กองทุนเด่นที่มีโอกาสทำผลตอบแทนได้ดีในระยะสั้น โดยเน้นการใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด
Tactical Call เหมาะกับใคร ?
- นักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน
- สามารถรับความผันผวนได้สูง
- สามารถยอมรับการตัดขาดทุนได้ทันที
ถือ
FINNOMENA Tactical Call: Dollar Index อ่อนค่าหนุน EM ทะยาน
MSCI Emerging Market ปรับตัวขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (MA50) ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมด้วย RSI ที่ระดับ 62 จุด และการปรับตัวขึ้นของ MACD เหนือระดับ 0 สะท้อน Momentum ที่แข็งแกร่ง จึงมีคำแนะนำดังนี้
1. iShares MSCI Emerging Markets ETF แนะนำเข้าลงทุนที่ระดับราคาไม่เกิน 39.20 ดอลลาร์ (+1.03%) จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 15/11/2022 ซึ่งเป็นระดับราคาที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากทำให้ Risk/Reward ratio เข้าใกล้ระดับ 1:1
และหากหลังจาก FINNOMENA Investment Team แนะนำ Tactical Call แล้ว iShares MSCI Emerging Markets ETF ปรับตัวลงต่ำกว่า 39.20 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 39.20 ดอลลาร์อีกครั้ง FINNOMENA Investment Team ยังคงแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคอาจเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่ให้คำแนะนำครั้งแรก
2. แนะนำ Take Profit เมื่อถึงระดับ 43.10 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับแนว Fibonacci Retracement 38.2 และตรงกับจุดสูงสุดของ Bear Market Rally ในช่วงเดือนมิถุนายน 2022 (Upside 9.95%) จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 15/11/2022
3. และแนะนำ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที เมื่อดัชนีปิดตลาดต่ำกว่า 35.10 ดอลลาร์ (Downside -9.5%) ซึ่งตรงกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (MA20) ที่เป็น MA สำคัญในฐานะของสัญญาณ Momentum ระยะสั้น เพื่อรักษาเงินต้นและวินัยการเก็งกำไร
นักลงทุนที่เหมาะกับ Tactical Call ระยะสั้นนี้ควร…
1. เป็นนักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน และรับความผันผวนได้สูง
2. ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
3. นักลงทุนต้องยอมรับการ Limit Loss หรือ การตัดขาดทุนได้ทันที
อ่านมุมมองจาก FINNOMENA Investment Teamถือ
ซื้อ CSI 300 รับข่าวดีจีนเปิดเมือง หลัง False Break หลุดแนวรับและกลับมาผ่าน Shoulder ได้อีกครั้ง
- SCBCHAA
กองทุนหุ้นจีน A Shares
Feeder Fund
- KT-Ashares-A
กองทุนหุ้นจีน A Shares แบบ Active
Feeder Fund
การยกเลิกการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติของคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีนในช่วงวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับเตรียมอนุญาตให้ประชาชนในจีนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้อย่างเป็นระบบในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้การเดินทางเข้า-ออกประเทศผ่านเส้นทางทางทะลและทางบกกลับมาเป็นเหมือนปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปในลำดับต่อไป
หนุนให้ดัชนี CSI300 ซึ่งเป็นตัวแทนของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 3,980.89 จุดในวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ยืนเหนือ Shoulder Line ซึ่งเป็นรูปแบบการกลับตัวของดัชนีได้อีกครั้ง พร้อมด้วยการปรับตัวขึ้นเหนือ เส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน (MA 20) และ 100 วัน (MA 100) พร้อมด้วยการตัดขึ้นของ Signal line ใน MACD เหนือระดับ 0 สะท้อน Momentum ที่ดีในระยะสั้น และยืนยันแนวโน้มการปรับตัวขึ้น FINNOMENA Investment Team จึงแนะนำลงทุนภายใต้คำแนะนำ Tactical Call ในกองทุน SCBCHAA และ KT-Ashares-A
- แนะนำเข้าลงทุนที่ไม่เกินระดับ 4,125 จุด (+3.62% จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 06/01/2023) ซึ่งเป็นระดับราคาที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากทำให้ Risk/Reward ratio เข้าใกล้ระดับ 1:1 และหากหลังจาก FINNOMENA Investment Team แนะนำ Tactical Call แล้ว ดัชนี CSI 300 ปรับตัวลงต่ำกว่า 4,125 จุด และปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 4,125 จุดอีกครั้ง FINNOMENA Investment Team ยังคงแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคอาจเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่ให้คำแนะนำครั้งแรก
- แนะนำ Take Profit เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นถึง 4,430 จุด (Upside 11.28%) ซึ่งเท่ากับระดับ Fibonacci 38.2% ของแนวโน้มขาลงปัจจุบั
- แนะนำ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที เมื่อดัชนีปิดตลาดต่ำกว่า 3,830 จุด (Downside 3.79%) ซึ่งเป็นระดับที่เป็น Shoulder ของรูปแบบในรอบนี้ และใกล้เคียงกับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (MA 50) ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่สะท้อนถึงแนวโน้มระยะกลาง
นักลงทุนที่เหมาะกับ Tactical Call ระยะสั้นนี้ควร…
- เป็นนักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน และรับความผันผวนได้สูง
- ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
- นักลงทุนต้องยอมรับการ Limit Loss หรือ การตัดขาดทุนได้ทันที
ถือ
ดัชนี VN30 ส่งสัญญาณกลับตัวในระยะสั้น
- PRINCIPAL VNEQ-A
กองทุนหุ้นเวียดนาม
ปัจจัยเสี่ยงที่ทยอยคลายตัว ทั้งกรณีความกังวลสภาพคล่อง, ปัญหาหนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ และการกลับเข้าเป็นสมาชิกของ WFE (World Federation of Exchanges) ของตลาดหุ้นเวียดนาม หนุนให้ดัชนี VN30 ซึ่งทดสอบจุดต่ำสุดที่ระดับ 905 จุด ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีโอกาสที่จะเป็นจุด Bottom ในระยะสั้น จากสัญญาณDivergence ของ RSI ในช่วงกลางเดือน ณ ช่วงเวลาที่ดัชนีทำจุดต่ำสุดที่ 905 จุด เมื่อประกอบกับการปรับตัวขึ้นผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (MA 20 Days) สู่ระดับ 983 จุด พร้อมด้วยการตัดขึ้นของ MACD เหนือ Signal Line สะท้อน Momentum ที่ดีในระยะสั้น
1. ดัชนี VN30 แนะนำเข้าลงทุนที่ระดับราคาไม่เกิน 1,065 จุด (+6.03% จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 28/11/2022) ซึ่งเป็นระดับราคาที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากทำให้ Risk/Reward ratio เข้าใกล้ระดับ 1:1
และหากหลังจาก FINNOMENA Investment Team แนะนำ Tactical Call แล้ว ดัชนี VN30 ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,065 จุด และปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,065 จุดอีกครั้ง FINNOMENA Investment Team ยังคงแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคอาจเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่ให้คำแนะนำครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงทุนระยะยาวตามคำแนะนำ Long Term Call ซึ่งพิจารณาจากการเติบโตของปัจจัยพื้นฐานเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจ ประชากรและการบริโภค (Structural Growth) ยังมีความน่าสนใจในระยะยาว เมื่อประกอบกับ Valuation อยู่ในระดับ Deep Discount ที่ซื้อขายกันที่ระดับ PE 8.2x หรือเท่ากับ -3SD เมื่อเทียบกับตัวเองในอดีตช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราจึงยังคงแนะนำลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ดัชนี VN30 จะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,065 จุดตาม Tactical call ในครั้งนี้ก็ตาม เนื่องจาก
ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของรูปแบบการลงทุน อาทิ
- วัตถุประสงค์การลงทุน : Long Term Call เป็นไปเพื่อลงทุนจากปัจจัยพื้นฐานที่ดี Valuation ที่เหมาะสม เพื่อสะสมลงทุนในระยะยาว ขณะที่ Tactical Call เป็นไปเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
- เงื่อนไขการลงทุน : Long Term Call เป็นการเข้าลงทุนเพื่อสะสมสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งลดความเสี่ยงผ่านการซื้อเมื่อดัชนีมีมูลค่าถูกเมื่อเทียบกับการเติบโตในระยะยาว ขณะที่ Tactical Call เป็นการเข้าลงทุนตามสัญญาณทางเทคนิค(Technical Analysis) และคุมความเสี่ยงโดยการ Stop Loss
2. แนะนำ Take Profit เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นถึง 1,160 จุด (Upside 15.50%) ซึ่งเท่ากับระดับ Fibonacci 38.2% ของแนวโน้มขาลงปัจจุบัน
3. และแนะนำ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที เมื่อดัชนีปิดตลาดต่ำกว่า 969 จุด (Downside 3.52%) ซึ่งเป็นระดับที่ดัชนีกลับมาปรับตัวหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน
นักลงทุนที่เหมาะกับ Tactical Call ระยะสั้นนี้ควร…
1. เป็นนักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน และรับความผันผวนได้สูง
2. ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
3. นักลงทุนต้องยอมรับการ Limit Loss หรือ การตัดขาดทุนได้ทันที
อ่านมุมมองจาก FINNOMENA Investment Teamขาย
ซื้อดัชนี S&P 500 หลังดัชนีปรับตัวทะลุเส้นแน้วโน้มขาลงอย่างสวยงาม
- SCBS&P500A
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ
Feeder Fund
- AFMOAT-HA
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ปราการสูง
Feeder Fund
- MEGA10-A
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ทรงอิทธิพล
ในวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา FINNOMENA Investment Team ได้แนะนำลงทุนในรูปแบบการเก็งกำไรระยะสั้นในดัชนี S&P 500 ผ่านกองทุน SCBS&P500A, AFMOAT-HA และ MEGA-10 โดยตั้งจุด Stop loss ไว้เมื่อดัชนี S&P 500 มีราคาปิดลงมาต่ำกว่าระดับ 3,970 จุด (Downside 1.26%) ก่อนที่วันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมาดัชนี S&P 500 จะลงมาปิดที่ระดับ 3,918 จุด ต่ำกว่าจุด Stop Loss ที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บ่งชี้ถึงโอกาสกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลง
FINNOMENA Investment Team จึงแนะนำให้ Stop Loss การลงทุนในกองทุน SCBS&P500A, AFMOAT-HA และ MEGA-10 สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตามคำแนะนำ Tactical Call เพื่อรักษาวินัยและรักษาเงินต้นเพื่อการเก็งกำไรครั้งต่อไปในอนาคต
อ่านมุมมองจาก FINNOMENA Investment Team