลาดหุ้นจีน All China มี Valuation อยู่ในระดับที่มี downside จำกัด โดยมี PE เมื่อเทียบกับตัวเองในอดีตที่ระดับ -1 S.D. และยังมีโอกาสที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังจะถูกผลักดันเพิ่มเติม ทำให้เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน เนื่องจากราคาลงมาในจุดที่ Valuation น่าสนใจ


อ่านมุมมองจาก FINNOMENA Investment Team